มรดกตกทอด 5 แข้งผีจากยุคป๋า ที่ยังเหลืออยู่

 

หากจะถามถึงแชมป์สุดท้ายของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงต้องย้อนไปถึงปี 2012/13 ที่ยังมีเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานยอด

กุนซือของทีม คุมเป็นฤดูกาลสุดท้าย เหล่านักเตะชุดแชมป์ลีกครั้งสุดท้ายก็ต่างแยกย้ายออกไป บ้างก็ทยอยแขวนสตั๊ดกันไปแล้ว

แต่ก็ยังมีเหล่านักเตะชุดแชมป์หลงเหลืออยู่กับทีมมาจนถึงปัจจุบัน

 

หนึ่งในแข้งชุดนั้นก็คือ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ที่ในตอนนี้อนาคตของ เขา และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงไม่ชัดเจนแต่ก็มีแนวโน้ม

ที่ ริมเส้นชาวเอกวาดอร์รายนี้ จะย้ายออกจากถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เนื่องจากยังมีอาการเจ็บรบกวน หลังค้าแข้งกับทีมมานานถึง

10ปี และเดินทางคว้าความสำเร็จร่วมกับทีมมามากมาย

 

วันนี้ทาง UFAARENA จะพาไปดูแข้งปีศาจแดงชุดเฟอร์กูสัน ที่ยังหลงเหลืออยู่กับทีมในปัจจุบัน ว่าจะมีใครกันบ้าง

 

 

ดาบิด เด เกอา

ดาบิด เด เกอา ผู้รักษาประตูหนุ่มวัย 21ปีในเวลานั้น ถูกดึงตัวมาจากแอตฯมาดริด เข้าสู่ทัพปีศาจแดงในปี 2011 ด้วยค่าตัว 18.9ล้าน

ปอนด์ ที่เป็นสถิติโลก ณ เวลานั้น เพื่อเอาเข้ามาแทนที่ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ยอดมือกาวของทีมที่ประกาศแขวนสตั๊ดไป

 

การเข้ามาแทนที่นายทวารระดับตำนาน แน่นอนว่ามันมีความกดดันมากมายโถมเข้ามาสู่ตัวของดาวรุ่งอย่าง เด เกอา ในปีแรกที่เขา

เข้ามาสู่ทีมเจ้าตัวก็ถูกตราหน้าให้เป็นจุดอ่อนของทีม ประสบการณ์ที่ยังน้อย ร่างกายที่ยังไม่แข็งแรงมากนัก ความเหวอที่แฟนบอล

เห็นจนชินตา แต่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ยังยืนยันจะใช้เขาลงเล่นต่อไป และในฤดูกาลต่อมาเขาก็สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ

ทีมได้สำเร็จ

 

ตัดมาในปัจจุบัน เจ้าตัวคือคนที่ทัพปีศาจแดงไม่อาจขาดไปได้ ผลงานการเซฟไปแล้ว 97ครั้งในเกมลีกฤดูกาลนี้ แถมในเกมที่เฉือน

เอาชนะ สเปอร์ส ไป1-0 เจ้าตัวก็โชว์เซฟไปถึง 11ครั้ง แถมย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 ในเกมกับอาร์เซน่อล เจ้าตัวก็เคยเซฟไปถึง

14ครั้ง ในเกมเดียวนับว่า นายด่านชาวสเปนรายนี้ เป็นสมบัติอันล้ำค่าที่สุด ที่ป๋าเฟอร์กี้หลงเหลือเอาไว้ให้กันทีม แถมเจ้าตัวก็ไม่มี

ทีท่างอแงขอย้ายไปไหน และอาจจะได้เป็นตำนานมือกาวคนต่อไปของทัพผี ต่อจากรุ่นพี่หลายๆคนก็เป็นได้

 

 

ฟิล โจนส์

เจ้าพ่อมีมแห่งทัพปีศาจแดง ถูกดึงตัวมาสู่ทัพปีศาจแดงในปี 2011 ในขณะนั้น เขาเป็นเพียงแค่ดาวรุ่งวัย 20ปี จากแบล็คเบิร์น เขา

เข้ามาในฐานะอะไหล่สำรองของสองปราการหลังอย่าง เนมันย่า วิดิช และ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่ตอนนั้นเริ่มจะโรยราลงไปแล้ว

 

โจนส์ ขึ้นชื่อในเรื่องของความผิดพลาด และการทำเข้าประตูตัวเอง โดยเจ้าตัวกดประตูฝั่งตัวเองไปถึง 5เม็ด รวมไปถึงการเข้าสกัด

บอลที่เรียกได้ว่าทุ่มเทจนไม่ห่วงภาพลักษณ์ จนกลายเป็นมีมออกมาให้เราได้ล้อเลียนกันอย่างสนุกสนานบนโลกโซเชี่ยล ซึ่งจริงๆก็

นับเป็นข้อดีของเจ้าตัว ในเรื่องความทุ่มเทให้กับทีม แม้จะไม่ใช่ตัวเลือกแรกๆของโค้ชก็ตาม แต่ก็เป็นอะไหล่ชั้นยอดที่ทีมก็ขาดไม่

ได้เช่นกัน

 

 

คริส สมอลลิ่ง

อีกหนึ่งกองหลังที่ขึ้นชื่อเรื่องความเฟอะฟะ เช่นเดียวกับ ฟิลโจนส์ เข้ามาในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในปี2010 ด้วยอายุเพียง 20ปี

เท่านั้น นักเตะพลังหนุ่มที่ถูกดึงเข้ามาเป็นนักเตะอะไหล่ให้กับแข้งเก่าๆที่กำลังจะถึงช่วงผลัดเปลี่ยนใบ ในช่วง 3ฤดูกาลแรก แนวรับ

ชาวอังกฤษ ไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามมากนัก แต่ก็ค่อยๆปรับตัวและกลายมาเป็นตัวจริงได้ในที่สุด

 

ปัจจุบัน สมอลลิ่งเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บที่ทำให้เขาหายหน้าหายตาไปจากสนามหญ้านานถึง 2เดือน การกลับมาจากอาการ

บาดเจ็บในครั้งนี้ สมอลลิ่งได้อัพเกรดฟอร์มขึ้นมาแบบผิดหูผิดตา ซึ่งเจ้าตัวได้เผยว่ามันเป็นเพราะเขาเปลี่ยนไปกินมังสวิรัติ ที่ช่วย

ทั้งเรื่องอาการบาดเจ็บ และ เพิ่มความแข็งแกร่ง ทำให้ฟอร์มที่เหมือนจะดับไปแล้วของแข้งรายนี้กลับมาเปรี้ยงปร้างมากกว่าเดิม

และกลับมาเป็นเสาหลักในแนวรับให้กับทีม

 

 

เจสซี่ ลินการ์ด

ดาวรุ่งวัยเพียง 18ปี จากอคาเดมี่ของปีศาจแดง ที่สามารถขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ เมื่อปี 2011 แม้ว่าในฤดูกาลแรกของเขาจะยังไม่

ได้รับโอกาสลงสนาม และถูกปล่อยยืมระหกระเหินไปตามสโมสรต่างๆมากถึง 4ทีม 4ฤดูกาล จนมาในต้นฤดูกาล 2014-15 เกมที่พบ

กับ สวอนซีนัดเปิดฤดูกาล ลินการ์ด ได้รับโอกาสลงสนามเป็นนัดแรกในสีเสื้อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ หลุยซ์

ฟานกัล

 

แม้จะต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองอยู่นาน กับการถูกปล่อยยืมไปโน่นทีไปนี่ที ในที่สุด ลินการ์ดก็ได้กลับมาเป็นตัวหลักในทัพผีตั้งแต่ปี

2015เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน ซึ่งแม้จะมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่อใดที่เขาลงสนาม ก็สามารถเอาลีลาการเล่นอัน

วูบวาบมาโชว์ให้แฟนบอลได้ชื่นชมกันได้ไม่น้อย ถือเป็นสมบัติชิ้นสำคัญอีกชิ้น ที่หลงเหลือมาจากยุคของป๋าเฟอร์กี้ เชื่อว่าใน

อนาคตถ้าเจ้าตัวสลัดอาการเจ็บออกไปได้ ก็จะกลับมาทำให้เกมรุกของปีศาจแดงวูบวาบน่าสนใจมากกว่าเดิม

 

 

แอชลี่ย์ ยัง

นักเตะริมเส้นสารพัดประโยชน์ที่เล่นได้ทุกตำแหน่งในริมเส้นฝั่งซ้าย เขาเข้ามาสู่ถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในปี 2011 และเริ่มเล่นใน

ตำแหน่งปีกตัวรุกฝั่งซ้าย ที่มีจุดเด่นด้านการเปิดบอลเข้าใน แต่ข้อเสียของเขาในตอนนั้น คือการล้มง่ายเกินไปในกรอบเขตโทษ จน

สื่อพากันตราหน้าเขาให้เป็น จอมพุ่งล้ม จนเฟอร์กี้ ต้องออกมายอมรับว่าได้มีการพูดคุยกันแล้วในเรื่องนี้

 

ปัจจุบัน อ.ยัง โดนถอยมาเล่นเป็นวิงแบ๊คฝั่งซ้าย วันดีคืนดีก็ไปอยู่ฝั่งขวาบ้าง และได้รับปลอกแขนกัปตันทีม แทนที่ของ อันโตนิโอ

วาเลนเซีย ที่ยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ แต่การถอยเจ้าตัวมาเป็นตัวรับ ทำให้มีความผิดพลาดออกมาให้เห็นอยู่บ่อยๆจนอาจจะเรียกได้

ว่ากลายเป็นบ่อน้ำมันของฝ่ายตรงข้ามเลยทีเดียว แถมการสวมปลอกแขนกัปตันของเขา ก็ยังคงเป็นที่กังขากันอยู่ของเหล่าแฟน

บอล อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบัน เขาก็คือตัวหลักในทีมของ โซลชา ที่ขาดไปไม่ได้ ซึ่งในวัย 33ปี แบ๊คผู้ดีรายนี้ก็อาจจะเป็นหนึ่งในผู้ที่

จะอำลาทีมไปอีกคนเร็วๆนี้