พอใช้มั้ย! 10 กุนซือที่รับค่าจ้างแพงสุดในโลก

 

มันคงไม่ได้เป็นความลับอะไรมากนักกับการเปิดเผยตัวเลขค่าจ้างของนักฟุตบอลแต่ละคนว่าได้เงินค่าตอบแทนกันเท่าไหร่กันบ้าง บางคนฝีเท้าดีก็ได้ค่าเหนื่อยเยอะหน่อยบางคนเกรดไม่ถึงหรืออยู่ระดับกลางๆก็ได้ตามเพดานของสโมสร แต่เมื่อพูดถึงผู้จัดการทีม น้อยคนนักที่จะรู้ว่าพวกเขาเหล่านั้นได้เงินจากการคุมทีมข้างสนามมากน้อยขนาดไหน ซึ่งมันจะมากกว่าหรือได้ใกล้เคียงกับบรรดาพ่อค้าแข้งเหล่านั้นหรือไม่ วันนี้ทีมงาน UFA Arena.com จะพาไปดูกันว่ามีนายใหญ่คนไหนบ้างที่ได้รับเงินค่าตอบแทนสูงสุดติดท็อป 10 ของโลก

 

10.คาร์โล อันเชล็อตติ (นาโปลี) 5.3 ล้านปอนด์ต่อฤดูกาล

 

 

อันเชล็อตติ เป็นผู้จัดการทีมที่คุมสโมสรใหญ่ๆในยุโรปมาโดยตลอด แถมยังกวาดรางวัลได้ถึง 20 รายการรวมไปถึงแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกอีกสามสมัย

 

กุนซือชาวอิตาลีผู้นี้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมของนาโปลีเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาและสามารถพาทีมจบรองแชมป์ลีกกัลโช่เซเรียอาได้อย่างภาคภูมิใจ และในฤดูกาลนี้ โค้ชวัย 60 ปีหวังว่าจะได้ถ้วยรางวัลมาประดับตู้โชว์ให้กับสโมสร

 

9.อูไน เอเมรี่ (อาร์เซน่อล) 6 ล้านปอนด์ต่อฤดูกาล

 

 

กุนซือชาวสเปนรายนี้ได้รับงานยากที่สุดในชีวิตการคุมทีมของเขาเลยก็ว่าได้ เมื่อต้องมาสานงานต่อจากอาแซน เวนเกอร์ 

 

เอเมรี่ เคยพาอดีตต้นสังอย่างเซบีย่าคว้าแชมป์ยูโรป้าลีกถึงสามสมัยซ้อน  รวมทั้งอีก 7 ถ้วยรางวัลกับปารีส แซงแชร์แมงแต่ในฐานะผู้จัดการทีมปืนใหญ่ครั้งแรกของเขานั้น พาทีมจบแค่ที่ห้าในลีกแถมยังพ่ายแพ้ในนัดชิงชนะเลิศยูโรป้าลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยเขาหวังว่าในซีซั่นนี้จะพาทีมติดอันดับไปเล่นในถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกให้จงได้

 

8.มานูเอล เปเญกรินี่ (เวสต์แฮม) 7ล้านปอนด์ต่อฤดูกาล

 

 

ตัวเปเญกรินี่เองนั้นเป็นผู้จัดการทีมมาอย่างยาวนานกว่าสามทรรศและเวสต์แฮมเป็นสโมสรที่ 13 ของเจ้าตัวแล้วในฐานะกุนซือ

 

นายใหญ่ชาวชิลีเคยคว้าแชมป์กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้มาแล้วถึง 3 ครั้งรวมทั้งถ้วยพรีเมียร์ลีก ซึ่งเขาเป็นโค้ชที่ไม่ใช่ชาวยุโรปคนแรกที่พาทีมคว้าแชมป์ลีก นอกจากนี้แล้วเขายังเคยนั่งแท่นให้กับเรอัล มาดริดมาแล้ว 1 ฤดูกาล

 

เฮดโค้ชวัย 65 ปีได้นำพาผู้เล่นดีๆเข้ามายังสโมสรแห่งนี้และหวังว่าจะทำให้เวสต์แฮมไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ อย่างน้อยก็ในถ้วนยูโรป้าลีก

 

 

7.เจอร์เก้น คล็อปป (ลิเวอร์พูล) 7ล้านปอนด์ต่อฤดูกาล

 

 

คล็อปป์นั้นเริ่มต้นการคุมทีมให้กับไมนซ์เป็นที่แรกก่อนจะมาโด่งดังกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งที่นี่เองเขาพาเสืองเหลืองคว้าแชมป์บุนเดสลีก้าถึง 2 สมัย

 

กุนซือชาวเยอรมันย้ายเข้ามาคุมลิเวอร์พูลในปี 2015 และพาหงส์แดงเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นมากเลยทีเดียว เขาเซ็นสัญญากับผู้เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม จนพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นโทรฟี่ครั้งแรกของเขากับลิเวอร์พูล และเป้าหมายต่อไปของกุนซือรายนี้ก็คือถ้วยพรีเมียร์ลีก

 

ในช่วงหน้าร้อนนี้ทางบอร์ดของสโมสร ต้องการที่จะต่อสัญญาฉบับใหม่ให้กับเขาแต่โค้ชจากเมืองเบียร์ได้ขอเบรกไว้ก่อนเนื่องจากเจ้าตัวอยากหยุดพักหลังหมดสัญญากับทีมจากลุ่มแม่น้ำเมอร์ซี่ไซด์

 

 

6.โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 7.5ล้านปอนด์ต่อฤดูกาล

 

 

เมื่อเปรียบเทียบกับผู้จัดการทีมคนอื่นในรายชื่อทั้งหมดนี้ โซลชาร์เป็นโค้ชที่ไม่น่าเชื่อว่าจะได้รับค้าจ้างสูงขนาดนี้

 

อดีตตำนานคนหนึ่งของปีศาจแดงเริ่มต้นการเป็นโค้ชจากทีมสำรองของแมนฯยูไนเต็ด จากนั้นก็กลับบ้านเกิดที่นอร์เวย์ไปรับงานให้กับสโมสรโมลด์ซึ่งที่นี่เองเขาพาทีมคว้าแชมป์ลีกถึงสองสมัย หลังจากนั้นก็กลับมายังเกาะอังกฤษอีกครั้งในฐานะผู้จัดการทีมของคาร์ดิฟฟ์เมื่อปี 2014 จนกระทั่งถูกปลดออกและได้ย้อนกลับไปคุมโมลด์อีกรอบ แต่ในคำรบที่สองนี้เขาไม่สามารถพาทีมได้รางวัลใดๆเลย

 

เจ้าของฉายาเพชรฆาตหน้าทารกถูกแต่งให้เป็นนายใหญ่คนใหม่ชั่วคราวในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ดแทนที่โชเซ่ มูรินโญ่ที่โดนเด้งออกไปเมื่อเดือนธันวาคมปี 2018 และเขาก็พาทีมไปได้สวยทีเดียวในช่วงแรก แต่พอเข้าสู้ช่วงปลายฤดูกาลฟอร์มของทีมก็เริ่มกลับเข้าอีหรอบเดิม และกับฤดูกาลใหม่นี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่ายูไนเต็ดจะไปได้ไกลขนาดไหน

 

 

5.เมาริซิโอ ปอเช็ตติโน่ (ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์)  8.5ล้านปอนด์ต่อฤดูกาล

 

 

ในฐานะผู้จัดการทีมของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ นี่เป็นฤดูกาลที่ 6 ของปอเช็ตติโน่แล้วกับการคุมทีมในเมืองหลวงของเกาะอังกฤษ โดยเขามีเปอร์เซ็นต์การชนะถึง 55.4 เปอร์เซ็นเลยทีเดียว จากการคุมทีมทั้งหมด 280 นัด ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่โดดเด่นเอามากๆ นอกจากนี้นายใหญ่ชาวอาร์เจนติน่ายังพาทัพไก่เดือยทองเข้าไปโลดแล่นในเวทียูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกได้ตลอดในระยะหลังแถมยังพาทีมทะลุเข้าถึงรอบชิงบอลถ้วยถึงสองรายการรวมทั้งยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา

 

โค้ชวัย 47 ปีได้รับการจัดอันดับว่าเป็นกุนซือที่มีฝีมือดีลำดับต้นๆเลยทีเดียวในยุคปัจจุบัน จนมีข่าวว่าหลายทีมในยุโรปต่างให้ความสนใจที่จะดึงตัวเขาไปคุมทีมทั้งนี้เขายังไม่เคยได้เหรียญรางวัลใดๆเลยกับสโมสรที่เคยคุมมาทั้ง สเปอร์ส, เซาแธมป์ตัน หรือ เอสปันญ่อล ซึ่งในฤดูกาลนี้เจ้าตัวหวังว่าจะทลายกำแพงอันนี้ลงให้ได้

 

 

4.ซีเนอดีน ซีดาน (เรอัล มาดริด) 10.5ล้านปอนด์ต่อฤดูกาล

 

 

ซิซูกลับมาคุมราชันชุดขาวอีกรอบเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลที่แล้ว หลังก่อนหน้านี้พาทีมกวาดถึง 9 รายการในช่วงสองฤดูกาลครึ่งในการกุมบังเหียนในถิ่นซานติอาโก เบอนาบิว นอกจากนี้ยังเป็นสโมสรแรกที่หยิบถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกมาครองได้ถึง 3 สมัยติดต่อกัน

 

เทรนเนอร์วัย 47 ปี มีเปอร์เซ็นต์การชนะถึง 69.8 เปอร์เซ็นในการคุมทีมครั้งแรก แต่การกลับมาหนที่สองนี้เปอร์เซ็นต์การชนะของเขาตกลงไปเหลือแค่ 42.6 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ดีในฤดูกาลนี้สโมสรได้เซ็นสัญญากับนักเตะฝีเท้าดีมาหลายคน และคาดหวังว่าเขาจะเพิ่มถ้วยแชมป์ต่างๆมาประดับตู้โชว์อีกครั้ง

 

 

3.เป็ป กวาดิโอล่า (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 15.2ล้านปอนด์ต่อฤดูกาล

 

 

เป็ปนั้นเริ่มต้นคุมทีมครั้งแรกเมื่อ 12 ปีก่อนกับบาร์เซโลน่าบี แต่ถึงตอนนี้เขาได้กลายเป็นผู้จัดการที่ดีที่สุดในโลกไปแล้ว

 

โค้ชชาวสเปนได้แชมป์รวมกันไปแล้วถึง 28 รายการกับทั้งบาร์เซโลนา, บาเยิร์นมิวนิคและแมนเชสเตอร์ซิตี้ โดยแต่ละสโมสรที่ผ่านมือเขามานั้นล้วนเกิดสถิติใหม่ๆอย่างมากมาย รวมทั้งค่าเฉลี่ยในการเก็บชัยชนะของเขาที่ทำไว้อย่างน้อย 72.5 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อรวมสถิติทั้งหมดแล้วเปอร์เซ็นต์การเก็บสามแต้มอยู่ที่ 72.8เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่สุดโหดเลยก็ว่าได้เมื่อเทียบกับจำนวนเกมทั้งหมด 629 นัด

 

กวาดิโอล่าพาเรือใบสีฟ้าคว้าแชมป์ไปแล้ว 7 ครั้งและเขาหวังว่าในปีนี้จะนำทีมผงาดชูถ้วยแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกไปครองบ้าง

 

 

2.เอเนสโต้ บัลเบร์เด้ (บาร์เซโลน่า) 20.2ล้านปอนด์ต่อฤดูกาล

 

 

แฟนบอลส่วนใหญ่ไม่ค่อยปลื้มกับสไตล์การทำทีมของบัลเบร์เด้สักเท่าไหร่ อย่างไรก็ดีเขายังพาสโมสรคว้าแชมป์มาได้ถึง 4 ถ้วย และนอกจากนี้ในฤดูกาลแรกของเจ้าตัวเขาเกือบพาบาร์ซ่าไม่แพ้ใครในลีก

 

ก่อนที่จะมารับงานให้กับเจ้าบุญทุ่ม โค้ชรายนี้เคยคุมทีมอย่างแอธเลติก บิลเบา,บียาร์ เรอัล ,โอลิมเปียกอสและเอสปันญอล โดยเฉพาะสโมสรจากกรีซที่เขาพาทีมกวาดโทรฟี่ไปถึง 5 ครั้งและยังพาบิลเบาคว้าแชมป์โคปา เดอเรย์ในปี 2015 ด้วยค่าจ้างที่แตกต่างจากปัจจุบัน

 

 

1.ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ (แอตเลติโก้ มาดริด)  35.9ล้านปอนด์ ต่อฤดูกาล

 

 

ซิเมโอเน่นั้นถือว่าเป็นผู้เล่นที่ฝีเท้าดีคนหนึ่งในยุค 90 เลยก็ว่าได้แต่ในยุคปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่จะจดจำเขาได้ในมาดกุนซือ

 

เฮดโค้ชชาวอาร์เจนไตน์รายนี้เข้ามากุมบังเหียนให้กับตราหมีเมื่อปี 2011 และพาทีมคว้าแชมป์ถึง 11 รายการรวมทั้งแชมป์ลาลีก้าในปี 2013/14 แม้ผู้เล่นภายในทีมชุดนั้นจะไม่ได้ดีที่สุดก็ตาม นอกจากนี้อัตราการพาทีมชนะเขาเขานั้นยังทำได้ดีอีกด้วยโดยเปอร์เซ็นต์การเก็บสามแต้มนั้นอยู่ที่ 61.57 มิหน่ำซ้ำเกมรับของพวกเขาก็ถือว่าเป็นจุดเด่นและมีสถิติการป้องกันที่ยอดเยี่ยม

 

ผู้จัดการทีมวัย 49 ปีหวังว่าในฤดูกาลนี้เขาจะพาทีมคว้าแชมป์ลาลีก้าให้จงได้หลังออกสตาร์ทได้อย่างสวยหรู