มันเป็นพรหมลิขิต! 6 แข้งที่ต้องเจอทีมเก่ารอบตัดเชือก

 

ศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกเดินทางมาถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายแล้ว และทีมที่ผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ได้ถือว่าสุดยอดทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นบาร์เซโลน่า,ลิเวอร์พูล,ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์หรือแม้กระทั่งอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ทีมดังจากลีกฮอลแลนด์ที่ผ่านทั้งแชมป์เก่ารายการนี้เมื่อปีที่แล้วอย่างเรอัล มาดริดและยูเวนตุสที่ถูกคาดหมายว่าเป็นตัวเต็งที่จะเข้าชิงในถ้วยนี้มาได้อย่างเหลือเชื่อ

 

ส่วนในรอบรองชนะเลิศที่จะถึงนี้มีเรื่องที่น่าติดตามอยู่ตรงที่จะมีอดีตผู้เล่นของแต่ล่ะสโมสรได้กลับมาเจอกับทีมเดิมและเพื่อนเก่าของตัวเองอีกครั้ง ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องของบุญวาสนาหรือโชคชะตาที่ทำให้ต้องโคจรมาพบกันเหมือนฟ้าลิขิตไว้ และมันคงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักฟุตบอลทุกคนที่จะได้กลับมาสัมผัสบรรยากาศเก่าๆสมัยที่ยังเคยค้าแข้งอยู่ ดังนั้นแล้วทีมงาน UFA Arena.com จะพาไปดูกันว่ามีดาวเตะหน้าไหนกันบ้างที่ต้องกลับมาเล่นต่อหน้าแฟนบอลที่คุ้นเคยเหมือนดั่งวันวาน

 

 

6.ดาวินสัน ซานเชซ (ท็อตแนม ฮอตสเปอร์)

 

 

มีผู้เล่นท็อตแนมฮอตสเปอร์ 4 คนที่จะต้องเผชิญหน้ากับสโมสรเก่าในรอบรองชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกและหนึ่งใน 4 นั้นก็คือดาวินสัน ซานเชซ กองหลังสัญชาติโคลัมเบียที่เป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่ไม่ได้ผ่านจากอคาเดมี่ของอาแจ็กซ์

 

 

ซานเชซเซ็นสัญญากับอาแจ็กซ์ในเดือนมิถุนายน 2016 จาก แอตเลติโก นาซิอองนาล เพียง 5 ล้านยูโรและในฤดูกาลแรกของเจ้าตัวก็ช่วยให้สโมสรไปถึงรอบชิงของถ้วยยูฟ่ายูโรป้าลีกกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

 

 

ดาวเตะจากอเมริกาใต้รายนี้เล่นให้กับอาแจ็กซ์ 47 นัดและยิงได้ 7 ประตูก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมท็อตแนมฮ็อทสเปอร์ด้วยค่าตัวเป็นสถิติของสโมสรในราคา 42 ล้านปอนด์ในเดือนสิงหาคม 2017 เขาได้เล่น 72 เกมให้กับสเปอร์สและปัจจุบันเขาเป็นตัวเลือกลำดับที่ 3 ต่อจากอดีตผู้เล่นของอาแจ็กซ์ที่มาค้าแข้งในถิ่นไก่เดือยทองก่อนหน้าเขา

 

 

5.แยน  แฟร์ตองเก้น  (ท็อตแนม ฮอตสเปอร์)

 

 

แยน  แฟร์ตองเกน เข้าร่วมทีมอาแจ็กซ์ ในปี 2003 และเทิร์นโปรเป็นนักฟุตบอลอาชีพครั้งแรกในอีก 3 ปีถัดมา เขาใช้เวลาหนึ่งฤดูกาลในการไปเล่นให้กับ อาร์เคซี วาลไวก์ ในสัญญายืมตัวจาก อาแจ็กซ์ จากนั้นก็ยังคงเล่นให้สโมสรต่อไปอีก 220 เกมในตอนท้ายของฤดูกาล 2011/12 ขณะเดียวกันก็ทำประตูได้ 28 ลูก

 

 

ในเดือนกรกฎาคม 2012 ดาวเตะชาวเบลเยี่ยมได้ย้ายไปสเปอร์สด้วยสนนราคา 12 ล้านยูโรและได้เป็นตัวหลักของสโมสรตั้งแต่นั้นมา  แฟร์ตองเกน เป็นหนึ่งในผู้เล่นอาวุโสในทีมสเปอร์สในขณะนี้และได้เล่นไปแล้ว 276 เกม

 

 

แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับรางวัลใด ๆ ตั้งแต่ออกจากอาแจ็กซ์มาเลย แต่เขาก็มีโอกาสได้ถูกเสนอชื่อลุ้นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของ PFA ถึงสองหนซึ่งครั้งแรกนั้นเป็นปีที่เข้ามาเล่นในอังกฤษอย่างเป็นทางการ

 

 

4.โทบี้ อัลเดอร์ไวเรล (ท็อตแนม ฮอตสเปอร์)

 

 

 

โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลเป็นผู้เล่นอาแจ็กซ์คนเดียวในรายการนี้ที่ไม่ได้ย้ายเข้าร่วมทีมไก่เดือยทองโดยตรงจาก อาแจ็กซ์

 

 

อัลเดอร์ไวเรล เข้าร่วมทีมอาแจ็กซ์ในปี 2004 และได้เปิดตัวครั้งแรกกับสโมสรในเดือนมกราคม 2009 ในฤดูกาลถัดมาเขาได้สถาปนาตัวเองก้าวขึ้นไปเป็นตัวหลักในทีมชุดแรกแทนที่ โทมัส เฟอร์มาเล่น ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชาติของที่ย้ายออกไปอยู่กับอาร์เซน่อลในขณะนั้น

 

 

อัลเดอร์ไวเรลลงเล่นให้อาแจ็กซ์ไป 186 ครั้งก่อนออกเดินทางไปที่สเปนในปี 2013 เพื่อเข้าร่วมทีม แอตเลติโก มาดริด เขาได้แชมป์ลีกลาลีกาในฤดูกาลแรกกับแอตเลติโก แต่ส่วนใหญ่จะถูกส่งลงสนามเป็นตัวสำรองและตัดสินใจออกจากสโมสรแบบยืมตัวในปี 2014/15 เพื่อไปเล่นให้กับเซาแธมป์ตัน

 

 

หลังจากสร้างความประทับใจในการยืมตัวที่ เซาแธมป์ตัน สเปอร์สก็เซ็นสัญญากับเขาในปี 2015 ในราคาเพียง 11.5 ล้านปอนด์ เขาได้เล่น 155 เกมให้กับสโมสรและในขณะเดียวกันเขาก็ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในลีกซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อในการรับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของอังกฤษ ในปี 2015/16

 

 

3.คริสเตียน อีริคเซ่น (ท็อตแนม ฮอตสเปอร์)

 

 

 

อดีตผู้เล่นของอาแจ็กซ์ทั้ง 4 คนที่สเปอร์สได้มานั้นไม่มีนักเตะคนไหนที่จะคุ้มแสนคุ้มเท่ากับ คริสเตียน อีริคเซ่นอีกแล้ว เมื่อไก่เดือยทองลงขันซื้อสุดยอดเพลย์เมกเกอร์ดาวรุ่งฝีเท้าดีในขณะนั้นมาแค่ราคาเพียง 11 ล้านปอนด์ เพื่อมาทดแทนการขาดหายไปของ แกเร็ท เบล ที่ย้ายไปเล่นให้ เรอัล มาดริด ซึ่งมันเป็นการลงทุนที่ดีมากสำหรับสโมสรจากฝั่งนอร์ทลอนดอน ตัวรุกชาวเดนมาร์กเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่สเปอร์สเซ็นสัญญากับเงินที่พวกเขาทำกำไรจากการขาย แกเร็ท เบล

 

 

อีริคเซ่น เข้าร่วมศูนย์ฝึกเยาวชนของอาแจ็กซ์ ในปี 2008 และเปิดตัวในทีมชุดใหญ่ของเขาในเดือนมกราคม 2010 จนกระทั่งสิ้นสุดฤดูกาล 2011/12 เขาได้แชร์ห้องแต่งตัวกับ แฟร์ตองเกนและอัลเดอร์ไวเรลที่สโมสร

 

 

ดาวเตะชาวเดนมาร์คลงเล่นให้กับอาแจ็กซ์ไป 163 เกมยิงได้ 32 ลูกและจ่ายให้เพื่อนทำประตูอีก 65 ดอกก่อนที่จะย้ายมาซัดให้ต้นสังกัดปัจจุบันอย่างสเปอร์ไป 64 ประตูและอีก 86 แอสซิสต์จากการสัมผัสเกมไปทั้งหมด 269 เกม

 

 

2.ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (ลิเวอร์พูล)

 

 

ตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมาบาร์เซโลน่าได้เซ็นสัญญากับ 3 ดาวดังจากลิเวอร์พูลไปร่วมถิ่นคัมป์นูแบบขัดใจแฟนเดอะค็อปกันเป็นแถวแถวและฟิลิปเป้ คูตินโญ่ก็เป็นหนึ่งในนักเตะรายล่าสุด

 

 

คูตินโญ่ ย้ายมาร่วมทีม ลิเวอร์พูลในเดือนมกราคม 2012 จากอินเตอร์ มิลาน ในราคาเพียง 8.5 ล้านปอนด์และสร้างผลงานได้อย่างสุดยอดทันที โดยเขาลงรับใช้หงส์แดงไป 201 เกมทำได้ 54 ลูกและช่วยส่งให้เพื่อนซัดอีก 45 เม็ดก่อนที่ย้ายข้ามไปที่สเปนเพื่อไปอยู่กับบาร์เซโลน่าในเดือนมกราคม 2018

 

 

ดาวเตะชาวบราซิลเป็นเป้าหมายของบาร์เซโลนาในช่วงฤดูร้อนปี 2017 ซึ่งทีมจากแคว้นคาตาลันหวังได้จะได้ตัวมาแทนที่เนย์มาร์ที่ย้ายไปอยู่กับปารีส แซงแชร์แมงในขณะนั้นแต่ทางลิเวอร์พูลได้ปฏิเสธที่จะขายนักเตะออกไป อย่างไรก็ตามในเดือนมกราคมปี 2018 เยอร์เก้น คล็อปป์ ก็ทำการตัดสินใจขายเขาให้ทางบาร์ซ่าในราคาเริ่มต้นที่ 105 ล้านปอนด์และอาจจะสูงถึง 142 ล้านปอนด์ตามเงื่อนไขในสัญญา ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่แพงที่สุดของสโมสรอย่างเจ้าบุญทุ่มไปทันที

 

 

และนับตั้งแต่แข้งแซมบ้าวัย 26 ปีย้ายไปเล่นในแดนกระทิงดุบทบาทของเขาอาจจะดูน้อยกว่าตอนที่เล่นอยู่กับลิเเวอร์พูล แต่ก็ถือว่าเจ้าตัวทำผลงานได้ไม่เลวเลยทีเดียวโดยทำไปได้ 21 ประตูและ 11 แอสซิสต์จาก 69 เกม

 

 

1.หลุยส์ ซัวเรซ (บาร์เซโลน่า)

 

 

หลุยส์ ซัวเรซเป็นอดีตนักเตะคนที่ 5 ของอาแจ็กซ์ในรายการนี้ แต่เขาจะต้องเอาชนะสโมสรเก่าของเขาถ้าต้องการมีโอกาสเจอกับอาแจ็กซ์ในนัดชิง

 

 

ซัวเรซเข้าร่วมทีมลิเวอร์พูลเมื่อเดือนมกราคม 2011 เพื่อทดแทนเฟอร์นันโด ตอร์เรส เขาลงเล่นให้ทีมเครื่องจักรสีแดงไป 133 เกมทำได้ 82 ประตูและส่งให้เพื่อนอีก 47 ลูกในช่วง 3 ปีครึ่งที่อยู่ที่นั่น และในฤดูกาลสุดท้ายของเขากับทีมย่านลุ่มแม่น้ำเมอร์ซีเขาก็กดไปได้ถึง 31 ประตูและแอสซิสต์อีก 12 ลูกในเกมพรีเมียร์ลีกเพียง 33 นัด

 

 

 

ดาวยิงชาวอุรุกวัยเซ็นสัญญากับบาร์เซโลนาในปี 2014 ด้วยราคา 65 ล้านปอนด์และได้พิสูจน์กับตัวเองว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่เก่งที่สุดในโลก โดยเขาซัดไปถึง 175 ประตูและ 95 แอสซิสต์ ตลอด 242 เกมที่ลงสนาม