พอมีหนทาง : เบนิเตซต้องทำอย่างไรถึงชนะใจแฟนท็อฟฟี่?

 

การจ่อแต่งตั้งชายที่ชื่อว่า ราฟเอล เบนิเตซ เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของ เอฟเวอร์ตัน กลายเป็นประเด็นที่แฟนบอลต่างถกเถียงกันไม่น้อย โดยเฉพาะแฟน ท็อฟฟี่ บางกลุ่ม ที่ค่อนไปทางต่อต้านด้วยซ้ำ  

 

เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ใช่สิ่งที่ ‘เอล ราฟา’ ไม่เคยเจอมาก่อน เพราะหากย้อนไปเกือบ 10 ปีก่อน เขาที่เคยคุม ลิเวอร์พูล เขี่ย เชลซี ตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีกถึง 2 หน ต้องรับงานในสแตมฟอร์ด บริดจ์ ท่ามกลางเสียงก่นด่าไม่พอใจของสาวกสิงห์บลู แม้จากลากันแบบสวยๆ ด้วยการคว้าแชมป์ยูโรป้าลีกในปี 2013 ได้ก็ตาม

 

แต่การรับงานกับ เอฟเวอร์ตัน ถือว่าแตกต่างจากกรณีนั้นมาก เนื่องจากนี่คือทีมอริของสโมสรเก่าที่ เบนิเตซ เคยเก่า และเป็นทีมที่เขายัดเยียดความปราชัยไม่น้อยในช่วงที่ทำหน้าที่ใน แอนฟิลด์ และที่หนักที่สุดคือเคยมองว่า ทีมสีน้ำเงินจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ เป็นเพียงสโมสรเล็กๆ เท่านั้น

 

หาก ราฟา ตกลงรับเก้าอี้ร้อนที่ คาร์โล อันเชล็อตติ ทิ้งไว้ในกูดิสัน ปาร์ค จริง คงมีเสียงต่อต้านจากแฟนเอฟเวอร์ตันหนักขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ แม้จะยังไม่ได้เห็นผลงานของเขาเลยก็ตาม

 

ว่าแต่เขาต้องทำอย่างไรถึงจะเอาชนะใจ เหล่าสาวกท็อฟฟี่ได้ล่ะ? 

 

เบนิเตซ ต้องเอาชนะใจเเฟนทอฟฟี่อีกฝั่งหนึ่งอันเช่ก็ต้องกลับไปเอาชนะใจเเฟนบอลราชันชุดขาว

 

 

สื่อสารไปยังแฟนบอล

 

 

แม้ว่าการแสดงความคิดเห็นว่า เอฟเวอร์ตัน เป็นสโมสรที่เล็ก เมื่อ 10 ปีกว่าก่อนของ เบนิเตซ แต่เขาก็เป็นคนที่พูดอะไรออกมาตรงๆ อยู่แล้ว เช่นที่เราเห็นในงานแถลงข่าวครั้งนั้น และแม้ว่าคำพูดของ ราฟา จะทำให้เขาตกอยู่สถานการณ์ที่ลำบาก แต่เขาก็สามารถเป็นต่อได้ในถิ่น กูดิสัน ปาร์ค

 

ท็อฟฟี่ ยังคงสั่นคลอนจากการจากไปของ อันเชล็อตติ ที่เลือกรีเทิร์น เรอัล มาดริด คำรบที่ 2 ซึ่งเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ได้ยืนยันว่าเขาต้องการอยู่ใน เมอร์ซี่ย์ไซด์ เป็นเวลาหลายปี

 

สิ่งที่ เอฟเวอร์โตเนี่ยน ต้องการในตอนนี้คือคนที่จริงใจที่จะพูดความคิดของพวกเขาอย่างตรงไปตรงมาในทุกหัวข้อ และพวกเขาต้องการใครสักคนที่จะร่วมแฟนๆให้เป็นหนึ่งเดียว นั่นอาจดูเหมือนเป็นแนวคิดที่แตกต่างจากแฟนบอลท็อฟฟี่กว่าครึ่งในเมอร์ซีย์ไซด์ แต่ความจริงก็คือเขาถูกยกย่องจากแฟนบอลลิเวอร์พูล เช่นเดียวกับที่เขาเคยดำรงตำแหน่งที่นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

 

นอกจากนี้ เบนิเตซได้ยอมรับความผิดพลาดของเขาที่เรียกเอฟเวอร์ตันว่าเป็นสโมสรเล็กๆ เมื่อ 10 ปีกว่าก่อนไปแล้ว และทำงานการกุศลมากมายให้กับเมืองลิเวอร์พูล

 

“ผมทำพลาดไปเมื่อบอกว่าพวกเขาเป็นแค่สโมสรเล็กๆ สิ่งที่ผมต้องการจะบอกคือพวกเขาเป็นทีมที่เล็กเพราะในเกมนั้นเขามีโอกาสแค่ครั้งเดียว” กุนซือชาวสแปนิช เปิดใจกับ Monday Night Football ในปี 2019

 

“แฟนบอลลิเวอร์พูล พวกเขาแฮปปี้  และเอฟเวอร์โตเนี่ยน ต่างหัวเสีย แต่ผมไม่ต้องการบอกว่าพวกเขาเป็นสโมสรที่เล็ก ผมต้องการบอกกว่าพวกเขาเป็นแค่ทีมขนาดเล็กเท่านั้น”

 

เชื่อว่าจากคำพูดนี้ของ เบนิเตซ น่าจะทำให้แฟนบอลท็อฟฟี่หลายคนเปิดใจกับเขามากขึ้น

 

 

เล่นฟุตบอลเกมรุก

 

 

ด้วยสไตล์การเล่นที่ราบเรียบ ค่อนไปทางไม่สนุกทำให้แฟนเอฟเวอร์ตัน สงสัยว่า อันเชล็อตติ กลับไปคุม เรอัล มาดริด รอบที่ 2 หรือเคยไปคุมหนแรกได้อย่างไร พวกเขารั้งอันดับที่ 13 ในพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลก่อนในด้านการยิงตรงกรอบ (148) และรั้งอันดับที่ 17 ในการจ่ายบอลพื้นที่สุดท้าย (3,993) อีกยังเสมอในบ้านกับการดวลกับ เวสต์บรอม ของแซม อัลลาไดซ์

 

ตอนนี้แฟนบอลท็อฟฟี่ กำลังโหยหาผู้จัดการทีมจะเข้ามาเน้นเกมรุกอีกครั้ง ไม่จำเป็นต้องลื่นไหล หรือต่อบอลไปมา แต่ต้องเข้มข้นดุดัน แบบในเกมที่พวกเขาเอาชนะ เชลซี 3-1 ช่วงที่ ดันแคน เฟอร์กูสัน คุมทีมชั่วคราวในเดือนธันวาคมปี 2019

 

เบนิเตซมักถูกมองว่าเป็นนักปฏิบัตินิยมโดยธรรมชาติ โดยใช้ความแข็งแกร่งในการป้องกันและการจัดระเบียบเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดจากทีมที่จำกัด แต่เมื่อมองย้อนกลับไปในฤดูกาล 2008-09 คุณจะเห็นว่ากุนซือชาวสแปนิชทำอะไรกับผู้เล่นของเขา ซึ่งในตอนนั้นนี่คือ ลิเวอร์พูล ที่หลายคนยกให้ดีที่สุดภายใต้การดูแลของ ราฟา เลย ทั้ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ชาบี อลอนโซ่ และ เจมี่ คาราเกอร์

 

เบนิเตซสร้างสมดุลให้กับทีมนี้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยการให้ เจอร์ราร์ด ปั้นเกมรุกร่วมกับ ตอร์เรส จนกลายเป็นคู่ขาสุดโหดในแดนหน้า ขณะที่มาสเคราโน่และอลอนโซ่ก็ทำให้ทีมนิ่งและมั่นคงมากขึ้นในแดนกลาง ซึ่ง ลิเวอร์พูลจบฤดูกาลด้วยอันดับ 2 เก็บไป 86 แต้ม ซึ่งเพียงพอสำหรับคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีกด้วยซ้ำ ทำประตูได้ 77 ลูกในลีกและเสียไปเพียง 27 ครั้ง มีเพียงเชลซีและแชมป์ในปีนั้นอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เสียน้อยกว่า (24 ทั้งคู่)

 

อีกทั้ง เบนิเตซ เป็นชื่อที่อาจทำให้ ฮาเมส โรดริเกซ เลือกอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน ต่อไป หรือสามารถดึงสตาร์ดังอื่นๆ มาร่วมทีมได้ในกูดิสัน ปาร์ค รวมไปถึง โดมินิค คัลเวิร์ต เลวิน และ ริชาร์ลิสัน ที่อาจดึงศักยภาพของนักเตะได้มากกว่านี้ และที่สำคัญ เอฟเวอร์ตัน มีเงินมากพอที่จะทำให้ ราฟา ได้นักเตะที่เขาต้องการเพื่อพาทีมไปยังเป้าหมายที่เขาตั้งไว้

 

 

พยามชนะให้ได้ โดยเฉพาะเกมในบ้าน

 

 

ไม่ว่าจะเป็นบอลที่เน้นเกมรุกหรือไม่ ไม่มีอะไรชนะใจแฟนบอลได้เท่ากับการคว้า 3 แต้มมาครอง และในฤดูกาลใหม่นี้ ตารางการแข่งขันของ เอฟเวอร์ตัน ก็เป็นใจไม่น้อย เมื่อไม่ต้องพบกับทีมจากท็อปโฟร์เลย ก่อนบุกไปดวล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในนัดที่ 7 ของซีซั่น

 

แฟนบอลท็อฟฟี่ จำนวนไม่น้อยคาดหวังว่าทีมรักของพวกเขาจะเก็บได้ทั้งหมด 18 แต้มเต็มจาก 6 เกมแรกในลีก แม้ว่าอาจเป็นเรื่องยากสักหน่อย 

 

ในฤดูกาลก่อน เอฟเวอร์ตัน มักทำผลงานได้ดีกับทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีก แต่ถ้าพวกเขาออกสตาร์ทได้ไม่สวย เส้นทางที่พวกเขาเดินต่อจากนั้นอาจหันเหไปในทิศทางที่ไม่ควรก็เป็นได้

 

ยิ่งไปกว่านั้น เอฟเวอร์ตันชนะแค่ 6 จาก 19 เกมในบ้านเมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยจบอันดับที่ 15 ในพรีเมียร์ลีกจากเกมเหย้าเท่านั้น การแต่งตั้ง เบนิเตซ อาจสร้างความไม่พอใจให้แฟนเอฟเวอร์ตัน แต่ถ้าเอาชนะได้กับเกมใน กูดิสัน ปาร์ค ได้เรื่อยๆ ก็อาจทำให้รังเหย้านี้กลายเป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่งในสายตาของแฟนบอลอีกครั้ง

 

 

ปั้นเด็กท็อฟฟี่

 

 

ถึง เอฟเวอร์ตันจะเป็นทีมที่ซื้อนักเตะจากสโมสรอื่นๆ เข้ามาเสริมทัพตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่พวกเขาก็ไม่ลืมที่จะปลุกปั้นและให้โอกาสเด็กจากอคาเดมี่ได้ฉายแสงในทีมชุดใหญ่บ้าง 

 

ไม่ว่าจะเป็น ลีออน ออสมัน, เลห์ตัน เบนส์ ที่ได้รับโอกาสในอดีตจนได้เป็นตัวหลักในทีม ‘ท็อฟฟี่’ หรือในยุคปัจจุบันที่มี โดมินิค คัลเวิร์ต เลวิน หรือ เบน เดวี่ส์ ต่างเติบโตมาในรั้วเยาวชนของทีม

 

เพราะฉะนั้นนี่ถือเป็นโอกาสอันดี หาก ราฟา ต้องการซื้อใจเหล่าเอฟเวอร์โตเนี่ยน ด้วยการดันเด็กชุดเล็กที่มีแววขึ้นมารับประสบการณ์ในทีมชุดใหญ่ รวมถึงให้โอกาสพวกเขาลงเล่นในสนามจริง เช่น จาร์ราด เบรนต์เวธ, เอลลิส ซิมส์ หรือ แอนโธนี่ กอร์ดอน 

 

แถมก่อนหน้านี้ที่คุมทั้ง บาเลนเซีย, ลิเวอร์พูล หรือ นิวคาสเซิล เขาก็เคยให้โอกาสกับดาวรุ่งในทีมมาแล้ว แม้ส่วนใหญ่จะไม่ใช่ตัวหลักของทีมในอนาคตก็ตามที

 

หากปั้นขึ้นมาจนทำผลงานได้โดดเด่นสักคน ก็น่าจะทำให้ สาวกท็อฟฟี่ ไว้วางใจกับการทำทีมของ กุนซือชาวสแปนิช มากขึ้น

 

 

ขยี้ลิเวอร์พูล

 

 

เกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ นัดแรกของฤดูกาล 2021-22 จะเตะกันที่ กูดิสัน ปาร์ค ในวันที่ 30 พฤศจิกายน หาก ราฟา เข้ามาคุมเอฟเวอร์ตัน ก็คาดหวังไม่น้อยว่าพวกเขาจะทำผลงานได้ดีในเกมนี้ และคงยอดเยี่ยมสำหรับแฟนบอลด้วย  หาก ท็อฟฟี่ สามารถเอาชนะ ลิเวอร์พูล ที่กูดิสัน ปาร์ค ได้เป็นครั้งแรก นับตั้แต่ฤดูกาล 2011

 

เอฟเวอร์โตเนี่ยน ต่างยินดีปรีดากันมาก เมื่อทีมรักของพวกเขาเอาชนะ หงส์แดง ได้ถึงแอนฟิลด์ ด้วยสกอร์ 2-0 ในฤดูกาลก่อน และเป็นชัยชนะครั้งแรกในสนามแห่งนี้นับตั้งแต่ปี 1999 ด้วย แม้ดูกร่อยเล็กน้อย เนื่องจากไม่มีแฟนบอลในสนามก็ตาม

 

หวังว่าปัญหานั้นจะไม่เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน และถ้ามีแฟนบอลในสนามยังไม่มั่นใจในตัวของ เบนิเตซ ชัยชนะเหนืออริร่วมเมืองจะทำให้พวกเขาเปิดใจให้และยอมรับว่า กุนซือชาวสแปนิช เป็นชาว ‘ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน’ แล้วอย่างแน่นอน

 

 

คว้าแชมป์ให้ได้

 

 

สิ่งหนึ่งที่ เอฟเวอร์โตเนี่ยน เฝ้ารอยิ่งกว่าการชัยในเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ คือการคว้แชมป์มาครองให้ได้ พวกเขาไม่เคยได้ชูถ้วยอีกเลย นับตั้งแต่เกมที่เอาชนะ แมนยูไนเต็ด 1-0 ในนัดชิงเอฟเอ คัพ ปี 1995 หลังจากนั้นพวกเขาเข้าใกล้ความสำเร็จมากที่สุด กับเกมที่พ่าย เชลซี 2-1 ในนัดชิงเอฟเอ คัพ เมื่อปี 2009

 

เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ‘ท็อฟฟี่’ ถูกเขี่ยตกรอบบอลถ้วยในรอบ 8 ทีมสุดท้ายทั้ง 2 รายการ และถือเป็นอีก 1 ปีที่น่าผิดหวังของทีมภายใต้การดูแลของ อันเชล็อตติ และแฟนบอลของทีมก็ต้องมาตั้งความหวังกันใหม่ในฤดูกาลต่อไป

 

คงน่าฉงนไม่น้อย ถ้าหาก เบนิเตซ ผู้คว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก และเอฟเอ คัพ กับ ลิเวอร์พูล กลายเป็นคนที่ยุติการร้างลาแชมป์ของ เอฟเวอร์ตัน ในรอบ 27 ปีลงได้ ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นไม่น้อย เนื่องจากเขาเป็นกุนซือที่เชี่ยวชาญการเล่นบอลถ้วย อีกทั้งอาจพาทีมกลับไปเล่นในบอลยุโรปเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2018 และซึ่งที่ เบติเนซ เชี่ยวชาญอีกเช่นกัน