พอๆกับนูโน่ : ฌาคส์ ซานตินี่ กับช่วงเวลาแค่ 5 เดือนในรั้วไก่

นูโน่

และแล้วก็เป็นไปตามที่สื่อคาดการณ์ไว้ เมื่อ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ แถลงปลด นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ พ้นตำแหน่งผู้จัดการทีมอย่างเป็นทางการ หลังทำผลงานได้น่าผิดหวังในฤดูกาลนี้

กุนซือชาวโปรตุกีส ถูกแต่งตั้งเข้ามาเป็นนายใหญ่คนใหม่ของ ‘ไก่เดือยทอง’ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม และเริ่มต้นเดือนแรกของซีซั่นใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการชนะ 3 นัดติดในลีก แต่แล้วเมื่อก้าวสู่เดือนกันยายน ผลงานของทีมก็ค่อยๆตกลง ก่อนเกมพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 จะกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายให้ ดาเนี่ยล เลวี่ และบอร์ดบริหารตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตำแห่งนายใหญ่ของทีมในเวลาต่อมา

นูโน่ ทำหน้าที่กับ สเปอร์ส เพียง 4 เดือนเศษๆเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นกุนซือของทีมที่อายุสั้นที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีก แต่รู้หรือไม่ว่าก่อนหน้านี้ ยังมีผู้จัดการทีมอีกคนหนึ่งที่มีชะตากรรมไม่ต่างจาก กุนซือแดนฝอยทอง เท่าไหร่

และคนๆนั้นก็คือ ฌาคส์ ซานตินี่ ตำนานกองกลางของ แซงต์ เอเตียนน์ และกุนซือผู้สร้างยุคทองให้ โอลิมปิก ลียง ในต้นยุค 2000 ก่อนมาทิ้งชื่อเป็นกุนซืออีกคนที่ล้มเหลวในอังกฤษ

 

สร้างชื่อกับลียง

Olympique Lyonnais Twitter वर: "Joyeux anniversaire à Jacques Santini,  premier entraîneur champion de France avec la #teamOL, qui fête ses 66 ans  ! … https://t.co/iUNz0JhIWn"

ซานตินี่ สร้างชื่อกับ ลียง ในช่วงระหว่างปี 1997–2000 ที่ทำหน้าที่ผู้อำนวยการเทคนิคสโมสร ก่อนเข้าไปทำหน้าที่ผู้จัดการทีม ระหว่างปี 2000-2002 ซึ่งช่วยให้ โอแอล คว้าแชมป์ลีกสมัยแรกในประวัติศาสตร์ได้ในฤดูกาล 2001-02

นั่นทำให้ กุนซือชาวฝรั่งเศส ถูกเลือกให้เป็น โค้ชยอดเยี่ยมแดนน้ำหอม ในปี 2002 ก่อนเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติฝรั่งเศส ในปีเดียวกัน แทนที่ โรเจอร์ ลาแมร์ ที่โดนปลดหลังพาทีมร่วงตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มในฟุตบอลโลกปีนั้น

ซานตินี่ ดูไปได้สวยในเส้นทางคุมทัพ ‘ตราไก่’ ด้วยการคว้าแชมป์คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ ในปี 2003 ช่วยเพิ่มความมั่นใจก่อนลุยศึกยูโรที่ โปรตุเกส ในปี 2004

อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นทัวร์นาเม้นต์ที่ทัพ ‘เลอ เบลอส์’ ทำผลงานไม่สมราคาตัวเต็งแชมป์ เมื่อพลิกล็อคพ่ายให้กับ กรีซ ว่าที่แชมป์ของศึกนั้นในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทำให้ ซานตินี่ รับผิดชอบด้วยการยื่นซองขาวลาออกจากตำแหน่งกุนซือหลังจบรายการในเดือนกรกฎาคม

แต่ด้วยชื่อเสียงที่เขาสะสมมาตลอด 4 ปีหลังสุดในเส้นทางลูกหนังก็ทำให้ อดีตแข้ง แซงต์ เอเตียนน์ ว่างงานเพียงไม่นาน

 

สุดพังกับ ‘ไก่เดือยทอง’

Sporting Flashback: On This Day... Santini appointed Spurs boss -  BelfastTelegraph.co.uk

ราวๆ 1 เดือนหลังจากแยกทางกับทีมชาติฝรั่งเศส ซานตินี่ ก็ตกลงเซ็นสัญญาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก่อนเริ่มต้นฤดูกาล 2004-05 

นี่ถือกุนซือคนที่ 4 ของ สเปอร์ส ต่อจาก จอร์จ เกรแฮม, เกล็น ฮ็อดเดิ้ล และเดวิด แพล็ตต์ (รักษาการณ์) ในยุคที่ ดาเนี่ยล เลวี่ นั่งตำแหน่งประธานสโมสรนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2001 

แน่นอนกว่าการมา ซานตินี่ มีเป้าหมายพาทีมคว้าอันดับไปเล่นในฟุตบอลยุโรปให้ได้ หลังจากสโมสรย้ำอยู่กลางตารางมานานหลายปี โดยไม่มีลุ้นอะไรเลย

เมื่อเริ่มต้นฤดูกาล ผลงานของ ‘ไก่เดือยทอง’ ในมือกุนซือแดนน้ำหอม ดูกระท่อนกระแท่นไม่สม่ำเสมอ เมื่อชนะเพียง 2 จาก 7 นัดแรกในลีก แม้เก็บคลีนได้ถึง 4 นัดก็ตาม

จากนั้นเมื่อเข้าสู่เดือนตุลาคม หายนะก็มาเยือนทีมจากลอนดอนเหนือ เพราะหลังเกมที่เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 ในช่วงต้นเดือนนั้น พวกเขาก็แพ้รวด 3 นัดติดในลีกให้กับ พอร์ทสมัธ, โบลตัน และ ฟูแล่ม ตามลำดับ

หลังทำหน้าที่ได้เพียง 5 เดือนในถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน กุนซือเลือดน้ำหอมก็ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายใหญ่ของสเปอร์สอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 พฤศจิกายน 

โดยรวมแล้ว ซานตินี่คุมทีมเพียง 13 นัด รวมทั้งในลีกและลีกคัพ แบ่งเป็น ชนะ 5, เสมอ 4 และแพ้อีก 4 มีเปอร์เซนต์คว้าชัยเฉลี่ยเพียง 38.46% 

ต่อมา สเปอร์ส ก็ดันให้ มาร์ติน โยล มือขวาของ ซานตินี่ เข้ามารับช่วงต่อ และค่อยๆช่วยให้ทีมคืนฟอร์มเก่ง จนเกือบคว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่า คัพ ด้วยการจบอันดับ 9 ในพรีเมียร์ลีก โดยห่างจาก มิดเดิ้ลสโบรห์ อันดับ 7 เพียง 3 แต้ม

 

ช่วงเวลาหลังลาไก่

Interview de Jacques Santini - Actualité - Winamax

ช่วงที่ ซานตินี่ ลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม สเปอร์ส อาจดูเหมือนเขาทำไปเพราะรับผิดชอบกับผลงานที่ไม่ดีพอตามที่บอร์ดหรือ ยิด อาร์มี่ คาดหวัง แต่จริงๆแล้วเกิดจากปัญหาส่วนตัวต่างหาก

มีการรายงานจากสื่อแดนผู้ดีว่า กุนซือชาวฝรั่งเศส มีปัญหาขัดแย้งกับ แฟรงค์ อาร์เนเซ่น ผู้อำนวยการสโมสร หลายต่อหลายครั้ง จนทำให้เขาต้องเป็นฝ่ายเดินจากไป

ต่อมาช่วงต้นปี 2005 ซานตินี่ ได้เปิดใจถึงสาเหตุที่ทำให้เลือกแยกทางกับ ‘ไก่เดือยทอง’ ในปีก่อน เนื่องจากสโมสรไม่ทำตามที่เคยให้สัญญากับเขาไว้ รวมไปเรื่องนโยบายการซื้อขายของสโมสรที่เพิ่งรู้ว่า สตีเฟ่น คาร์ กำลังจะย้ายทีมช่วงที่ถ่ายรูปรวม

“พวกเขาสัญญากับผมว่าจะมีอพาร์ตเมนต์ขนาดใหญ่บนชายหาด และผมพบว่าตัวเองอยู่ห่างจากทะเล 200 เมตรพร้อมวิวทิวทัศน์จากเพื่อนบ้าน” อดีตกองกลางแซงต์ เอเตียนน์ กล่าวกับ Journal di Dimanche สื่อแดนน้ำหอมในปี 2005

“ผมรู้ในวันที่ถ่ายรูปทีมของเราว่ากัปตันของเรา (สตีเฟ่น คาร์) กำลังจะออกจากสโมสร”

อย่างไรก็ดี เจ้าตัวก็ยอมรับว่าเขาเป็นคนที่ขุดหลุมฝั่งตัวเองเช่นกัน เมื่อเลือกตกลงเข้ารับงานกับ สเปอร์ส ก่อนที่เสร็จสิ้นภารกิจกับทัพ ‘ตราไก่ ในยูโร 2004

“สิ่งเดียวที่ผมเสียใจคือการเซ็นสัญญาเร็วเกินไป (กับ ท็อตแน่ม) ผมควรจะรอจนกว่าจะจบหลังยูโร 2004 แม้ว่านั่นอาจทำให้ผมอาจพลาดโอกาสนี่ก็ตาม”

ซานตินี่ กลับมารับงานกุนซืออีกครั้งกับ โอแซร์ สโมสรในบ้านเกิด ก่อนลุยฤดูกาล 2005-06 แต่สุดท้ายก็ถูกปลดในปี 2006 เมื่อมีปัญหาขัดแย้งกับ กีย์ รูซ์ รองประธานสโมสร และกลายเป็นทีมสุดท้ายของเขาในอาชีพผู้จัดการของเขา

ถึง นูโน่ จะกลายเป็นกุนซือที่ทำหน้าที่สั้นที่สุดใน สเปอร์ส ยุค เลวี่ แต่ซานตินี่ก็มีชะตากรรมที่ไม่ต่างกันนัก กับ 5 เดือนในถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน

และอาจหนักหนากว่า นูโน่ ด้วยซ้ำตรงที่นั่นเป็นความทรงจำที่ย่ำแย่ที่สุดในอาชีพกุนซือของ ซานตินี่ ก่อนเลือกวางมือหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปี

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

กุนซือ
ไม่ไหวก็ไม่ฝืน! 10 กุนซือลาออกเองเซ่นผลงานห่วย