พรีวิว ยูโร 2020 กลุ่ม D : สิงโตนอนมา-ระวังขี้เมาม้ามืด

กลุ่มดี อีกหนึ่งกลุ่มไฮไลท์ของรอบแรก เพราะมีทีมขวัญใจแฟนบอลชาวไทยอย่าง อังกฤษ เป็นทีมเต็งของสาย โดยมีเพื่อนร่วมกลุ่มเป็น โครเอเชีย ดีกรีรองแชมป์โลกหนล่าสุด สกอตแลนด์ สายเลือดใหม่ที่จับตา และ สาธารณรัฐเช็ก ขาประจำรอบสุดท้ายยูโร 2020

England Euro 2020 qualification

ทีมชาติอังกฤษ

ฟีฟ่า แรงกิ้ง : 4
ผลงานที่ดีที่สุดในยูโร : อันดับ 3 (1968)

 

“สิงโตคำราม” ชุดนี้เป็นการต่อยอดจากทีมชุดที่ได้อันดับ 4 ในฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย โดยนายใหญ่อย่าง แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่ทำผลงานได้ดีเกินคาดยังคงได้รับความไว้ใจจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ให้กุมบังเหียนต่อไป ซึ่งจากรอบคัดเลือกก็ทำได้ดีตามมาตรฐานชนะถึง 7 จาก 8 เกมคว้าแชมป์กลุ่มเอ มาแบบสบายๆ

 

อังกฤษ ชุดนี้ถูกยกให้เป็นหนึ่งในทีมแชมป์ของรายการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาพวกเขาผลิตแข้งสายเลือดใหม่ที่จัดจ้านมาประดับวงการอย่างมากมาย อาทิเช่น เจดอน ซานโช่, ฟิล โฟเด้น, เมสัน เมาท์, ดีแคลน ไรช์ หรือ จู๊ด เบลลิงแฮม เมื่อผนึกกำลังกับ แฮร์รี่ เคน หนึ่งในกองหน้าตัวเป้าที่ดีที่สุดในยุคนี้ ขุมกำลังของพวกเขาแทบไม่เป็นรองใครเลย

 

ที่น่ากังวลหน่อยน่าจะเป็นเรื่องของเกมรับ แม้แบ็กขวา-ซ้ายจะตัวเลือกเพียบ แต่ตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟดูจืดไปหน่อย ถ้า จอห์น สโตนส์ กับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ฟิตๆ ก็พอไหว แต่อย่าง ไทโรน มิงส์ กับ คอเนอร์ โคดี้ ดีกรียังเป็นรองอยู่ ไหนจะตำแหน่งผู้รักษาประตูอีก น่าแปลกใจไม่น้อยที่ เซาธ์เกต เลือกตัด นิค โป๊ป ที่ฟอร์มดีมาหลายซีซั่นในพรีเมียร์ลีก และเลือกไว้ใจโกลผีเข้าผีออกอย่าง จอร์แดน พิคฟอร์ด รวมถึง 2 โกล์ที่ไร้ประสบการณ์อย่าง ดีน เฮนเดอร์สัน และ แซม จอห์นสโตน

 

ดาวเด่น : แฮร์รี่ เคน

รางวัลดาวซัลโวและท็อปแอสซิสต์ของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ น่าจะการันตีคุณภาพของ แฮร์รี่ เคน ได้เป็นอย่างดี ฟอร์มของหัวหอกจาก ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ยังคงยอดเยี่ยมแบบสม่ำเสมอมาตลอด เหมือนที่เคยได้ดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2018 หลังซัดไป 6 ประตู ซึ่งยูโร 2020 หนนี้ชื่อของดาวยิงวัย 27 ปี ก็คงจะวนเวียนอยู่ในระดับท็อปอย่างแน่นอน

 

แข้งน่าจับตา : ฟิล โฟเด้น

อย่างที่บอกไปว่า อังกฤษ ชุดนี้มีดาวรุ่งน่าจับตามากมาย แต่ที่เด่นจริงๆ ในชั่วโมงนี้คือหนีไม่พ้น เมสัน เมาท์ กับ ฟิล โฟเด้น ซึ่งปีกของ แมนฯ ซิตี้ ถูกจับตามากกว่านิดหน่อย หลังทำผลงานได้ดีพาต้นสังกัดคว้าดับเบิ้ลแชมป์ (พรีเมียร์ลีก และ ลีก คัพ) ในซีซั่นที่ผ่านมา ซึ่งแฟนบอลผู้ดี หวังว่าเขาจะเป็นคีย์แมนสำคัญพาทีมคว้าแชมป์บอลโลก ได้เหมือนสมัยเล่นให้กับ สิงโตจูเนียร์ ยู-17

Croatia Euro 2020 qualifying

ทีมชาติโครเอเชีย

ฟีฟ่า แรงกิ้ง : 14
ผลงานที่ดีที่สุดในยูโร : รอบ 8 ทีม (1996, 2008)

 

ทีม “ตราหมากรุก” ยังคงผลิตแข้งฝีเท้าดีมาเสริมแกร่งให้ชาติตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง จากชุดโกลเด้นเจเรเนชั่น ที่คว้าอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 1998 นำทีมโดย สลาเว่น บิลิช, โรเบิร์ต โปรซิเน็คกี้, ซโวนิเมียร์ โบบัน และ ดาร์วอร์ ซูเคอร์ ในอีก 10 ปีต่อมา พวกเขาก็สร้าง เดยัน ลอฟเรน, อิวาน ราคิติช, ลูก้า โมดริช, อิวาน เปริซิซ และ มาริโอ มันด์ซูคิช ที่ผสานงานพาทีมไปไกลถึงขั้นเป็นรองแชมป์ฟุตบอลโลกหนล่าสุด

 

ส่วนในยูโร 2020 หนนี้แม้ดาวดังหลายรายจะโรยรา ส่วนสายเลือดใหม่ก็อยู่ในช่วงสร้างโปรไฟล์ให้ตัวเอง แต่มาตรฐานของ โครเอเชีย ก็ยังเป็น โครเอเชีย วันยังค่ำ พวกเขาอาจจะออกสตาร์ตไม่ดีมีแพ้ ฮังการี ในเกมที่ 2 แต่ที่เหลือก็ชนะรัวๆ จนคว้าแชมป์กลุ่มอี ตีตั๋วสู่รอบสุดท้ายได้แบบไม่ยากเย็น

 

จุดแข็งของทีมยังอยู่ที่ตำแหน่งกองกลางแม้ โมดริช จะวัยปาไป 35 ปี แต่เรื่องฝีเท้าความฟิตก็ยังดีอยู่ เมื่อบวกกับ มาริโอ โบรโซวิช, มาเตโอ โควาซิซ และ อิวาน เปริซิซ พวกเขาต่อกรได้ทุกทีม ที่น่าห่วงหน่อยคงเป็นตำแหน่งดาวยิงหลัง มันด์ซูคิช อำลาทีมชาติไป พวกเขายังไม่มีดาวยิงตัวหลักที่ไว้ใจได้ อังเดร ครามาริช, อันเต้ เรบิช และ บรูโน่ เพตโควิช ยังไม่รู้เลยว่าใครจะได้ลงเล่นก่อนกัน

 

ดาวเด่น : ลูก้า โมดริช

 

อดีตเจ้าของบัลลงดอร์ ปี 2018 แม้อายุตอนนี้จะ 35 ปีแล้ว พูดกันแบบชาวบ้านๆ ก็น่าจะบั่นปลายอาชีพแล้ว แต่ถ้าใครดูผลงานซีซั่นที่ผ่านมาความฟิตของเจ้าตัวยังแจ่มว้าวอยู่ ลงเล่นให้ เรอัล มาดริด ในลา ลีกา ถึง 35 เกม เรื่องเทคนิค การคุมจังหวะเกม ไม่ต้องห่วงอยู่ ช่วงพีกๆ นี่คือห้องเครื่องเบอร์ต้นๆ ของโลกเลย

 

แข้งน่าจับตา : นิโคล่า วลาซิซ

 

แม้จะเคยล้มเหลวกับ เอฟเวอร์ตัน ในยุคของ โรนัลด์ คูมัน แต่การย้ายมาอยู่กับ ซีเอสเคเอ มอสโก ทำให้ วลาซิซ กลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง โดยเจ้าตัวเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกที่มีจุดเด่นในเรื่องของการยิงประตู ในลีกรัสเซีย 3 ซีซั่นที่ผ่านมายิงได้ถึง 28 ประตู ส่วนในรอบคัดเลือกก็ยิงไป 3 เม็ดเป็นรอง บรูโน่ เพตโควิช กองหน้าตัวเป้าของทีมเพียงรายเดียว

Scotland Euro 2020 qualification

ทีมชาติสกอตแลนด์

ฟีฟ่า แรงกิ้ง : 44
ผลงานที่ดีที่สุดในยูโร : รอบแรก

หลังไม่ได้เล่นรอบสุดท้ายในรายการระดับเมเจอร์เลยนับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศส ในที่สุด สกอตแลนด์ ก็ทำตามเป้าหมายได้สำเร็จในยุคของ สตีฟ คลาร์ก อดีตผู้ช่วยของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ทำผลงานได้ดีกับ คิลมาร์น็อค ก่อนถูกแต่งตั้งมารับงานใหญ่เมื่อปี 2019

 

เส้นทางของทีมจากแดนขี้เมา ทุลักทุเลทีเดียวกว่าจะได้ตั๋วรอบสุดท้าย ในรอบคัดเลือกอยู่ในกลุ่มไอ ทำได้แค่จบอันดับ 3 หลังสู้ทีมเต็งของกลุ่มอย่าง เบลเยี่ยม และ รัสเซีย ไม่ไหว ยังดีได้โควต้าจากการเป็นแชมป์กลุ่มในเนชั่นส์ ลีก เลยได้โอกาสไปเล่นรอบเพลย์ออฟ ซึ่งพวกเขาก็ดวงดีชนะ อิสราเอล และ เซอร์เบีย ด้วยการยิงเป้าทั้ง 2 นัด

 

สกอตแลนด์ ชื่อชั้นอาจจะด้อยสุดในกลุ่ม แต่ทีมชุดนี้มีขุมกำลังที่น่าสนใจ เพราะหลายคนกำลังทำผลงานได้ดีในพรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, คีแรน เทียร์นี่ย์, จอห์น แม็คกินน์ และ เช อดัม อยากให้จับตาดูให้ดีๆ บางที “ขี้เมา” ชุดนี้อาจเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์ เหมือนกับที่ เวลส์ ทำได้เมื่อ 4 ปีก่อนก็เป็นได้

 

ดาวเด่น : แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน

 

แบ็กซ้ายของ ลิเวอร์พูล พัฒนาฝีเท้าอย่างได้ยอดเยี่ยมภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ความฟิต ความสม่ำเสมอ จุดขายเรื่องการเติมเกมรุกจนมีแอสซิสต์เป็นกอบเป็นกำ ทำให้เขาถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในวิงแบ็กที่ดีที่สุดในโลกในเวลานี้ ด้วยความเป็นนักเตะที่ชื่อชั้นดีสุดในทีม การเป็นกัปตันทีม งานนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยว่าเจ้าตัวต้องเป็นเดอะแบกให้ทีมอย่างแน่นอน

 

แข้งน่าจับตา : สกอตต์ แม็คโทมิเนย์

 

กองกลางวัย 24 ปีพัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ถูกดันขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2016 โดยซีซั่นที่ผ่านมาได้ลงเล่นในลีกถึง 32 เกม โดยสไตล์การเล่นแบบ Box To Box เน้นเรื่องความฟิต มีความดุดัน เล่นตามแท็คติกได้ดี ที่สำคัญช่วงหลังเหมือนจะเติมขึ้นมายิงได้ด้วย งานนี้น่าสนใจเลยว่าศึกใหญ่ระดับนานาชาติหนนี้เจ้าตัวจะทำได้ดีแค่ไหน

Czech Republic Euro 2020 qualification

ทีมชาติเช็ก

ฟีฟ่า แรงกิ้ง : 40
ผลงานที่ดีที่สุดในยูโร : แชมป์ (1976 – ในนามเชโกสโลวาเกีย)

ถ้าพูดถึง เช็ก นับตั้งแต่หมดยุคทองของพวกเขาที่มี พาเวล เนดเวด, วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์, คาเรล โพบอร์สกี้ และ แยน โคลเลอร์ ต้องยอมรับว่ามาตฐานของพวกเขาก็ดูจะดร็อปลงเรื่อยๆ แม้ที่ผ่านมาจะมีนักเตะดังอย่าง ปีเตอร์ เช็ก, โทมัส โรซิคกี้ หรือ มิลาน บารอส เป็นตัวประคองทีมก็ไม่เคยไปไกลถึงจุดที่เคยทำได้เลย

 

เช่นเดียวกับทีมชุดนี้ ที่พูดตรงๆ สตาร์ระดับเกรดเอ แทบไม่มีเหลือแล้ว 26 คนที่ถูกเรียกติดทีมส่วนใหญ่เล่นในประเทศ หรือที่ค้าแข้งนอกลีก ก็มีกจะเป็นเพียงระดับกลางของ 5 ลีกใหญ่ยุโรป ไล่ชื่อจริงๆ ไม่มีเลยที่เล่นอยู่กับทีมแชมป์ หรือทีมที่เข้ารอบลึกๆ ในแชมเปี้ยนส์ลีก

 

ยาโรสลาฟ ซิฮาวี่ ต้องสร้างมทีมโดยเน้นทีมเวิร์กเป็นหลัก รอบคัดเลือกที่ผ่านมาพวกเขาตาม อังกฤษ เข้ามาในฐานะรองแชมป์กลุ่มเอ ในมุมดีๆ ที่ได้เห็นคืออย่างน้อยๆ พวกเขาก็ชนะทีมเต็งอย่าง “สิงโตคำราม” ได้เหมือนกัน ดังนั้นการเจอกับอีกครั้งในรอบสุดท้ายก็น่าจะเป็นยาใจชั้นดีให้พวกเขาได้ไม่น้อย แม้ความเป็นจริงจะไม่ง่ายเลยก็ตาม

 

ดาวเด่น : โทมัส ซูเซ็ค

 

ชื่อ ซูเซ็ค เพิ่งดังและเป็นที่รู้จักของแฟนบอลก็ในช่วงขวบปีที่ผ่านมา และต้องชม เดวิด มอยส์ ว่าตาเหยี่ยวมากๆ ที่ดึงเขาไปร่วมทีม การค้าแข้งให้กับ เวสต์แฮม เจ้าตัวทำผลงานดีอย่างต่อเนื่อง เป็นกองกลางที่มีจุดเด่นในเรื่องของการสอดไปยิงประตู ลูกกลางอากาศก็แข็งแกร่ง สถิติยิง 10 ประตูในพรีเมียร์ลีก บอกถึงทีเด็ดของเขาได้เป็นอย่างดี

 

แข้งน่าจับตา : แพทริค ชิค

 

แม้เส้นทางค้าแข้งของ ชิค จะดูพเนจรไม่น้อย นับตั้งแต่แจ้งเกิดกับ ซามพ์โดเรีย จนถูกจับตามองจากหลายทีมดังทั่วยุโรป ทว่าการเลือกย้ายไปอยู่กับ โรม่า เจ้าตัวทำผลงานได้ไม่ดีนัก การย้ายมาเล่นในบุนเดสลีกา ดูจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง 2 ซีซั่นหลังกับทั้ง ไลป์ซิก และ เลเวอร์คูเซ่น ยิงไป 19 ประตู ซึ่งยูโร หนนี้เขาคือตัวความหวังของ เช็ก เลยก็ว่าได้

 

ทำนายบทสรุป

 

อังกฤษ นอกจากชื่อชั้นที่ดีกว่าแล้ว สถาพทีมตอนนี้พวกเขาคือทีมเต็งแชมป์ของรายการชัดๆ ขุมกำลังแน่นมากโดยเฉพาะกองกลางกับแดนหน้า การจับสลากดูแล้วก็ไม่ยากอะไรมากมาย โครเอเชีย ชุดนี้ดร็อปกว่าตอนได้รองแชมป์โลกเยอะ ส่วน เช็ก กับ สกอตแลนด์ มาตรฐานยังห่างกันหลายขุม ดังนั้นแชมป์กลุ่มน่าจะนอนมา ส่วนอันดับ 2 “ตราหมากรุก” ก็ยังมีภาษีที่ดีกว่าอีก 2 ทีม โดยมี “ขี้เมา” ที่ขุนพลสดใหม่ ชื่อชั้นน่าสนใจ อาจเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์ของกลุ่มนี้ได้เหมือนกัน

 

บทความที่เกี่ยวข้องกับ ยูโร 2020

แม้บทน้อยก็ตาม : 8 แข้งที่คุณอาจลืมว่าเคยคว้าแชมป์ยูโร