หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือของ “อัศวินสีส้ม” ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ยืนยันว่าทีมของเขาจะไม่แสดงสัญลักษณ์ในการประท้วงฟีฟ่าในแคมเปญรณรงค์ความเท่าเทียมกัน “OneLove” สั่งลูกทีมโฟกัสการทำผลงานในสนามให้ดีที่สุด
ก่อนหน้านี้กัปตันทีมหลายชาติได้เตรียมสวมปลอกแขนสีรุ้งที่มีข้อความเขียนว่า One Love เพื่อหวังรณรงค์ความเท่าเทียมกันประท้วงต่อเจ้าภาพอย่างทีมชาติกาตาร์ที่จำกัดสิทธิหลายอย่างของกลุ่ม LGBTQ+
อย่างไรก็ตาม สพพันธ์ฟุตบอลยุโรปหรือ ฟีฟ่า ได้สั่งห้ามหากใครสวมปลอกแขนกัปตันทีมสายรุ้งลงสนามจะโดนใบเหลืองคาดโทษทันที
ทำให้ทีมชาติเยอรมนีที่ลงประเดิมสนามเกมแรกได้ทำสัญลักษณ์เอามือป้องไปที่ปากในระหว่างการถ่ายภาพทีม 11 ตัวจริง ก่อนจะพลิกล็อคพ่ายให้กับญี่ปุ่น 1-2
ล่าสุดมีผู้สื่อข่าวไปถาม เฮดโค้ชของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ว่าพวกเขามีแผนจะทำการประท้องต่อฟีฟ่าอย่างที่ทีมชาติเยอรมันทำหรือไม่ ซึ่งลุงกัลยืนยันว่าเขาไม่เอาด้วย เพราะต้องนี้ขอโฟกัสในเรื่องของการทำผลงานในฟุตบอลโลกเท่านั้น
“ไม่ เราหยุดทุกอย่างลงหลังจากเกิดประเด็นทั้งหมด ผมไม่รู้ว่าการประท้วงนี้ทำให้ เยอรมัน พ่ายแพ้หรือไม่ แต่ผมไม่อยากให้ลูกทีมต้องมาเสียสมาธิหลุดการโฟกัสในสนามกับเกมที่เราพบกับ เอกวาดอร์ ผมยืนยันตรงนี้ว่าพอแล้ว” กุนซือวัย 71 ปี กล่าว
“เอกวาดอร์เป็นทีมที่ยอดเยี่ยม พวกเขามีร่างกายที่แข็งแกร่ง มีผู้เล่นที่ชาญฉลาดและเปี่ยมไปด้วยไหวพริบ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมเชื่อว่าทำไมพวกเขาถึงดูแข็งแกร่งกว่า เซเนกัล”
ส่วน เดนเซล ดุมฟรีส์ วิงแบ็คที่มาร่วมงานแถลงก่อนเกมก็ได้พูดถึงการรณรงค์ความเท่าเทียมของแคมเปญ OneLove เช่นกัน
“เราให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้สิ่งนี้มาก ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้พูดถึงเรื่องนี้อยู่ตลอด แต่เรามากาตาร์เพื่อเล่นฟุตบอล และนั่นคือสิ่งที่เราโฟกัส เราได้พูดในสิ่งที่ต้องพูดไปแล้ว ต่อจากนี้ไปคือการมีสมาธิในสนาม” ดุมฟรีส์ กล่าว
สำหรับทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ ตอนนี้มี 3 คะแนนจากการเอาชนะ เซเนกัล มา 2-0 ในเกมแรก นัดต่อไปพวกเขาจะพบกับ เอกวาดอร์ ที่ชนะกาตาร์มาด้วยสกอร์เดียวกัน ในวันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน 23.00น. ตามเวลาในประเทศไทย
