ฟูลแบ็คตัวใน! ตำแหน่งเก่าที่ถูกนำมาขัดใหม่โดย เป๊ป

 

ผลงานของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ในปัจจุบันเห็นได้ชัดว่ามีการพัฒนา และแข็งแกร่งขึ้น แม้ว่าตัวผู้เล่นจะไม่ได้พร้อมเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมันก็มีหลายๆปัจจัย หนึ่งในนั้นคือตำแหน่งของ เจา กานเซโล่ แบ็คที่เกือบจะล้มเหลวกับทีมในช่วงฤดูกาลแรก แต่ในปีนี้เขาถูกจับมาเล่นตำแหน่งฟูลแบ็คตัวในจนสามารถระเบิดฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม

 

วันนี้ UFA ARENA จะมาไขข้อข้องใจตำแหน่งฟูลแบ็คตัวในที่นายใหญ่ชาวสเปนเอามาใช้เป็นอย่างไร และช่วยชุบชีวิตฟอร์ม กานเซโล่ ได้อย่างไรกับ ฟูลแบ็คตัวใน! ตำแหน่งเก่าที่ถูกนำมาขัดใหม่โดย เป๊ป

 

อะไรคือฟูลแบ็คตัวใน?

ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่เคยมีโผล่มาใเห็นบ้างแล้วในฟุตบอลยุคก่อน ที่ตำแหน่งของนักเตะยังไม่ได้ฟิคตายตัว เน้นเปิดเกมรุกใส่เต็มที่ แต่ด้วยธรรมชาติของฟุตบอลที่ผลัดเปลี่ยนไปทำให้ตำแหน่งนี้ที่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างนักถูกลบหายไปจากวงการลูกหนัง จนกระทั่ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นำมาปัดฝุ่นพร้อมปรับให้เข้ากับฟุตบอลสมัยใหม่ ในช่วงที่เขาคุม บาร์เซโลน่า

 

อย่างที่กล่าวไปว่าโลกฟุตบอลมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดทำให้เกิดการผลิตแทคติคออกมาแก้ทางกันไปมาเรื่อยๆแบบไม่รู้จบ ฟูลแบ็คตัวในเองก็ถูกสร้างมาเพื่อรับมือกับการโจมตีโดยปีกที่ชอบเล้ยงตัดเข้าในเพื่อโจมตี รวมถึงการโจมตีสวนกลับด้วยพื้นที่ตรงกลาง นอกจากนี้ในส่วนของเกมรุกนักเตะในตำแหน่งนี้ก็จะหุบเข้ามาช่วยต่อบอลในแดนกลาง และเพิ่มมิติในเกมรุกมากขึ้น

 

ซึ่งในเรื่องของแนวคิดของตำแหน่งนี้ ตัวนายใหญ่ชาวสเปนก็เคยออกมาพูดถึงไว้ว่า “ในทุกทีมกีฬา ความลัก็คือการโอเวอร์โหลดผู้เล่นไปด้านใดด้านนึงของสนาม เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามเทแนวป้องกันของตัวเองไปเพื่อรับมือ และเมื่อเข้าทางแล้ว เราก็จะเปลี่ยนแกนโจมตีไปอีกด้านนึง” ทำให้ตำแหน่งนี้ถูกหยิบมาเจียระไนจนสมบูรณ์

 

ต้นตำรับจาก อัลเวส

 

Pep Guardiola Reportedly Considering Making a Move for Dani Alves | ht_media

ซึ่งจุดเริ่มต้นของตำแหน่งฟูลแบ็คตัวในเวอร์ชั่น เป๊ป เริ่มมาจากที่ในช่วงเวลานั้น บาร์เซโลน่า ประสบปัญหาในการโดนเจาะทางริมเส้นเวลาที่โดนตัดบอลไปได้ จนเป็นสาเหตุให้เสียประตูบ่อยครั้ง ทำให้กุนซือหัวไข่คิดค้นการรับมือนี้ขึ้นมา และนักเตะคนที่ถูกใช้ทดลองในตำแหน่งนี้ก็คือ ดานี่ อัลเวส 

 

ด้วยความที่แนวรับชาวบราซิเลี่ยน เป็นนักเตะที่มีทักษะในเรื่องเกมรุกดีอยู่แล้ว ทั้งการผ่านบอล เปิดบอล และการไปกับบอลได้อย่างดี ทำให้การขยับเข้ามาเล่นในพื้นที่แดนกลางเวลาเล่นเกมรุกของเขายิ่งทำให้ระบบ ติกิตาก้า ที่เป็นจุดเด่นของพวกเขามีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีก เพราะพวกเขามีแดนกลางที่แน่นขึ้น และสามารถรับมือกับปัญหาเดิมได้แล้ว

 

นอกจากนี้ด้วยความยอดเยี่ยมของ ดานี่ อัลเวส เวลาหุบมาเล่นตรงกลาง ส่งผลไปถึงเมื่อเขาย้ายไปอยู่กับ เปแอสเช เขาก็ถูกจับมาเล่นเป็นกองกลาง แถมในปัจจุบันที่เขาค้าแข้งอยู่กับ เซาเปาโล ในบ้านเกิดก็กลายเป็นกองกลางตัวหลักของทีมในตำแหน่งนี้ด้วยการลงไปแล้ว 15 นัด

 

สถิติสุดโหดของสามแข้งเล่นตำแหน่งนี้

 

Pep Guardiola Bayern Munich's Philipp Lahm one of the best players ever

ในบรรดา 3 ทีมที่ เป๊ป ได้ไปรับงานคุมทีมไล่มาตั้งแต่ บาร์เซโลน่า , บาเยิร์น มิวนิค และ ปัจจุบันกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เขามักจะนำแผนฟูล แบ็คตัวในไปปรับใช้ด้วยเสมอ และนักเตะสามรายที่เล่นในตำแหน่งนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดก็มี ดานี่ อัลเวส , ฟิลิป ลาห์ม และ เจา กานเซโล่ คนปัจจุบัน

 

โดยในส่วนของผลงานทั้งสามรายก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย อัลเวส เป็นคนที่สามารถสร้างโอกาสได้มากที่สุดในบรรดานักเตะสามราย ด้วยปัจจัยที่เขามีเพื่อนร่วมทีมที่สามารถทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำหลายรายทำให้การผ่านบอลไปในพื้นที่สุดท้ายสามารถกลายเป็นโอกาสได้บ่อยมาก ในขณะที่เกมรับเองเขาก็ทำได้อย่างดีเช่นกัน

 

ส่วนทางด้าน ลาห์ม เองก็มีโอกาสการผ่านบอลสำเร็จสูงถึง 79.48 เรียกว่าสูงที่สุดในบรรดาสามรายนี้ แม้จะไม่ได้เป็นนักเตะที่เน้นบุกไปสร้างโอกาสให้เพื่อนมากเท่าไรนักเตะก็ทดแทนมาด้วยความเสถียรของทีม ซึ่งที่ทัพเสือใต้ ไม่ได้มีแต่ ลาห์ม ที่สามารถเล่นตำแหน่งนี้ได้ดี ดาวิด อลาบา เองก็เป็นอีกรายที่ทำผลานในตำแหน่งนี้ได้ดีไม่แพ้กัน

 

 

ความพยายามที่จะนำระบบนี้มาที่เรือใบ

 

Fabian Delph Close to Completing £8m Everton Move From Manchester City |  90min

 

สมัยที่ เป๊ป เข้ามาคุมเรือใบสีฟ้าใหม่ เขาก็มีความพยายามที่จะนำฟูลแบ็คตัวในเข้ามาใช้งานเช่นเดียวกับสมัยที่คุมเสือใต้ ด้วยการใช้งาน ฟาเบียน เดลฟ์ แต่ด้วยอาการบาดเจ็บของนักเตะ ทำให้ เป๊ป ต้องเปลี่ยนแผน บวกกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในโลกฟุตบอล ทำให้เราจะเห็นได้จากการดึงตัว ไคล์ วอล์คเกอร์ และ เบนจาเมง เมนดี้ เข้ามาสู่ทีมว่า เป็ป ต้องการนักเตะในรูปแบบ วิงค์แบ็คที่จะวิ่งขึ้นสุดลงสุดได้

 

อย่างไรก็ตามในรายของ เมนดี้ มีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ตลอดทำให้เจ้าตัวต้องเปลี่ยนแผนอีกครั้ง กลายเป็นว่าต้องใช้แบ็คแบบปกติทั่วไปที่บุกขึ้นไปเปิดบอล แน่นอนว่าไม่ต้องพูดถึงการใช้งาน ฟูลแบ็คตัวในที่เขาชื่นชอบ การนำเอาตำแหน่งนี้มาใช้งานใน พรีเมียร์ลีกของนายใหญ่เลือดกระทิงจัดได้ว่ามีแต่อุปสรรคเต็มไปหมด

 

ตำแหน่งที่คืนชีพให้ กานเซโล่

 

João Cancelo Key To Pep Guardiola's Tactical Tinkering At Man City

ในช่วงแรกของการมาที่ เรือใบสีฟ้า เป๊ป ต้องเจออุปสรรคมากมายในการเอาแผน ฟูลแบ็คตัวในมาเล่น จนเกือบจะต้องล้มเลิกไปแล้ว ในขณะที่การมาของ การเซโล่ในช่วงแรกก็แทบจะเป็นการย้ายทีมที่ล้มเหลว ทั้งที่มาในฐานะตัวสำรอง แต่ก็นับว่าค่อนข้างน่าผิดหวัง จากการได้ลงสนามในปีแรกทั้งหมด 33 นัด ยิง 1 จ่าย 1 รวมทุกรายการ แต่ได้ลงตัวจริงไปทั้งหมดแค่ 19 นัด 

 

แต่ในที่สุดแล้วพอมาในซีซั่น 2020/21 ที่นับเป็นฤดูกาลที่สองของ แนวรับจากม้าลาย กับเรือใบสีฟ้า ก็เหมือน กุนซือชาวสเปนจะมองเห็นช่องในการใช้งานตำแหน่ง ฟูลแบ็คตัวในอีกครั้ง ในรูปแบบของ กานเซโล่ ซึ่งสถิติในฤดูกาลนี้ของเขาผ่านบอลสำเร็จ 64 ครั้ง และ สร้างโอกาส 1.8 ครั้ง ทำให้ในปีนี้เขาลงไปแล้ว 30นัด ยิง2 ประตู 4 แอสซิสต์ เรียกว่าชุบชีวิตให้นักเตะกลับมาโชว์ฟอร์มแกร่งกลายเป็นตัวหลักของทีมอย่างเห็นได้ชัด

 

ซึ่งไม่ใช่ว่าแข้งชาวโปรตุกีสเก่งกว่า อัลเวส หรือ ลาห์ม แต่ด้วยความที่ ซิตี้ ในปัจจุบันมีปัญหามากมาย และไม่ได้ล้อมรอบด้วยสตาร์ดังเท่า บาเยิร์น หรือ บาร์ซ่า ทำให้บทบาทของ กานเซโล่ ดูมีความสำคัญที่มากกว่า ซึ่งสิ่งที่ามารถการันตีได้คือผลงานของเรือใบสีฟ้ายามที่เขาลงสนามคือไม่แพ้ใครในลีกมาแล้ว 15 นัด และเมื่อร่วมจากทุกรายการ กานเซโล่ พบกับความพ่ายแพ้แค่นัดเดียวเท่านั้น