มันไม่ใช่แป้ง : กาลครั้งหนึ่งทีมชาติโคลอมเบียเจ้าของฉายา “โคเคน”

 

เป็นกระแสที่ดูเหมือนจะอยู่ในความสนใจของหลายคนไม่น้อย กับการที่ “บอส” วรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ต้องหาคดีขับรถชน ด.ต. วิเชียร กลั่นประเสริฐ ถูกตรวจพบสารโคเคนในร่างกายแต่กลับไม่ถูกสั่งฟ้อง เนื่องจากมีการยืนยันว่าสารดังกล่าวถูกพบอยู่ในตัวยาที่ใช้รักษาฟันของเขาเอง

 

ซึ่งหากให้พูดเรื่องของโคเคน หลายคนคงนึกถึง ปาโบล เอสโคบาร์ พ่อค้ายาที่มีผู้คนรู้จักมากที่สุดในโลก โดยเฉพาะธุรกิจการขาย “โคเคน” ซึ่งเคยเฟื่องฟูสุดๆ ช่วงยุค 80 – 90 จนทำให้เขาได้รับฉายาว่า “ราชายาเสพติด”

 

อย่างไรก็ตามยังมีอีกหนึ่งมุมที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้เกี่ยวกับ เอสโคบาร์ นั่นก็คือการเข้ามามีบทบาทกับวงการฟุตบอล เขาถือเป็นหนึ่งในคนที่ช่วยผลักดันให้วงการลูกหนังโคลัมเบีย รุ่งโรจน์สุดๆ ช่วงหนึ่งในอดีตที่ผ่านมา และมีส่วนช่วยให้โคลัมเบีย ประสบความสำเร็จผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลสมัยแรกในประวัติศาสตร์ แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ดูความสำเร็จนั้นก็ตาม

 

โดยวันนี้ Ufaarena จะขอพาไปย้อนดูเรื่องราวของ ปาโบล เอสโคบาร์ อีกมุมหนึ่งที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน ซึ่งนั่นก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับความหลงไหลในเรื่องของฟุตบอล

 

ปาโบล เอสโคบาร์ เจ้าของสองสโมสรยักษ์ใหญ่โคลัมเบีย

 

ปาโบล เอสโคบาร์ เริ่มต้นเข้ามามีบทบาทในวงการฟุตบอลด้วยการซื้อสโมสร แอตเลติโก นาซิอองนาล ทีมบ้านเกิดเมืองเมเดยีน ช่วงปี 1973 ก่อนพาสโมสรประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ทุกรายการ พร้อมทุ่มเงินซื้อผู้เล่นฝีเท้าดีมากมายมาอยู่กับทีม เพื่อเป้าหมายพาทีมก้าวขึ้นไปเป็นโคตรทีมของทวีปอเมริกาใต้ ให้ได้

 

ขณะที่ เดปอร์ติโบ เมเดยีน คู่ปรับร่วมเมืองของ แอตเลติโก นาซิอองนาล เป็นอีกหนึ่งสโมสรซึ่งถูก “ราชายาเสพติด” เข้ามาเป็นเจ้าของ และสามารถช่วยให้ เมเดยีน ก้าวขึ้นมาเป็นทีมชั้นนำของวงการลูกหนังโคลัมเบีย เช่นเดียวกัน

 

โดย แอตเลติโก นาซิอองนาล ภายใต้การบริหารสโมสรของ เอสโคบาร์ เต็มไปด้วยบรรดาแข้งระดับซุปเปอร์สตาร์มากมาย อาทิ เรเน่ ฮิกิต้า,อันเดรส เอสโคบาร์ และ คาร์ลอส วัลเดอราม่า

 

 

ใช้เงินค้ายาดึงแข้งดังร่วมทีม

 

แอตเลติโก นาซิอองนาล ในยุคที่มี ปาโบล เอสโคบาร์ เป็นเจ้าของสโมสร พวกเขาเป็นทีมระดับแถวหน้าของลีก และเต็มไปด้วยสุดยอดผู้เล่นอย่าง เรเน่ ฮิกิต้า,อันเดรส เอสโคบาร์ และ คาร์ลอส วัลเดอราม่า และเหล่าดาวรุ่งฝีเท้าดีอีกหลายคนซึ่งก้าวขึ้นมาเป็นกำลังคัญของทีมชาติโคลัมเบีย เวลาต่อมา

 

อย่างไรก็ตามปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินส่วนใหญ่ที่ใช้ซื้อตัวผู้เล่นระดับซุปเปอร์สตาร์มาอยู่กับสโมสร คือเม็ดเงินที่มาจากการค้ายาเสพติดของ เอสโคบาร์ ซึ่งทางฝั่ง ปาโช่ มาตูราน่า กุนซือ นาซิอองนาล ช่วงปี 1987-1990 เคยออกมายอมรับผ่านทางสารคดี “The Two Escobars” เผยว่า “เงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดทำให้เราซื้อนักเตะต่างชาติชั้นยอดมาร่วมทีมได้มากมาย” นั่นเองคือสาเหตุที่ทำให้ แอตเลติโก นาซิอองนาล กลายเป็นสุดยอดทีมของลีกโคลัมเบีย ในตอนนั้น

 

 

ยุครุ่งเรื่องฟุตบอลโคลัมเบีย

 

การเข้ามามีบทบาทในวงการฟุตบอลของ ปาโบล เอสโคบาร์ เหมือนเป็นการกระตุ้นให้บรรดาเจ้าพ่อมาเฟียคนอื่น หันมาเลือกวิธีการฟอกเงินด้วยการเข้ามาเป็นเจ้าของทีมฟุตบอลมากขึ้น ซึ่งทำให้ลูกหนังโคลัมเบีย ณ เวลานั้น เฟื่องฟูสุดๆ เต็มไปด้วยสโมสรที่มีคุณภาพ, สนามบอลสุดอลังกาล และระบบการพัฒนาเยาวชนอันยอดเยี่ยม

 

โดยนั่นส่งผลดีต่อไปจนถึงทีมชาติโคลัมเบีย ซึ่งยกระดับมาตรฐานของตัวเองกลายเป็นทีมระดับท็อปของทวีปอเมริกาใต้ พร้อมกับคว้าอันดับ 1 ศึกฟุตบอลโลก 1994 รอบคัดเลือก โซนคอมเมโบล และผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายบอลโลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ ทว่า เอสโคบาร์ กลับไม่ได้เห็นความสำเร็จดังกล่าว หลังเขาเสียชีวิตไปก่อนหน้านั้นแค่เพียง 1 ปีเท่านั้น

 

 

ทีมชาติโคลัมเบีย ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ครั้งแรก

 

ควงามยอดเยี่ยมของวงการฟุตบอลโคลัมเบีย เวลานั้น ส่งผลให้ขุนพล “โคเคน” กลายเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดของทวีปอเมริกาใต้ สามารถต่อกรกับคู่ปรับอย่าง บราซิล และ อาร์เจนติน่า ได้อย่างสูสี โดยเฉพาะทีม “ฟ้าขาว” ซึ่งมี ดิเอโก้ มาราโดน่า เป็นจอมทัพ ก็เคยโดนทีมชาติโคลัมเบีย ไล่ถล่มยับ 5 – 0 มาแล้ว

 

นอกจากนั้นพวกเขายังสามารถสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าไปเล่นในศึกฟุตบอลโลก 1994 ซึ่งเป็นบอลโลกสมัยแรกของพวกเขาได้สำเร็จ ด้วยการคว้าอันดับ 1 ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนคอมเมโบล ท้ายที่สุดทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวทีมชาติโคลัมเบีย ต้องกระเด็นตกรอบแรกไปอย่างรวดเร็วตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม หลังถูกจับไปอยู่ทีมแกร่งอย่าง โรมาเนีย, สวิสเซอร์แลนด์ และ สหรัฐอเมริกา เจ้าภาพ ก่อนที่ลูกทีมของ ฟรานซิสโก้ มาตูราน่า จะแพ้ถึง 2 เกม และแม้ว่าสามารถเอาชนะ สวิสเซอร์แลนด์ ได้ในนัดสุดท้าย ทว่านั่นก็ไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบต่อไปอยู่ดี

 

 

อันเดรส เอสโคบาร์ ถูกยิง

 

นอกจากฟุตบอลโลก 1994 จะเป็นการผ่านเข้าไปเล่นบอลโลกสมัยแรกของทีมชาติโคลัมเบีย มันยังเป็นตราบาปความทรงจำอันเลวร้ายที่สุดของพวกเขาอีกด้วย เมื่อเกิดเหตุการณ์ช็อคโลก อันเดรส เอสโคบาร์ ปราการหลังชาวโคลัมเบีย ถูกยิงเสียชีวิต 6 วัน หลังเจ้าตัวพลาดทำเข้าประตูตัวเองจนเป็นเหตุให้ทีมแพ้เจ้าภาพ สหรัฐอเมริกา 2 – 1 ซึ่งคาดการณ์ว่าเป็นการสั่งการมาจากมาเฟีย ที่ต้องการขึ้นมาเป็นใหญ่เหนือ ปาโบล เอสโคบาร์

 

นอกจาก อันเดรส เอสโคบาร์ ที่ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ก่อนหน้าที่ฟุตบอลโลก 1994 จะเริ่มต้นขึ้น นักเตะหลายคนในทีมได้ถูกขู่ฆ่า และบางรายถึงกับตัดสินใจประกาศเลิกเล่นทีมชาติเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าหาก ปาโบล เอสโคบาร์ ไม่เสียชีวิตไปก่อนหน้านั้น 1 ปี เหตุการณ์ทั้งหมดอาจไม่เกิดขึ้น เพราะเขาคือหนึ่งในผู้ที่หลงไหล และอยากเห็นวงการฟุตบอลของโคลัมเบีย ประสบความสำเร็จมากที่สุดก็ว่าได้

 

 

ยุคปัจจุบันทีมชาติโคลัมเบีย

 

สำหรับทีมชาติโคลัมเบีย ยุคปัจจุบันพวกเขากลายเป็นทีมระดับแถวหน้าของโลกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเต็มไปด้วยเหล่าผู้เล่นระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น ราดาเมล ฟัลเกา, ฮาเมส โรดริเกซ, ดาวินซอน ซานเชซ, ฆวน กวาดาโด้ และ ดาวิด ออสปิน่า ด้วยขุมกำลังที่แข็งแกร่ง ขุนพล “โคเคน” เคยสร้างความประทับใจด้ยการทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลโลก 2014 มาแล้ว

 

ภายใต้การทำทีมของ คาร์ลอส เคยรอซ และขุมกำลังที่แข็งแกร่ง ทีมชาติโคลัมเบีย คือหนึ่งทีมที่น่าจะตามองมากที่สุดของทวีปอเมริกาใต้ ณ เวลานี้ เป้าหมายสูงสุดของพวกเขาคงหนีไม่พ้นการผ่านเข้าไปรอบสุดท้ายศึกฟุตบอลโลก 2022 และทำผลงานให้ดีที่สุด นอกจากนั้นการเตรียมเป็นเจ้าภาพ โคปา อเมริกา 2021 ร่วมกับอาร์เจนติน่า ถือเป็นโอกาสอันดีที่พวกเขาจะได้ลุ้นคว้าความสำเร็จในรายการดังกล่าวเป็นหนที่สองในรอบ 20 ปี นับตั้งแต่ที่พวกเขาเคยซิวแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์อเมริกาใต้ สมัยแรกเมื่อปี 2001 ก็เป็นได้