พี่เสือเลือกนาย : วิเคราะห์ 4 ว่าที่กุนซือคนต่อไปของบาเยิร์น มิวนิค

 

หลังเปิดฉากฤดูกาลใหม่ได้อย่างทุลักทุเล ในที่สุด บาเยิร์น มิวนิค ก็ตัดสินใจปลด นิโก้ โควัช พ้นจากตำแหน่งกุนซือของทีม

 

โค้ชชาวโครแอตและอดีตแข้งเสือใต้พาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาลแรก แต่ในปีต่อมาหลายๆอย่างกลับไม่ราบรื่นอย่างที่ควรจะเป็น เมื่อบาเยิร์นรั้งอันดับ 4 ในบุนเดสลีก้า ตามหลังจ่าฝูง โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค 4 แต้ม

 

แต่ฟางเส้นสุดท้ายของโควัชก็ขาดลงในวันที่เขาพาทีมบุกไปพ่าย ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต แบบหมดสภาพแชมป์เก่า 5-1 จนทำให้เส้นทางของเขากับยอดทีมเมืองเบียร์สิ้นสุดลงในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และแต่งตั้ง ฮันส์-ดีเตอร์ ฟลิก ผู้ช่วยขึ้นเป็นกุนซือขัดตาทัพชั่วคราว

 

คำถามที่ตามมาก็คือ ใครจะเป็นนายใหญ่ในถิ่นอัลลิอันซ์ อารีน่า คนต่อไป? ทาง  UFA ARENA จึงทำการวิเคราะห์และคัดเลือก 4 กุนซือที่มีโอกาสเข้ามารับงานสุดหินในเยอรมัน ผ่านบทความชิ้นนี้กัน  

 

 

ราล์ฟ รังนิก 

 

 

ทีมที่น่าชมที่สุดในบุนเดสลีก้าช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ไม่ใช่ บาเยิร์น มิวนิค แต่เป็น แอรร์เบ ไลป์ซิก สโมสรน้องใหม่ที่โผล่พรวดมาจากไหนก็ไม่รู้และมาพร้อมกับสไตล์การเล่นที่ดุดันจนกลายเป็นทีมอันดับต้นๆของลีกเมืองเบียร์ ซึ่งคนที่ทำให้พวกเขาเป็นเช่นนี้ก็คือ ราล์ฟ รังนิค ผู้เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาของสโมสรในปี 2012 ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นกุนซือของทีมถึง 2 ครั้ง

 

นายใหญ่ชาวเยอรมันสามารถถ่ายทอดปรัชญาและส่งต่อให้กับทีมโดยตรงแบบไม่ต้องผ่านคนกลาง แสดงให้เห็นว่า เขามีความสามารถในการปรับตัวกับงานที่ท้าทายมากแค่ไหน

 

รังนิกยังเป็นผู้นำปรัญชาการเล่นเกมรุกแบบจู่โจมคู่แข่งโดยตรง, กดดันบีบบอลสูง และ การจ่ายบอลอันรวดเร็ว เป็นสไตล์หลักของทีม ส่งผลให้ นาบี เกอิต้า และ ติโม แวร์เนอร์ กลายเป็นแข้งโด่งดังระดับโลก

 

นอกจากนี้ กุนซือวัย 61 ปี ยังทำให้ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ยกระดับไปเป็นเพลย์เมกเกอร์ระดับต้นๆในลีก และช่วยให้ ลูคัส คลอสเตอร์มันน์ กับ มาร์เซล ฮัลสเตนเบิร์ก ติดทีมชาติเยอรมันด้วย แถมยังมีสายตาที่เฉียบแหลมในการเฟ้นหานักเตะโนเนมฝีเท้าดี เช่น ซาดิโอ มาเน่ ที่เป็นหนึ่งในนักเตะที่เขาคว้าร่วมทีมในฐานะผู้อำนวยการกีฬาของ ซัลบวร์ก (เขาควบตำแหน่งนี้ทั้งที่ซัลบวร์กและไลป์ซิกในปี 2012-2015)

 

ด้วยวัยวุฒิที่มากพอในการดูแลแข้งดัง, ปรัชญาการทำทีมที่ชัดเจน ไม่แปลกที่รังนิกดูเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับตำแหน่งกุนซือของเสือใต้ มากไปกว่านั้น ในฐานะที่เขาเคยดำรงตำแหน่ง ผอ.สโมสรฟุตบอล ทำให้เขารู้ดีว่าใครคือนักเตะที่ทีมต้องการมากที่สุด หรือผู้สืบตำแหน่งต่อจากตนคือใคร หากเขาก้าวขึ้นไปเป็นผู้บริหารของสโมสรในอนาคต

 

 

โชเซ่ มูรินโญ่

 

 

อย่างไรก็ตาม การคว้ารังนิกมาขี่หลังเสืออาจดูเป็นเรื่องเพ้อฝันเกินไป เพราะไลป์ซิกคงไม่ปล่อยให้คู่แข่งร่วมลีกคว้าตัวผอ.คนเก่งไปง่ายๆแน่ นั่นทำให้ทีมจากแคว้นบาวาเรียควรหากุนซือที่มีชื่อชั้นระดับเดียวกับ เป็ป กวาร์ดิโอล่า ไปเลยคงจะง่ายกกว่า

 

ถ้าเป็นยุคก่อนอาจหมายถึง คาร์โล อันเชล็อตติ แต่ในตอนนี้ต้องเป็น โชเซ่ มูรินโญ่ เท่านั้น ซึ่งกุนซือชาวโปรตุกีสยังคงว่างงานอยู่นับตั้งแต่โดนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปลดในช่วงปลายปีที่แล้ว และมีข่าวลือกับทีมต่างๆมากมาย แต่เขาก็เลือกตอบปัดทีมเล็กๆไป(เช่น ลียง) เพราะต้องการข้อเสนอจากสโมสรใหญ่ในยุโรปมากกว่า  คำถามคือทีมระดับบาเยิร์นล่ะเหมาะหรือไม่? 

 

เดอะ สเปเชียล วัน พิสูจน์ตัวเองในต่างแดนมาแล้วหลายครั้ง มากไปกว่านั้น เขาชื่นชอบการทำทีมที่มีแนวรับสุดแข็งแกร่งและมีงบประมาณมหาศาลให้เขาช็อปปิ้งเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ เพราะงั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่า ที่นี่จะเหมาะกับมูรินโญ่มากๆ หากบอร์ดเสือใต้ต้องการคว้าเขามากุมบังเหียนจริงๆ

 

แต่แน่นนอนว่า กุนซือวัย 56 ปีมีช่วงเวลาอันแสนสุขกับสโมสรที่เขาทำงานอยู่เต็มที่แค่ 2 ปีเท่านั้น ก่อนที่ทุกอย่างจะค่อยๆพังทลายลง แต่การคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แซงหน้า เป็ป กวาร์ดิโอล่า เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ให้ได้ (ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็ปทำไม่ได้ตอนเป็นกุนซือที่นี่) น่าจะเป็นแรงกระตุ้นในเขาทำงานในต่างแดนนานกว่าปกติ

 

 “ผมจินตนาการถึงภาพที่มูรินโญ่อยู่ในเยอรมันออก” บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ตำนานแข้งของบาเยิร์น มิวนิคกล่าวถึงนายเก่า “ผมจำได้ว่าเขาถามผมตลอดเกี่ยวกับบาเยิร์น และบุนเดสลีก้า เขารู้จักนักเตะทุกคน แม้จะอยู่ในทีมเล็กๆก็ตาม แถมเขายังเรียนภาษาเยอรมันอีกด้วย”

 

 

อาร์เซน เวนเกอร์

 

 

หากลองคิดนอกกรอบดูหน่อย อาร์เซน เวนเกอร์ ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจในตำแหน่งกุนซือเสือใต้ เนื่องจากเขาเป็นคนสร้างให้อาร์เซน่อลเป็นทีมอันดับต้นๆในอังกฤษและยุโรป ซึ่งนับตั้งแต่ที่บอกลาตำแหน่งกุนซือของปนใหญ่ เขาออกมาพูดบ่อยๆว่าอยากกลับไปทำงานคุมทีมอีกครั้ง เพียงแต่รอโอกาสที่เหมาะสมเท่านั้น

 

ทีมที่เต็มไปด้วยซุปเปอร์สตาร์ก็ควรดูแลด้วยผู้จัดการทีมระดับซุปเปอร์สตาร์เช่นกัน บางทีแค่การที่เวนเกอร์ ออกมาชม โธมัส มุลเลอร์ หลังการแข่งขันทุกๆนัดอาจทำให้ แข้งชาวเยอรมันกลับมาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมอีกครั้งก็เป็นได้

 

กุนซือชาวฝรั่งเศสไม่ได้ยัดข้อมูลด้านแทคติกให้กับนักเตะจนเกินไป และเขายังหาวิธีช่วยพัฒนาฝีเท้าและแนวทางการเล่นของลูกทีมด้วย กับบาเยิร์น เวนเกอร์จะมีโอกาสแก้ตัวกับ แซร์จ นาบรี้ อีกครั้ง และในที่สุดเขาก็มีงบประมาณมากมายในการคว้าดาวรุ่งมาร่วมทีมจากทั่วโลก โดยไม่ต้องกังวัลว่าสโมสรจะมีเงินใช้หนี้ตอนสร้างสนามใหม่หรือไม่

 

แม้ตัวเลือกนี้อาจเป็นการเสี่ยงมากๆสำหรับบอร์ดของบาเยิร์น มิวนิค อีกทั้ง เวนเกอร์ ไม่ได้มีแววของการเป็นโค้ชระดับโลกตั้งแต่ปี 2006 แล้ว 

 

 

เอริก เตน ฮาก

 

 

สิ่งที่บาเยิร์นต้องการคือแนวทางใหม่ๆ และปรัชญาการทำทีมที่ชัดเจน ใช่ รังนิกอาจนำสิ่งนั้นมาให้้ทีมได้ แต่ไลป์ซิกคงจะยอมเจรจาด้วยล่ะ? แถมเขาก็พึ่งพอใจกับการทำหน้าที่ผู้อำนวยการกีฬาอยู่แล้ว และปล่อยให้ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ทำหน้าที่คุมทีมแทน ซึ่งพี่เสือก็คงไม่สนกุนซือหนุ่มเท่าไหร่ เนื่องจากเขายังต้องหาประสบการณ์ในตำแหน่งนี้อีกเยอะ

 

งั้นทำไมไม่ลองมองไปที่บางคนที่คุมทีมอยู่ต่างแดนพร้อมกับมีวิสัยทัศน์และปรัญชาที่ยอดเยี่ยมดูบ้างล่ะ? คนที่สามารถทำได้อย่างที่รังนิกทำ แต่เป็นตำแหน่งโค้ชโดยตรง? และคนที่เราหมายถึงก็คือ เอริก เตน ฮาก กุนซืออาแจ็กซ์ที่พาทีมคว้าแชมป์ลีกดัตช์และทะลุถึงรอบตัดเชือกในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลก่อน

 

กุนซือวัย 49 ปี ใช้ความสามารถของเขาเปลี่ยนให้แฟรงกี้ เดอ ยอง เป็นหนึ่งในกองกลางระดับต้นๆของโลก และเป็นสร้างให้ มัธไธจ์ส เดอ ลิกต์ เป็นผู้นำของทีมด้วยวัยเพียง 19 ปีเท่านั้น และถึงแม้ว่าทีมจะเสียตัวหลักทั้ง 2 คนไปในฤดูกาลนี้ เขาก็สามารถปรับและหยึดหยุ่นระบบของทีมได้เป็นอย่างดีและช่วยให้อาแจ็กซ์อยู่ในเส้นทางของผู้ชนะได้

 

บาเยิร์นอาจต้องยอมจ่ายหนักเพื่อฉีกสัญญาจากอาแจ็กซ์และคว้าเขามาร่วม แต่ว่ามันอาจจะเกินคุ้มเช่นกัน เมื่อเขาได้ดูแลทีมที่มี ติอาโก้ อัลคันทาร่า และ โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ ในแดนกลาง, มีแซร์จ นาบรี้ ไว้ฉีกแนวรับคู่แข่ง เหมือนที่เขามีดาวิด เนเรส ในอาแจ็กซ์ และกองหน้าเบอร์ต้นๆของโลกอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

 

อีกทั้้ง เตน ฮาก ยังเคยทำงานกับเสือใต้มาแล้วในฐานะกุนซือทีมชุด บี (บาเยิร์น มิวนิคด ทู) ใน 2 ฤดูกาลแรกที่ เป็ป กวาร์ดิโอล่า ยังเป็นนายใหญ่ของทีมอยู่ เพราะอย่างนั้น เขาน่าจะได้รับแนวทางจากกุนซือชาวสแปนิชมาไม่มากก็น้อย และน่าจะช่วยให้เสือใต้กลับไปเป็นสโมสรที่น่าเกร่งขามอีกครั้ง ทั้งในประเทศและยุโรป

 

อย่างไรก็ตาม นายใหญ่ดัตช์แมนประกาศชัดว่าเขาไม่มีความสนใจที่จะลาอาแจ็กซ์เพื่อไปคุมสโมสรในช่วงกลางฤดูกาลแบบนี้ นั่นหมายความว่า ถ้าบาเยิร์นต้องการ เตน ฮาก จริงๆ พวกเขาก็จำเป็นต้องรอต่อไปเพื่อที่จะได้ตัวกุนซือหนุ่มไฟแรงมาคุมทีมและวางรากฐานในระยะยาว แต่ถ้าพวกเขามีเป้าหมายระยะสั้นอย่างต้องการกลับมาคว้าแชมป์ในปีนี้ให้ได้ทันที ชื่อของเตน ฮากก็คงไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก