มาเหนือเมฆ! 5 แข้งที่อาจพิชิตบัลลงดอร์ 2019

 

รางวัลฟีฟ่าบัลลงดอร์หรือรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกชิ้นนี้ เป็นรางวัลใหญ่ที่จะมอบให้กับผู้เล่นที่ทำผลงานได้ดีทั้งกับสโมสรและทีมชาติของแต่ละฤดูกาลนั้นๆ รวมถึงได้รับการโหวตจากโค้ชทั่วโลกรวมทั้งกัปตันทีมและผู้สื่อข่าว ซึ่งลิโอเนล เมสซี่,คริสเตียโน่ โรนัลโด้และเวอร์กิล ฟาน ไดค์ เป็นสามรายที่มีโอกาสคว้ารางวัลอันศักดิ์สิทธิ์นี้มากที่สุด แต่นอกเหนือจากสามคนที่กล่าวมา ยังมีแข้งตัวเต็งอีกจำนวนหนึ่งที่เข้าข่ายเป็นตัวสอดแทรกขึ้นรับลูกบอลทองคำนี้ได้เหมือนกัน โดยวันนี้ทีมงาน UFA Arena.com จะพาไปดูกันว่ามีแข้งคนไหนอีกบ้างที่อาจจะเป็นม้ามืดในการปาดหน้าคว้ารางวัลนี้ไปครอง

 

 

5.อลิสสัน เบ็คเกอร์

 

 

เลฟยาซิน เป็นผู้รักษาประตูเพียงคนเดียวที่เคยคว้าบัลลงดอร์และเมื่อปี 2014  มานูเอล นอยเออร์ ก็ได้รับเลือกให้คว้าตำแหน่งนี้เป็นอันดับที่สาม ส่วนในปีนี้ อลิสสัน เบ็คเกอร์ มีโอกาสเหมือนกันกับลูกโลกทองคำใบนี้แต่ก็มีเปอร์เซ็นต์ค่อนข้างน้อยกับการเป็นนายทวารคนที่สองต่อจากนายด่านตำนานทีมชาติรัสเซีย แม้ว่าจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งกับลิเวอร์พูลและทีมชาติบราซิล

 

ลิเวอร์พูลเซ็นสัญญากับอลิสสันเมื่อฤดูกาลที่แล้วด้วยค่าตัวเป็นสถิติโลกกับตำแหน่งผู้รักษาประตู และเขาก็มีบทบาทอย่างมากกับการทำให้แนวรับของหงส์แดงเหนียวแน่น โดยทีมแห่งลุ่มแม่น้ำเมอร์ซี่ไซด์มีสถิติการเสียประตูน้อยที่สุดในบรรดา 5 ลีกใหญ่ของยุโรปเมื่อซีซั่นก่อน นอกจากนี้เขายังเก็บคลีนชีตได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกรวมไปถึงเวทียูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก และเมื่อหน้าร้อนที่ผ่านมาเขายังคว้ารางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นต์โคปา อเมริกา ที่ทีมชาติบราซิลของเขาคว้าแชมป์ไปครอง

 

ด้วยอาการบาดเจ็บของเขาเมื่อต้นฤดูกาล มันอาจส่งผลทำให้โอกาสคว้ารางวัลลูกบอลทองคำเป็นเรื่องยาก และในการให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆนี้ของเจ้าตัว ดูเหมือนว่าเขาจะยอมรับแล้วว่ามีเปอร์เซ็นต์น้อยมากกับการที่ตำแหน่งผู้รักษาประตูจะได้รับรางวัลทรงคุณค่าใบนี้

 

 

4.โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 

 

 

จอมทัพชาวอียิปต์รายนี้ได้สถาปนาตัวเองให้กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกไปแล้วหลังจากได้มาอยู่กับลิเวอร์พูล และในฤดูกาลที่สองของเขานั้นยังคงสร้างสถิติอย่างมากมายรวมถึงยังได้รับรางวัลอีกหลายชิ้น

 

ฤดูกาลที่แล้วแข้งจากดินแดนทะเลทรายทำประตูให้กับหงส์แดงไป 27 ลูก และจ่ายให้เพื่อนร่วมทีมอีก 10 ครั้ง รวมทุกถ้วยทุกรายการ นอกจากนี้ในพรีเมียร์ลีกเจ้ายังสามารถคว้าดาวซัลโวมาประดับบารมีเป็นปีที่สองติดต่อกันอีกต่างหาก ในขณะที่เกมระดับชาติ เขายิงให้ทีมมัมมี่ไป 6 ลูกจากการลงเล่นไปแค่  7 นัด อย่างไรก็ดีเขาไม่สามารถช่วยให้ประเทศบ้านเกิดคว้าแชมป์แอฟริกันเนชั่นคัพมาครองได้

 

ดาวเตะวัย 27 ปียังคงทำผลงานดีอย่างต่อเนื่องในฤดูกาลที่เพิ่งเริ่มต้น เมื่อยิงไปแล้ว 4 ลูกและทำอีก 2 แอสซิสต์ จากการลงเล่นไป 5 นัดในพรีเมียร์ลีก แถมยังพาหงส์แดงคว้าถ้วยยูฟ่าซูเปอร์คัพมาครองได้เมื่อเดือนที่แล้ว

 

 

3.เบอร์นาโด ซิลวา

 

 

สำหรับตัวรุกจากแดนฝอยทองรายนี้คงไม่มีฤดูกาลไหนที่ดีไปกว่าปีที่ผ่านมาเมื่อเขาสามารถคว้าแชมป์กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ไปถึง 4 ใบรวมไปถึงการชูถ้วยยูฟ่าเนชั่นลีกกับทีมชาติโปรตุเกส

 

ฤดูกาลที่แล้วซิลวาต้องลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์แทนที่เควิน เดอ บรอยน์ที่ได้รับบาดเจ็บและต้องพักยาว ขณะเดียวกันเขาก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA หลังจากทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อจัดการยิงไปได้ถึง 13 ประตูแถมยังมีส่วนกับทีมในทุกๆเกม นอกจากนี้เขายังคว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นต์ยูฟ่าเนชั่นลีกที่ทีมชาติโปรตุเกสบ้านเกิดของเขาคว้าแชมป์ไปครองอย่างยิ่งใหญ่

 

ดาวเตะวัย 25 ปีประเดิมสนามเป็นตัวจริงให้เรือใบสีฟ้าไปแล้ว 2 เกมจากทั้งหมด 5 นัดในศึกพรีเมียร์ลีกและถ้าหากกุนซืออย่างเป็ป กวาดิโอล่ายังให้โอกาสการลงสนามของเขาน้อยเกินไป รางวัลบัลลงดอร์ชิ้นนี้ก็คงจะเลือนลางเต็มที

 

 

2.ซาดิโอ มาเน่ 

 

 

ฤดูกาล 2018/19 เป็นปีที่สมบูรณ์แบบในอาชีพการค้าแข้งของดาวเตะกาฬทวีปรายนี้เลยทีเดียว เมื่อเขาพังตาข่ายให้กับลิเวอร์พูลไปถึง 26 ลูกจากการลงเล่นไปทั้งหมด 50 เกมรวมทุกถ้วยทุกรายการ แถมยังได้รางวัลดาวซัลโวร่วมกับเพื่อนร่วมสโมสรอย่างโมฮาเหม็ด ซาลาห์และปิแอร์ เอริค โอบาเมยองของอาร์เซน่อล

 

ประเทศเซเนกัลได้รับชื่อเสียงมากจากการที่เขาเป็นผู้เล่นของหงส์แดง และเมื่อนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้วเขาเป็นคนทำให้ลิเวอร์พูลได้ลูกจุดโทษในนาทีแรกของการแข่งขัน นอกจากนี้ในนัดชิงรายการเดียวกันปี 2018 เขาก็เป็นคนเดียวที่ยิงได้ในรอบไฟนั่ล

 

เขาพาเซเนกัลผ่านเข้าชิงชนะเลิศในศึกฟุตบอลแอฟริกัน เนชั่นคัพเมื่อช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา โดยทัวร์นาเม้นต์ดังกล่าวเขาทำไปได้ 3 ประตูอย่างไรก็ดีเขาไม่สามารถนำทีมคว้าแชมป์ได้หลังจากพ่ายแอลจีเรียในนัดชิงอันดับที่หนึ่ง

 

ดาวยิงวัย 27 ปีเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อเขาทำไปแล้ว 4 ประตู จาก 5 เกมในพรีเมียร์ลีก นอกจากนี้ยังพาต้นสังกัดคว่ำเชลซีลงได้ในถ้วยยูฟ่าซูเปอร์คัพเมื่อเดือนที่แล้ว

 

 

1.ราฮีม สเตอร์ลิ่ง 

 

 

อดีตลูกหม้อของหงส์แดงรายนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่เก่งที่สุดในโลกไปแล้ว ภายใต้การบ่มเพาะฝีเท้าจาก เป็ป กวาดิโอล่า กุนซือของทีมและถ้าหากเขายังคงรักษามาตรฐานการเล่นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่แน่ว่ารางวัลบัลลงดอร์อาจจะตกเป็นของเขาก็เป็นได้

 

ปีกตูดแอ่นลงเล่นให้ซิตี้รวมทุกถ้วยทุกรายการเมื่อฤดูกาลที่แล้วไปถึง 51 เกมซึ่งเขายิงให้ต้นสังกัดไปได้ 25 ลูกแถมยังส่งให้เพื่อนยิงอีก 15 ครั้ง และยังมีส่วนร่วมกับแชมป์ในประเทศทั้ง 4 รายการของแมนฯซิตี้เมื่อปี 2019

 

ในส่วนของการเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษเจ้าตัวก็โชว์ผลงานได้อย่างโดดเด่น เมื่อทำประตูให้กับสิงโตคำรามเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหลังจากยิงไปได้แค่ลูกเดียวจากการรับใช้ชาติไป 45 นัด โดยใน 8 นัดหลังที่ลงสนามให้ประเทศบ้านเกิดเขาทำไปถึง 8 ประตูกับอีก 6 แอสซิสต์และยังทำอีก 4 ลูกในรอบคัดเลือกศึกยูโร 2020

 

ในเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ สเตอลิ่งยิงใส่ทีมเก่าของเขาอย่างลิเวอร์พูลและช่วยให้แมนฯซิตี้คว้าถ้วยการกุศลนี้ไปครอง และหลังจากผ่านเกมลีกไป 5 นัดเขาทำประตูให้เรือใบสีฟ้าไปแล้ว 5 ลูก