มองตาก็รู้ใจ! 10คู่หูดาวยิงที่ดีที่สุดในโลกฟุตบอล

 

หลังจากจบเกมที่ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส บุกไปถล่มเซาธ์แฮมป์ตัน 5-2 คู่หูซน ฮึง-มิน และ แฮร์รี่ เคน ก็จารึกสถิติในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ในฐานะคู่หูแนวรุกคนแรกที่นักเตะคนเดิม ส่งให้กับนักเตะคนเดิมยิงประตูได้ถึง 4ครั้งในเกมเดียว ทำให้พวกเขาจัดว่าเป็นนักเตะกองหน้าที่เข้าขากันแบบสุดๆ

 

วันนี้ UFA ARENA จะพาไปทำความรู้จักคู่หูกองหน้ามหาประลัยที่สร้างความปวดหัวให้กับแนวรับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ว่าจะมีใครกันบ้างกับ 10คู่หูดาวยิงที่ดีที่สุดในโลกฟุตบอล

 

เธียร์รี่ อองรี่ – เดนนิส เบิร์กแคมป์ | อาร์เซน่อล | 34ประตู 2003/04

Thierry Henry: Dennis Bergkamp the Best I've Ever Played With... Because  Messi Isn't Human | 90min

สองตำนานทัพปืนโตแม้จะไม่ได้เป็นคู่หูที่ร่วมกันยิงประตูเยอะเท่าไรนัก และมีหลายคู่ที่ยิงมากกว่าพวกเขา แต่ด้วยผลงานโดยรวมของทีมในฤดูกาล 2003/04 ทำให้พวกเขากลายเป็นคู่หูของทีมแชมป์ไร้พ่ายหนึ่งเดียวในพรีเมียร์ลีก เรียกว่าช่วงเวลานั้นแม้จะร่วมกันยิงไปแค่ 34ประตู แต่ก็นับเป็นฝันร้ายของแนวรับฝ่ายตรงข้ามไม่น้อย

 

เอียน รัช – เคนนี่ ดัลกริช | ลิเวอร์พูล | 47 ประตู 1983/84

ตำนานแข้งหงส์แดงที่เคยจับคู่เล่นร่วมกันมาในช่วงยุค 80 ด้วยทักษะอันแพรวพราวของทั้งคู่ทำให้พวกเขานับเป็นนักเตะคู่หูที่ยอดเยี่ยม และพีคที่สุดในฤดูกาล 1983/84 ที่ร่วมกันซัดไปทั้งหมด 47ประตู นอกจากนี้พวกเขายังเป็นทีมชุดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งสุดท้ายในปี 1990 ก่อนที่จะต้องรอนานถึง 30ปี กว่าที่หงส์แดงจะกลับมาผงาดคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง

 

อลัน เชียเรอร์ – คริส ซัตตัน  | แบล็คเบิร์น | 49 ประตู 1994/95

คู่หูสั่งตายรหัส SAS ที่เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่แฟนบอล พวกเขาร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์พาทีมคว้าถ้วยพรีเมียร์ลีกมาครองได้ในใปี 1994/95 ซึ่งเป็นปีที่พวกเขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดโดยกดประตูรวมกันไปถึง 49ประตู นอกจากนี้พวกเขายังช่วยกันยิงกันจ่ายมากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ถึง 13 ประตู ก่อนที่สุดท้ายพวกเขาจะแยกกันไปตามเส้นทางของตัวเอง ในขณะที่ทัพกุหลาบไฟ ก็ไม่เคยได้แชมป์พรีเมียร์ลีกอีกเลย

 

หลุยซ์ ซัวเรซ – ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ | ลิเวอร์พูล | 52 ประตู 2013/14

นับเป็นปีที่ลิเวอร์พูลเข้าใกล้แชมป์ลีกมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1990 ส่วนนึงก็มาจากผลงานอันยอดเยี่ยมของคู่หู SAS ซัวเรซ และ สเตอร์ริดจ์ ที่ร่วมกันยิงไปถึง 52ประตู ส่งดาวยิงอุรุกวัยคว้ารางวัล ดาวซัลโวด้วยผลงาน 31ประตู และสเตอร์ริดจ์ คว้ารองดาวซัลโวที่ 21ประตู น่าเสียดายที่ในปีนั้นพวกเขาไม่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกที่เป็นเป้าหมายหลักของทีมได้ แต่หลังจากที่ซัวเรซ ย้ายออกไป สเตอร์ริดจ์ก็ไม่เคยโชว์ฟอร์มได้แบบเดิมอีกเลย แถมยังเจออาการบาดเจ็บเล่นงานเป็นประจำ จนสุดท้ายก็ต้องย้ายออกจากทีมไป 

 

แอนดี้ โคล – ดไวท์ ยอร์ค | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | 53 ประตู 1998/99

แม้ว่าในหนึ่งฤดูกาลพวกเขาจะไม่ได้ยิงมากมาย แต่พวกเขานับเป็นคู่กองหน้าที่ดีที่สุด และรู้ใจกันมากที่สุด แม้จะไม่ได้เข้าทีมมาพร้อมกันก็ตาม เรียกว่าพวกเขามีความสัมพันธ์กันทั้งนอกและในสนาม จนครั้งนึง แอนดี้ โคล ได้พูดถึงคู่หูของเขาว่า “เมื่อเราสองคนลงเล่นด้วยกัน มันเกิดความรู้สึกที่พิเศษเหมือนกับตกหลุกรักผู้หญิงสักคน” และผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขาคือการยิงรวมกัน 53ประตู พาทีมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในปี 1998/99

 

เซร์คิโอ อเกวโร่ – ดิเอโก้ ฟอร์ลัน | แอตเลนติโก มาดริด | 56 ประตู 2008/09

หลังจากไปได้ไม่สวยกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟอร์ลันก็มาที่ลาลีกากับ บียาร์เรอัล ก่อนจะย้ายมาอยู่กับแอตเลนติโก มาดริดในปี 2007 ซึ่งในเวลานั้น อเกวโร่ ที่เป็นแค่ดาวรุ่งเพิ่งย้ายมาอยู่กับทีมก่อนหน้านั้น ซึ่งพวกเขาก็ใช้เวลาไม่นานในการปรับตัวให้เข้าขากัน และไประเบิดฟอร์มร่วมกันในฤดูกาล 2008/09 ที่พวกเขายิงรวมกันไปถึง 56ประตู แบ่งเป็นฟอร์ลัน 32ประตู และอเกวโร่ 17ประตู

 

ซึ่งฟอร์ลันเคยพูดถึงคู่หูของตนไว้ว่า “ตอนเล่นกับกุน เราเป็นคู่ขาที่ดีมากๆ เราแตกต่างกัน แต่เราก็เข้าใจกันดี ผมมักจะถอยลงไปตอนที่เราเล่นเกมรับ แต่พอถึงตอนเล่นเกมรุก เราคนใดคนหนึ่งก็จะขยับไปเข้าในพื้นที่ที่คนอื่นๆ ยังไม่ได้ไปอยู่”

 

กราฟีเต้ – เอดิน เชโก้ | โวลฟ์บวร์ก | 71 ประตู 2008/09

คู่หูต่างวัยที่เข้ามาสู่ทีมพร้อมกันในปี 2007 แม้ไม่ได้ยิงเปรี้ยงปร้างตั้งแต่ปีแรก แต่เมื่อพวกเขาจูนกันติด พวกเขาก็ยิงกันไปมากถึง 71ประตู ในปีถัดมา แบ่งเป็น กราฟีเต้ ซัดไป 28 ลูกในลีกส่วน เชโก้ จัดไป 26 ลูกในลีก ส่งให้ทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกาครั้งแรก และครั้งเดียวของสโมสรมาครองได้แบบไร้คู่ต่อกร แต่น่าเสียดายที่ฟอร์มที่ว่ามันเกิดขึ้นแค่ฤดูกาลเดียวแล้วหายไปก่อนที่ทั้งคู่จะแยกย้ายกันไปในปี 2011

 

ฮัลค์ – ราดาเมล ฟัลเกา | ปอร์โต้ | 73 ประตู 2010/11

สองกองหน้าจากอเมริกาใต้ สมัยที่เพิ่งเริ่มสร้างชื่อขึ้นมาพวกเขาได้มาร่วมเล่นครั้งแรกเมื่อปี 2009 ซึ่งแค่ปีแรกพวกเขาก็ช่วยกันซัดไปถึง 44ประตูแล้ว แต่นั่นยังไม่ใช่จุดพีคที่สุดขอองพวกเขา เมื่อฤดูกาล 2010/11 พวกเขาถลุงกันไปถึง 73ประตู ด้วยผลงานของฮัลค์ที่ 35ประตู และ ฟัลกัล 38ประตู พร้อมพาทีมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ ทั้งแชมป์ลีก , โปรตุเกส คัพ และยูโรป้าลีก

 

อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ – เฟเรนซ์ ปุสกัส | เรอัล มาดริด | 74 ประตู 1960/61

คู่หูดาวยิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเรอัล มาดริด โดยพวกเขาเล่นร่วมกันในช่วงปี 1958-1964 และซัดรวมกันไปได้ถึง 302ประตู ตลอดการร่วมมือกัน ส่วนฤดูกาลที่ทั้งคู่พีคที่สุดคือในฤดูกาล 1960/61 ที่พวกเขายิงรวมกันไปมากถึง 74ประตู พร้อมพาทีมคว้าแชมป์ลาลีกามาครองได้ด้วยการเอาชนะคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แอตเลนติโก มาดริด ที่จบในตำแหน่งรองแชมป์ นอกจากนี้ทั้งคู่ยังนับเป็นดาวยิงสูงสุดของทีม ก่อนที่คาริม เบนเซม่า หอกเลือดน้ำหอมคนปัจจุบันจะแซงหน้า เฟเรนซ์ ปุสกัส ไปรั้งอันดับ 5 ในปัจจุบัน

 

หลุยซ์ ซัวเรซ – ลิโอเนล เมสซี่  | บาร์เซโลน่า | 100 ประตู 2015/16

คู่หูเพื่อนรักทัพต่างดาวที่เป็น 2 จาก 3ประสานที่ดีที่สุดในโลกอย่าง MSN พวกเขาเล่นร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2014 และทำประตูรรวมไปมากถึง 464 ประตู ซึ่งฤดูกาลที่พวกเขาประสานกันแล้วพีคที่สุดคือในฤดูกาล 2015/16 ที่พวกเขายังเป็นสามประสานกันอยู่ก่อนที่ในฤดูกาลถัดมา เนย์มาร์ จะย้ายออกไปอยู่กับเปแอสเช 

 

ถึงยุคของสามประสานจะจบลงแต่ทั้ง ซัวเรซ และเมสซี่ก็ยังลงเล่นเคียงข้างกันจนถึงปัจจุบัน ซึ่งพวกเขาจัดว่าเป็นเพื่อนรักกันทั้งใน และนอกสนาม ดาวยิงชาวอุรุกวัยเอง ยังเคยออกมาพูดถึงความสัมพันธ์ของพวกเขานอกสนามว่า “ครอบครัวของเราแบ่งปันเวลาที่ดีร่วมกัน ภรรยาของเราก็จัดว่าซี้กันมาก พวกเขาชอบหาเวลาไปเที่ยวกัน ดังนั้นครอบครัวของเราจึงมีกิจกรรมที่ด้วยการบ่อยๆ เช่นการมาดื่มกินกันที่บ้านของผมบ้างวันละ 2-3 ชั่วโมง”

 

ส่วนเมสซี่เองก็พูดถึงเพื่อนคนนี้ไว้ว่า “ผมกับ หลุยส์ ซัวเรส เล่นด้วยกันมา 5 ปี เราลงแข่งร่วมกันในทุกๆ 3 วัน ดังนั้นมันจึงเป็นเหมือนการเล่นร่วมกับคนที่คุ้นเคยจนกลายเป็นการเล่นในแบบที่มองตาก็รู้ใจ ในแง่ของชีวิตลูกๆ ของเราก็อายุเท่ากันอีก ดังนั้นเราจึงได้เจอกันทุกวัน และความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็แน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ”