พีกที่สุดในทีมชาติ : ย้อนรำลึก รูนี่ย์ กับ ทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ครั้งแรกในยูโร 2004

 

“หรือ รูนี่ย์ คือ เปเล่ คนใหม่?” นี่คือข่าวพาดหัวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ เดอะ การ์เดี้ยน ฉบับวันที่ 23 มิถุนายน ปี 2004 ซึ่งแจ้งเกิดในทีมชาติอังกฤษเต็มตัวในยุคของ สเวน โกรัน อีริคซัน

 

“ผมจำไม่ได้ว่ามีใครสามารถสร้างอิมแพ็คได้ นับตั้งแต่ เปเล่ ทำได้ในฟุตบอลโลกปี 1958” อีริคซัน กล่าวก่อนเกมที่อังกฤษจะพบกับ โปรตุเกส ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกยูโรปี 2004 

 

”รูนี่ย์ นั่นสุดยอดมากๆ ไม่แค่การทำประตูเท่านั้น แต่เขายังเล่นกับบอลได้ด้วย เขาเป็นนักฟุตบอลที่ครบเครื่องจริงๆ”

 

เมื่อเวลาผ่านไป 16 ปีต่อมา น่าเศร้าไม่น้อยที่เห็น เวย์น รูนี่ย์ วัย 34 ปี โชว์ฝีเท้าในแชมเปี้ยนส์ชิพ ลีกรองแดนผู็ดี กับ ดาร์บี้ ทั้งๆที่ เพื่อนรุ่นราวคราวเดียวบางคนยังค้าแข้งกับสโมสรใหญ่ในยุโรปอยู่ และยังถูกตราหน้าว่าล้มเหลวสุดๆกับการเล่นในทีมชาติอังกฤษ

 

แต่รู้หรือไม่ว่า ศึกยูโร ปี 2004 ที่โปรตุเกส นี่เอง คือช่วงเวลาที่ รูนี่ย์ ทำผลงานได้ดีที่สุด และแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในฟุตบอลระดับนานาชาติ จนแฟนบอลนอกอังกฤษต้องหันมาสนใจดาวรุ่งรายนี้ในเวลาต่อมา และ UFA ARENA จะไปย้อนรำลึกกับช่วงเวลาสุดพีกของ วาสซ่า ในทัพสิงโตคำรามผ่านบทความนี้

 

ตูรามยังหงายหลัง

 

 

เวย์น รูนี่ย์ สร้างชื่อในอังกฤษครั้งแรกด้วยวัยเพียง 16 ปี ในเกมที่เอฟเวอร์ตัน ดวลกับ อาร์เซน่อล ซึ่งเขาทำประตูสุดสวยได้ในวันนั้น แต่กับศึกยูโร 2004 ทำให้ ลูกหม้อท็อฟฟี่ มีโอกาสได้โชว์ความสามารถให้กับแฟนบอลทั่วโลกได้ประจักษ์ และเขาก็ทำมันได้จริงๆ

 

ลิลิยง ตูราม อดีตกองหลังชื่อดังชาวฝรั่งเศส ตอนแรกเขาไม่ได้รู้สึกเป็นกังวลแต่อย่างใดในการพบกับ ดาวรุ่งเบอร์ต้นๆแห่งวงการลูกหนัง ในเกมนัดเปิดสนามของรายการนั้นที่ ลิสบอน

 

“ผมสงสัยว่า รูนี่ย์ จะช่วยอังกฤษได้มากแค่ไหน” ตูรามกล่าว “เขายังเด็กมากๆ เด็กเกินไปที่จะแข่งขันในรายการแบบนี้ เขาขาดประสบการณ์ระดับชาติ เพราะฉะนั้น การที่อังกฤษ วางใจให้เขาเป็นคนทำประตูมันอันตรายไม่น้อยเลย”

 

“รูนี่ย์ ไม่ใช่ ไมเคิล โอเว่น เขาทำได้ดีกว่าในนัดประเดิมสนามกับทีมชาติอังกฤษก็จริง แข้งจากเอฟเวอร์ตันทำได้ไม่เลว แต่เขาก็ไม่ใช่เปเล่ซักหน่อย ”

 

 

 

อย่างไรก็ดี ในครึ่งแรก รูนี่ย์ ทักทายกองหลังตราไก่ ด้วยการใช้ศอกเฉือนไปคางจนล้มไปนอนกองกับพื้น จนในปีต่อมากับกล่าวกับ บีบีซี ว่า “ เรื่องนั้น (บทสัมภาษณ์) คือสิ่งที่ติดอยู่ในใจลึกๆของผมเลย”

 

ด้วยวัยเพียง 18 ปี รูนี่ย์ ก็แสดงความดุดันในการเล่นงานคู่แข่งแบบไม่ปราณี แต่หลังจากนั้นในครึ่งหลัง รูนี่ย์ ก็โชว์พรสวรรค์ในด้านฝีเท้าให้ทุกคนในสนาม เอสตาดิโอ ดา ลุซ ได้เห็น

 

 

หลังจาก เดวิด เบ็คแฮม เคลียร์บอลขึ้นหน้า รูนี่ย์ ที่วิ่งไปรับบอลกลางสนาม ก็กระดกบอลข้ามหัว ตูราม และ ลากบอลขึ้นหน้าไปยังหน้าปากประตูของ เลอ เบลอส์ อย่างรวดเร็ว ก่อนจะถูก มิกาเอล ซิลแวสต์ สกัดล้มลงในกรอบ 18 หลา จนผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษ

 

ในช่วงเวลา 8 วินาที นั้น รูนี่ย์ ได้รวมลีลาการทำประตูของ พอล แกสคอยน์ ในเกมพบ สก็อตแลนด์ และ การลากเลื้อยของ ไมเคิล โอเว่น ในเกมพบ อาร์เจนติเน้า เข้าไว้ด้วยกันจนเกือบสมบูรณ์แบบ 

 

แต่น่าเสียดายที่ เบ็คแฮม ยิงจุดโทษไม่เข้า ก่อนที่ ซีเนดีน ซีดาน ที่รัว 2 ประตู ในช่วงทดเวลาให้ฝรั่งเศสเอาชนะอังกฤษไป 2-1 

 

 

ระเบิดฟอร์มเต็มตัว

 

 

แต่ถึงอย่างนั้น ความพ่ายแพ่ในนัดแรกของพวกเขาก็ไม่ได้สำคัญแต่อย่างใด เพราะใน 2 เกมที่เหลือ อังกฤษ คว้าชัยไปได้ทั้ง 2 นัด นั่นก็คือเกมที่ถล่ม สวิตเซอร์แลนด์ 3-0 และ อัดโครเอเชีย 4-2 จนผ่านเข้ารอบน็อคเอ้าท์ตาม ฝรั่งเศส ไปได้

 

โดยใน 2 นัดนั้น รูนี่ย์ มีส่วนสำคัญกับชัยชนะครั้งนั้นอย่างมาก ด้วยการทำไปนัดละ 2 ตุง ที่มีทั้งการโหม่ง, การยิงจากลูกซัดนอกกรอบ หรือ ดวลหนึ่งต่อหนึ่งกับนายทวาร ก่อนยิงเข้าไปอย่างเหนือชั้น

 

ขณะที่การต้องสวมเสื้อทีมชาติอังกฤษ สร้างความกดดันให้ผู้เล่นมากมายในรายการใหญ่ๆ แต่กองหน้าวัยละอ่อนกลับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในตลอด 90 นาทีที่ลงเล่นในสนาม และพร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ทีมคว้าชัยชนะมาให้ได้

 

ด้วยการวิ่งทุ่มเททุกนาทีเพื่อทีม กับความสามารถในการทำประตู หลายคนมองว่า รูนี่ย์ น่าจะพาทีมชาติอังกฤษชุดนี้ ประสบความสำเร็จได้ในรายการระดับทวีป รวมไปถึงทัวร์นาเม้นต์ในอนาคตข้างหน้า

 

ทว่าหลังจากถูกเปรียบเทียบกับ เปเล่ ในวันต่อมาที่พบกับ โปรตุเกส ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย รูนี่ย์ ก็โดน จอร์เก้ อันดราเด้ เล่นงานจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 23 และต้องทนดูสิงโตคำรามตกรอบด้วยการดวลจุดโทษพ่ายทีมฝอยทองในท้ายที่สุด

 

 

เส้นขนานบนทีมชาติ

 

 

ด้วยผลงานในรายการนั้น ทำให้ รูนี่ย์ ได้ย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน ไปเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมกับกลายเป็นตำนานของปีศาจแดง ตลอดช่วงเวลา 13 ปีในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 

 

 แต่ชีวิตค้าแข้งในทีมชาติของ รูนี่ย์ ก็ไม่เคยกลับมาเหมือนเดิมอีกเลย การเป็นดาวรุ่งที่ดีที่สุดในซัมเมอร์นั้น ทำให้เขาต้องแบกรับความคาดหวังของชาวอังกฤษ และความกดดันไว้ตลอด ซึ่งเป็นเวลายาวนานกว่า 15 ปี ยามลงเล่นในทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ๆ

 

 รูนี่ย์ ไม่สามารถทำผลงานโดดเด่นในทีมสิงโตคำรามได้เหมือนเคยในรายการใหญ่ๆ แม้ไม่มีใครทำได้เช่นกัน แต่เขามักตกเป็นเป้าในการถูกวิพากษ์วิจารณ์จาก สื่อ, กูรู และแฟนบอลต่างๆอยู่บ่อยครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนกระทั่งศึกยูโร 2016 ที่กลายเป็นทัวร์นาเม้นต์สุดท้ายในทีมชาติอังกฤษของเขา

 

หลังหมดยุคของ รูนี่ย์ ในอังกฤษ พวกเขาก็ทำผลงานได้ดีขึ้นในยุคของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ซึ่งพาทัพทรีไลอ้อนส์ ทะลุถึงรอบรองชนะเลิศเป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปี กับศึกฟุตบอลโลกที่รัสเซียเมื่อปี 2018

 

แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่มีดาวรุ่งคนไหนที่ขึ้นมาแจ้งเกิด และ สร้างปรากฏการณ์ในทีมได้อย่างที่ รูนี่ย์ ทำให้ปี 2004 หรือ แม้แต่กลายเป็นสัญลักษณ์ของทีมชาติอังกฤษในช่วง 16 ปีที่ผ่านมา 

 

 

ที่สำคัญ กองหน้าวัย 34 ปี ยังจารึกชื่อไว้ด้วยการเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติอังกฤษ ด้วยจำนวน 53 ประตู และคงไม่มีนักเตะเลือดผู้ดีคนไหนทำลายสถิติได้ในเร็ววันนี้

 

ถ้าหากรูนี่ย์ สามารถพาทีมชาติอังกฤษประสบความสำเร็จในรายการใหญ่ๆได้ ชีวิตค้าแข้งของเขาคงจะสมบูรณ์แบบ และได้รับการยกย่องมากกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน