พรีวิว ลาลีก้า : เรอัล มาดริด vs บียาร์เรอัล
วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม 2564 เวลา 23.00 น.
ถ่ายทอดสด : beIN SPORTS 2
ราคาต่อรอง : เรอัล มาดริด ต่อ 1 ลูก
สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาบิว
ความพร้อมของทั้งสองทีม
เรอัล มาดริด : ราชันชุดขาวมีผลงาน 5 นัดหลังสุดคือชนะ 3 , เสมอ 1 และแพ้ 1 โดยเกมที่ผ่านมาพวกเขาบุกไปเอาชนะ แอธเลติก บิลเบา มาได้ 1-0 ซึ่งในนัดนี้ ซีเนอดีน ซีดาน กุนซือของทีม จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ลูคัส บาสเกซ , ดานี่ การ์บาฆาล , แฟร์กล็องด์ เมนดี้ และ เอเดน อาซาร์ ที่มีอาการบาดเจ็บทั้งหมด รวมถึงจะไม่มี โทนี่ โครส ที่ติดเชื้อโควิด-19 โดยในแดนกลาง เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ กับ ลูก้า โมดริช จะขับเคลื่อนเกมร่วมกัน ส่วนสามประสานในแดนหน้า จะเป็น โรดรีโก้ , วินิซิอุส จูเนียร์ และ คาริม เบนเซม่า
บียาร์เรอัล : เรือดำน้ำสีเหลืองมีผลงาน 5 เกมหลังสุดคือชนะ 3 , เสมอ 1 และแพ้ 1 เช่นเดียวกัน โดยนัดที่ผ่านมาพวกเขาเปิดบ้านถล่ม เซบีย่า ไปถึง 4-0 ซึ่งในเกมนี้ อูไน เอเมรี่ นายใหญ่ของทีม จะขาด บิเซนเต้ อิบอร์ร่า ที่มีอาการบาดเจ็บ ขณะที่ในรายของ ฮวน ฟอยธ์ และ ซามูเอล ชุควูเซ่ ยังต้องรอเช็คสภาพความฟิตอีกครั้ง โดยในแดนกลาง จะมี ดานี่ ปาเรโฆ่ คอยคอนโทรลเกม ส่วนในแดนหน้า เคราร์ด โมเรโน่ กับ มอย โกเมซ จะโจมตีจากทางริมเส้นทั้งสองฝั่ง พร้อมวาง คาร์ลอส บัคก้า ไว้เป็นหัวหอกตัวเป้า
สถิติที่เคยพบกันมา 5 นัดหลังสุด : เรอัล มาดริด ชนะ 2 ครั้ง , เสมอกัน 3 ครั้ง
นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เรอัล มาดริด (4-3-3) : ธิโบต์ กูร์กตัวส์ (GK) , เอแดร์ มิลิเตา , ราฟาเอล วาราน , เซร์คิโอ รามอส , นาโช่ เฟร์นานเดซ , คาเซมิโร่ , เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ , ลูก้า โมดริช , โรดรีโก้ , วินิซิอุส จูเนียร์ , คาริม เบนเซม่า
บียาร์เรอัล (4-3-3) : เซร์คิโอ อเซนโฆ่ (GK) , มาริโอ กัสปาร์ , ราอูล อัลบิโอล , เปา ตอร์เรส , แปร์วิส เอสตูปินัน , เอเตียนน์ กาปู , ดานี่ ปาเรโฆ่ , มานู ตริเกรอส , เคราร์ด โมเรโน่ , มอย โกเมซ , คาร์ลอส บัคก้า
วิเคราะห์ : เกมนี้ไม่ได้มีความหมายแค่กับ มาดริด ที่กำลังลุ้นแชมป์อยู่เท่านั้น แต่มีความหมายกับ บียาร์เรอัล กำลังลุ้นพื้นที่ยูโรปา ลีกอยู่ด้วยเช่นกัน (เผื่อไม่ได้แชมป์ยูโรปา ลีก) ขณะที่เรื่องของผลงานในช่วงหลัง ทั้งคู่กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ดีเหมือนๆกัน หลังจากต่างฝ่ายต่างคว้าชัยมาแล้ว 2 นัดรวด อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่น่านำมาคิดคือเรื่องของแรงจูงใจ เพราะโอกาสที่ราชันชุดขาวจะแซง แอตเลติโก มาดริด คว้าแชมป์ได้ก็มีไม่น้อยเหมือนกัน ส่วนทางฝั่งเรือดำน้ำสีเหลืองโฟกัสอาจไปอยู่ที่เกมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันพุธหน้ามากกว่า ฉะนั้น แม้นี่จะไม่ใช่งานง่ายสำหรับซิซูและลูกทีม แต่ท้ายที่สุดเชื่อว่าพวกเขาจะสามารถเบียดเอาชนะไปได้
ผลที่คาด : เรอัล มาดริด ชนะ 2-1