ฟังหูไว้หู! 10 ดีลบันลือโลกที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง

 

ในทุกช่วงตลาดนักเตะมักจะมีข่าวลือเรื่องการย้ายทีมของสตาร์ดังๆออกมาให้เห็นเสมอ บางครั้งก็เป็นเรื่องจริง น่าเสียดายที่ส่วน

ใหญ่จะจบด้วยการเป็นแค่ข่าวโคมลอยทั่วไป มาในตลาดช่วงซัมเมอร์รอบนี้ ก็มีหลายดีลที่เป็นน่าจับตามอง และต้องมารอลุ้นกันว่า

จะเป็นจริงหรือไม่

 

วันนี้ทาง UFA ARENA จะขอมาย้อนรอยข่าวลือซื้อ-ขาย ที่ทำเอาทั้งโลกสั่นสะเทือนแต่สุดท้ายดันไม่เกิดขึ้นจริง

 

 

แมตต์ เลอ ทิสซิเอร์ -เซาธ์แฮมป์ตัน ไป สเปอร์ส เชลซี แมนฯยู

 

 

กองกลางตัวรุกพรสวรรค์สูงที่สุดในช่วงยุค 1986 -2002ของเซาธ์แฮมป์ตัน เคยได้รับความสนใจมาจากทีมใหญ่บนเวทีพรีเมียร์ลีก

หลายทีมทั้ง สเปอร์ส , เชลซี และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ข่าวลือเหล่านั้นก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง

 

ดาวเตะเลือดผู้ดีถือว่าเป็นนักเตะที่มีจุดเด่นในเรื่องลูกยิงที่หนักหน่วง และการยิงจุดโทษที่แม่นยำโดยเขาทำประตูจากจุดโทษได้ถึง

47 จาก 48ครั้ง ส่วนข่าวลือที่เกือบจะได้เป็นจริงมากที่สุดคือในปี 1990 ที่ทัพไก่เดือยทอง เข้ามาติดต่อขอซื้อตัว และได้เจรจาตกลง

กันจนจะปิดดีลอยู่แล้ว แต่ด้วยความติส หรือความภักดีต่อนักบุญของเจ้าตัว ทำให้เขาปฏิเสทไปในนาทีสุดท้าย

 

ความสนใจในกองกลางรายนี้ของทีมยักษ์ใหญ่ยังไม่หยุดแค่นั้นในปี 1997 เชลซี พยายามขอซื้อตัวเขาไปร่วมทัพแต่แข้งนักบุญก็

ตอบปฏิเสทไปอีกครั้ง สุดท้ายก็แขวนสตั๊ดไปในฐานะ วันแมนคลับ เมื่อปี 2002

 

 

ร็อบบี้ คีน – สเปอร์ส ไป เอฟเวอร์ตัน

 

 

ตำนานดาวยิงชาวไอริชที่ตระเวนค้าแข้งไปกับหลายสโมสรทั้ง อินเตอร์ มิลาน, สเปอร์ส และ ลิเวอร์พูล ที่นับว่าเป็นสโมสรใหญ่ๆใน

ช่วงอาชีพค้าแข้ง โดยตลอดอาชีพค้าแข้งมีสโมสรหนึ่งที่ให้ความสนใจในตัวเขามาตลอดนั่นก็คือ เอฟเวอร์ตัน ที่พยายามตามจีบมาตลอด

 

ข่าวความสนใจเริ่มผุดขึเนมาในปี 2005 เมื่อ เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมทอฟฟี่สีน้ำเงิน สนใจจะถึงตัวเขามาจากสเปอร์ส จนเป็นพาด

หัวข่าวไปทั่วเกาะอังกฤษ แต่สุดท้ายมันก็ไม่เกิดขึ้น แถมดาวยิงไก่เดือยทองยังไปจบด้วยการย้ายไปทีมฝั่งตรงข้ามอย่าง ลิเวอร์พูล

ในปี 2008 แม้จะเป็นช่วงสั้นๆแต่ก็ทำเอาสาวกทอฟฟี่ช้ำใจกันไม่น้อย และแม้จะเข้าช่วงบั้นปลายอาชีพ คีนก็ไม่ได้ชายตามองไปที่

เอฟเวอร์ตันเลยแม้แต่น้อย

 

 

เจมี่ วาร์ดี้ – เลสเตอร์ ซิตี้ ไป เรอัล มาดริด

 

 

ข่าวลือสุดโด่งดังที่สุดในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 หลังจากทัพจิ้งจอกสามารถเถลิงแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2015/16 ซึ่งเจ้าตัวเป็นส่วน

สำคัญของทีมชุดแชมป์ร่วมกับ ริยาด มาห์เรซ , เอ็นโกโล่ กองเต้ และนักเตะคนสำคัญๆอีกเพียบที่แจ้งเกิดในฤดูกาลนั้น

 

ในปีนั้น วาร์ดี้ ระเบิดฟอร์มถล่มประตูไปได้ถึง 24ประตู จาก 36เกมในลีกพร้อมกวาดรางวัลส่วนตัวไปได้อีกเพียบได้แก่ ผู้เล่นแห่งปี

พรีเมียร์ลีก , ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปี , รางวัลนักฟุตบอลแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวฟุตบอล และผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือน 2สมัย

 

จากฟอร์มที่ว่ามานี้ทำให้ เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งศึกลาลีกา สเปน ให้ความสนใจดึงตัวเขาไปร่วมทีมในฐานะอะไหล่สำรอง

นอกจากนี้ยังมีทีมคู่แข่งร่วมลีกอย่าง อาร์เซน่อล ที่ต้องการเชาเช่นเดียวกัน แต่สุดท้ายทุกข่าวลือที่เกิดขึ้นก็เป็นอันต้องพับเก็บไป

เมื่อ วาร์ดี้ เลือกเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับเลสเตอร์ไป และอยู่กับทีมมาจนถึงปัจจุบัน

 

 

การ์เลส ปูโยล – บาร์เซโลน่า ไป นิวคาสเซิล

 

 

ข่าวลือสุดประหลาดที่ผุดขึ้นมาในช่วงปี 2010 ที่เกิดขึ้นกับ การ์เลส ปูโยล กองหลังกัปตันทีม บาร์เซโลน่า ผู้ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์

ของทีม หลังจบศึกฟุตบอลโลกที่สเปนคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ปูโยลที่อยู่ในช่วงโรยราก็ประกาศเลิกเล่นทีมชาติ พร้อมทั้งมีกระแสข่าว

การย้ายออกจากทัพต่างดาวออกมามากมาย

 

โดยหนึ่งในกระแสข่าวที่มาแรงที่สุดในช่วงเวลานั้น ไม่ใช่ความสนใจจากทีมใหญ่ๆของยุโรปอย่าง เรอัล มาดริด , แมนเชสเตอร์

ยูไนเต็ด หรือ อินเตอร์ มิลาน ที่กำลังระเบิดฟอร์มใส่กันเปรี้ยงปร้าง แต่กลับเป็นทีมที่เพิ่งขึ้นมาจาก เดอะแชมเปี้ยนส์ชิพอย่าง นิว

คาสเซิล ซึ่งสำนักข่าวในช่วงนั้น รายงานว่า ทัพสาลิกาดง เตรียมดีลแลกตัว ยอดกองหลังต่างดาว กับ สตีเว่น เทย์เลอร์ กองหลัง

หนุ่มวัย 24ปีของทีม ซึ่งสุดท้ายดีลก็ไม่เกิดขึ้นและ ปูโยลก็เลือกค้าแข้งอยู่ในถิ่นคัมป์นูไปจนถึงปี 2014 ก่อนแขวนสตั๊ดในฐานะ วัน

แมนคลับ

 

 

เซอร์จิโอ อเกวโร่ – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป บาเยิร์น มิวนิค

 

 

หอกตัวเก่งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ย้ายมาจากแอตเลนติโก มาดริด แค่เพียงซีซั่นแรกก็ระเบิดฟอร์มโหดพาทัพเรือใบผงาดขึ้นไป

คว้าแชมป์ได้ทันทีในฤดูกาล 2011-12 แน่นอนว่าฟอร์มอันโดดเด่นขนาดนี้ก็ทำให้ในช่วงปลายปี 2013 ก็มีความสนใจมาจาก บาเยิร์น

มิวนิค ยอดทีมจากบุนเดสลีกา ที่อยากได้ตัวเขาไปร่วมทีมมากถึงขั้นที่ว่า ยอมเอา โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงตัวหลักของทีมไป

เป็นตัวแลกเปลี่ยนในดีล

 

นอกจากนี้ตัวประธานสโมสรเสือใต้อย่าง คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ ก็ออกมาแสดงความต้องการชัดเจน แถมยังเร่งเร้าให้ทีมคว้าตัว

ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์คนนี้มาร่วมทัพ แม้ว่าสุดท้ายดีลนี้จะไม่เกิดขึ้นก็ตาม แต่ก็สร้างความสั่นสะเทือนให้โลกฟุตบอลไม่น้อย

 

 

เซอร์จิโอ อเกวโร่ – แอตเลนติโก มาดริด ไป เชลซี

 

 

ยังอยู่กันที่ดาวยิงสุดเหนือหอมของแมนฯซิตี้ แต่คราวนี้ย้อนกลับไปในสมัยที่เขายังค้าแข้งอยู่กับ แอตเลนติโก มาดริด และยังเป็น

เพียงแค่ดาวรุ่งในช่วงปี 2011 มีข่าวลือว่า เชลซี มีความต้องการที่จะดึงตัว หอกวัย 23ปี รายนี้เข้ามาสู่ทีม แต่ด้วยกระแสในตอนนั้นที่

หลายฝ่ายมองว่า อเกวโร่ ยังไม่ใช่นักเตะที่จะมาแบกรับความคาดหวังในช่วงกลางซีซั่นได้ แถมด้วยราคา 35ล้านปอนด์ที่เป็นราคาที่

คาดการณ์กันไว้ในขณะนั้น ก็ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ดูจะสูงเกินไปสำหรับการเสี่ยงดวงครั้งนี้

 

สุดท้ายแล้วสิงห์บลู เลือกเก็บเงินก้อน 35ล้านปอนด์ไว้ไม่ยอมจ่ายให้กับทัพตราหมี และเบนเข็มไปที่ แฟร์นันโด ตอร์เรส จาก

ลิเวอร์พูล ที่มีราคาเพียงแค่ 15ล้านปอนด์เท่านั้น แต่แล้วการตัดสินใจที่ผิดพลาดก็ออกฤทธิ์ เมื่อดาวยิงตัวความหวังที่ซื้อมากลับยิง

ได้เพียงประตูเดียวในซีซั่นแรกที่ย้ายมาเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ดบริดจ์ ส่วนคนที่ถูกปรามาสอย่าง อเกวโร่ ได้ย้ายไปเล่นให้แมนฯซิตี้

ในฤดูกาลถัดมาพร้อมระเบิดฟอร์มกด 23ประตู จาก 34นัดในซีซั่นแรกที่มาถึงเกาะอังกฤษ

 

 

กาก้า – เอซี มิลาน ไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

 

ย้อนกลับไปปีแรกที่ ชีค มานซูร์ เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร แมนฯซิตี้ เมื่อปี 2008 ได้กางโปรเจคดูดสตาร์ดังด้วยกำลังเงินมหาศาล

และหนึ่งในนั้นคือ ริคาร์โด้ กาก้า เพลย์เมคเกอร์ตัวเก่งของ เอซี มิลาน ที่ทัพเรือใบพยายามตามจีบตั้งแต่เดือนมกราคม 2009 ซึ่ง

ตามรายงานระบุว่าเม็ดเงินที่ แมนฯซิตี้ ยื่นให้กับปีศาจแดงดำ มีมูลค่าสูงถึง 100ล้านปอนด์ แต่กาก้าก็เลือกที่จะอยู่กับ รอสโซเนลลี่

ต่อไป

 

ภายหลังสตาร์แซมบ้าก็ต้องจำใจอำลาทีมไปในช่วงจบซีซั่น ด้วยปัญหาการเงินภายในสโมสร เอซี มิลาน และย้ายไปอยู่กับ เรอัล

มาดริด ด้วยค่าตัว 56ล้านปอนด์

 

 

เวสลี่ย์ สไนเดอร์ – อินเตอร์ มิลาน ไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

 

ในช่วงซัมเมอร์ปี 2011 ข่าวลือที่มาแรงที่สุดเห็นจะเป็นข่าวความสนใจคว้าตัว เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ของแมนฯยู ในเวลานั้นไปไกลถึงขั้น

ที่ว่าตัวนักเตะเองที่ตอนนั้นยังค้าแข้งอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน ถึงกับออกเปรยๆถึงเรื่องการย้ายทีม

 

กลางรุกชาวดัชต์ ถือว่าเป็นนักเตะคนสำคัญของทัพงูใหญ่ในเวลานั้น และได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในแกนหลักของทีมชุดคว้าทริปเปิ้ล

แชมป์ แถมในฟุตบอลโลกก็พาทัพอัศวินสีส้มไปเป็นถึงรองแชมป์ ซึ่งเป้าหมายของทางปีศาจแดงก็คือการจะให้ดาวเตะรายนี้เข้ามา

เป็นตัวแทนของ พอล สโคลส์

 

สุดท้ายแล้วดีลดังกล่าวก็ไม่เกิดขึ้น และสไนเดอร์เองก็อยู่ค้าแข้งกับเนรัซซูรี่ไปอีกจนถึงปี 2013 ก่อนจะย้ายไป กาลาตาซาราย ส่วน

แมนฯยูก็เคยกางแผนดึงตัวเขามาสู่ทีมอีกครั้งในปี 2014ภายใต้การคุมทีมของ หลุยซ์ ฟานกัล

 

 

สตีเว่น เจอร์ราร์ด – ลิเวอร์พูล ไป เชลซี

 

 

ข่าวใหญ่สุดน่าเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2005 หลังจากลิเวอร์พูลไปผงาดคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้สำเร็จ ความสนใจจาก

เชลซี ภายใต้การคุมทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่นั้นพุ่งเป้ามาที่กัปตันทีมหงส์แดงอย่าง สตีวี่จี

 

แน่นอนว่าข่าวลือในตอนนั้นไม่มีใครคิดว่า เจอร์ราร์ดจะทรยศทีม แต่กลับกันไม่ใช่ตัวนักเตะที่อยากจะออกจากทีม แต่เป็นผู้จัดการ

ทีมอย่าง ราฟา เบนิเตซ ที่มีข่าวว่าพยายามบีบกัปตันคนสำคัญของทีมออกจากทีม เนื่องจากมีข่าวว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะ

สู้ดีนักในช่วงหลัง ซึ่งเรื่องนี้ตัวดาวเตะทีมชาติอังกฤษเป็นคนออกมาเปิดเผยด้วยตัวเองว่า “สำหรับผมตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ต้อง

คิดถึงเรื่องข่าวลือที่ ราฟา เหมือนอยากจะขายผมออกจากทีม”

 

“แต่ผมคิดว่าข่าวนั้นน่าจะเป็นเรื่องจริงเพราะรู้สึกว่า ราฟา พยายาม กดดันผม ทั้งๆ ที่ได้พยายามทุ่มเทชีวิตเพื่อทีมมาตลอด จนรู้สึก

ว่าบางทีอาจจะย้ายไปสโมสรที่ผู้จัดการทีมรักตัวเองมากกว่า”

 

อย่างไรก็ตาม เจอร์ราร์ด ก็ได้ค้าแข้งอยู่กับ ลิเวอร์พูล ต่อไปจนถึงปี 2015 ก่อนที่จะย้ายไปจบอาชีพค้าแข้งในเมเจอร์ลีกกับ แอลเอ

กาแลกซี่ นั่นเอง

 

 

ลิโอเนล เมสซี่ – บาร์เซโลน่า ไป เชลซี แมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

 

ในช่วงปี 2015ที่ผ่านมาหลายฝ่ายมองกันว่าถึงจุดอิ่มตัวของ ลิโอเนล เมสซ๊่ กับ บาร์เซโลน่าแล้ว ทำให้ข่าวลือการย้ายทีมมีออกมา

ให้เห็นรื่อยๆ โดยในขณะนั้น สองทีมที่เป็นข่าวอย่างหนักกับเจ้าตัวก็คือ เชลซี ที่พร้อมทุ่มเม็ดเงินจำนวนมหาศาลให้กับดาวเตะชา

วอาร์เจนไตน์ กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังจะได้ว่าที่กุนซือคนใหม่เป็น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เจ้านายเก่าของเมสซี่

 

แม้ว่าสุดท้ายในปีนั้นจะไม่มีใครได้ตัวสตาร์ต่างดาวไป แต่ทางทัพเรือใบสีฟ้าก็พยายามตามจีบเรื่อยมาหลังจากนั้น ซึ่งทางเป๊ป กวา

ร์ดิโอล่าก็ออกมาเผยว่าตนไม่ได้เป็นคนขอให้ซื้อดาวเตะรายนี้ และเป็นความต้องการของสโมสร ซึ่งแน่นอนว่าโดนเมสซี่ปฏิเสทมา

ทุกครั้งและเจ้าตัวก็ยังคงอยู่กับ บาร์เซโลน่า สโมสรที่ปั้นเขามาตั้งแต่เด็ก