มาแน่ๆหรือแค่โคมลอย : วิเคราะห์โอกาส ติอาโก้ ย้ายซบหงส์แดงในซัมเมอร์นี้

 

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ชื่อของ ติอาโก้ อัลคันทาร่า กองกลางตัวเก่งจาก บาเยิร์น มิวนิค ตกเป็นข่าวหนาหูว่าได้รับความสนใจจาก ลิเวอร์พูล ที่เตรียมยื่นขอเสนอคว้าตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัวราวๆ 30 ล้านปอนด์

 

แม้ในช่วงที่มีข่าวครั้งแรกเมื่อช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน หลายคนมองว่านี่คงเป็นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร นอกจากข่าวลือที่จะค่อยๆเงียบหายไปเองตามกาลเวลา ทว่าเรื่องนี้กลับมีมูลมากขึ้นเรื่อยๆ แถมสื่อบางสำนักถึงขั้นรายงานว่าดีลนี้ใกล้ปิดเรียบร้อยแล้วด้วยซ้ำ

 

บ้างก็บอกว่านักเตะสามารถตกลงเงื่อนไขส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว หรือ คาร์ล ไฮนซ์ รุมมินิเก้ คนใหญ่คนโตในทีมเสือใต้ก็ยืนยันด้วยตัวเองว่า แข้งทีมชาติสเปน จะลาแคว้นบาวาเรียในซัมเมอร์นี้ และได้รับความสนใจจาก หงส์แดง ตามที่เป็นข่าวจริง

 

อีกทั้งนักข่าวท้องถิ่นประจำเมอร์ซี่ย์ไซด์ที่มักจะรายงานข่าววงในได้รวดเร็วฉับไว ก็ไม่มีใครปฏิเสธถึงเรื่องนี้ ซึ่งบางทีมันอาจจะมีอะไรมากกว่าแฟนบอลเห็นแค่ตอนแรกก็เป็นได้

 

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวต่างๆมักมีมากกว่าแค่แง่มุมเดียว และเรื่องของ ติอาโก้ กับ ลิเวอร์พูล ก็เช่นกัน และ ทาง UFA ARENA จะมีวิเคราะห์ถึงดีลนี้มีโอกาสเกิดขึ้นมาน้อยแค่ไหน พร้อมเหตุผลผ่านบทความชิ้นนี้

 

 

กลางหงส์ที่ล้นทีม

 

 

ติอาโก้ อาจไม่ใช่เป้าหมายที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องการเสริมทัพจริงๆ ซึ่งเหตุผลหลักๆคือเรื่องของวัยนักเตะที่อดีตเด็กปั้นบาร์เซโลน่ามีอายุครบ 29 ปี ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมาแล้ว 

 

โดยนักเตะตำแหน่งเอ้าท์ฟิลด์ที่ กุนซือหงส์แดง เคยเซ็นสัญญา และมีอายุมากกว่า 26 ปี มีแค่ รักนาร์ คลาวาน กองหลังชาวเอสโตเนีย เท่านั้นในปี 2016

 

เพราะฉะนั้น การคว้านักเตะวัย 29 ปีเข้ามาในถิ่น แอนฟิลด์ อาจทำให้การดันนักเตะดาวรุ่งจากชุดเยาวชนที่สโมสรทำมาตลอดในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา หยุดชะงักลงได้

 

สื่อต่างๆได้อ้างว่า บาเยิร์น ต้องการค่าตัวราวๆ 30 ล้านปอนด์ในการปล่อยตัว ติอาโก้ ที่จะหมดสัญญากับสโมสรในซัมเมอร์หน้า และมีค่าเหนื่อยอยู่ที่ 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

 

หาก หงส์แดง ถอนตัวจากดีลคว้า ติโม แวร์เนอร์ ที่อายุเพียง 24 ปี ด้วยเหตุผลเรื่องการเงิน ข่าวเชื่อมโยงกับ ติอาโก้ ก็ดูน่าสงสัยอยู่เช่นกัน

 

อีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เรื่องนี้ดูสมเหตุสมผลขึ้นมาอีกพอสมควรก็คือ ลิเวอร์พูลชุดปัจจุบัน เต็มไปด้วยกองกลางมากมาย ไม่ว่าจะเป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม, ฟาบินโญ่, จอร์จินิโอ้ ไวนัลจ์ดุม, นาบี เกอิต้า, อเล็กซ์ อ็อกเล็ด-แชมเบอร์เลน, เจมส์ มิลเนอร์ อดัม ลัลลาน่า และ ดาวรุ่งที่เพิ่งยิงประตูแรกในลีกอย่าง เคอร์ติส โจนส์ 

 

หากลองมองไปที่จุดนี้ดูเหมือนว่า กองกลาง ควรจะเป็นตำแหน่งสุดท้ายที่ ลิเวอร์พูล จะเลือกเสริมทัพในซัมเมอร์นี้

 

อย่างไรก็ดี ติอาโก้ มีสถานการณ์ในต้นสังกัดใกล้เคียงกับ ไวนัลจ์ดุม ตรงที่มีอายุ 29 ปีเท่ากัน และสัญญาของพวกเขากับทีมจะหมดลงหลังจบฤดูกาลหน้า

 

ดังนั้น มันอาจเกิดกรณีที่แตกต่างออกไป…

 

 

แข้งที่คล็อปป์ชื่นชม

 

 

เมื่อมองอีกมุมก็พอคิดได้ว่า ดีลนี้สมควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง และคงมีไม่กี่คนที่กล้าปฏิเสธว่า การเข้ามาของ ติอาโก้ สามารถสร้างความแตกต่างได้มากกว่าที่ ไวนัลจ์ดุม ทำได้ในทีม

 

กองกลางวัย 29 ปี สร้างโอกาสได้มากกว่า 2 เท่าต่อเกม เมื่อเทียบกับ แข้งชาวดัตช์ในฤดูกาลนี้ อีกทั้ง 3 ฤดูกาลหลังสุด ไวนัลจ์ดุม ทำไปเพียง 5 แอสซิสต์ ขณะที่ ติอาโก้ ทำได้ถึง 14 แอสซิสต์ ทั้งๆที่ลงเล่นน้อยกว่า 29 นัด

 

ในส่วนค่าเฉลี่ยการทำประตู ทั้งคู่อยู่ในระดับไล่เลี่ยกันในช่วง 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา โดย ไวนัลจ์ดุม ทำไป 12 ประตู ส่วน ติอาโก้ กดไป 13 เม็ด แต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้น แข้งเสือใต้ยิงได้มากกว่า กองกลางหงส์แดง แม้ลงเล่นน้อยกว่า 29 นัด ซึ่งนั่นหมายความว่า ติอาโก้ มีค่าเฉลี่ยที่ดีกว่า

 

อีกเหตุผลที่ทำให้ เรื่องของ ลิเวอร์พูล กับ ติอาโก้ เป็นไปได้มากขึ้น คือ คล็อปป์ มักจะกล่าวคำชื่นชมแก่ กองกลางชาวสแปนิช อยู่เสมอเมื่อมีโอกาส

 

เมื่อตอนที่ กุนซือชาวเยอรมันคว้า เกอิต้า จาก ไลป์ซิก ในปี 2017 เขาเคยกล่าวว่า “เมื่อปีที่แล้วพร้อมกับ ติอาโก้ อัลคันทาร่า ที่เล่นอย่างยอดเยี่ยมกับบาเยิร์น เขา (เกอิต้า) ก็เป็นคนที่โดดเด่น”

 

จากนั้นในปีเดียวกัน เขากล่าวชมอีกว่า “ในช่วงเวลาที่ผมอยู่ใน เยอรมัน ผมชื่นชอบ ติอาโก้ อัลคันทราร่า”

 

หลังเกมที่ หงส์แดงเสมอกับ เสือใต้ในแอนฟิลด์ 0-0 เมื่อปีที่ผ่านมา คล็อปป์ กล่าวชมอีกครั้งว่า “ติอาโก้ เป็นผู้เล่นระดับโลก เขาเล่นเป็นกองกลางตัวทำเกมจากแนวลึกได้อย่างยอดเยี่ยม”

 

ในขณะเดียวกัน นักเตะที่ได้รับคำยกย่องจาก คล็อปป์ ก็เคยกล่าวถึงกุนซือหงส์แดงในปี 2018 ว่า “ผมชื่นชอบในฟุตบอลอังกฤษ มันเป็นลีกที่ผมสนุกมากที่สุด”

 

“ดูแผงกองกลางของ ลิเวอร์พูล สิ เฮนเดอร์สัน, มิลเนอร์, แชมเบอร์เลน พวกเขาวิ่งไล่กดดันราวกับ สัตว์ป่า ในแชมเปี้ยนส์ลีก พวกเขายอดมากในแดนกลาง พวกเขาสุดยอดจริงๆ”

 

 

ต้องพัฒนาถ้าอยากได้แชมป์เพิ่ม

 

 

ในสัปดาห์นี้ คล็อปป์ ได้พูดถึงวิธีที่เขาพา โบรุสเซีย ดอร์ทมนด์ ป้องกันแชมป์บุนเดสลีก้าได้ ซึ่งเรื่องนึงที่เขากล่าวถึงก็คือ การเซ็น อิลคาย กุนโดกัน มาร่วมทีมในตอนนั้น

 

“คุณต้องพัฒนา มันไม่สำคัญเลยว่าคุณเคยทำอะไรมาในปีที่แล้ว” กุนซือเมืองเบียร์อธิบาย

 

และนี่คือจุดที่ทำให้ ติอาโก้ อาจย้ายมาสวมเสื้อหงส์แดงในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากทีมฟุตบอลต้องมีพัฒนา, ปรับปรุง และปรับตัว อีกทั้งการตัดสินเล็กๆน้อยๆในเรื่องแบบนี้คือสิ่งที่คุณต้องทำ หากหวังจากคว้าแชมป์ในปีถัดๆไป

 

แม้จะประสบความสำเร็จแบบสุดๆใน 2 ปีหลังสุด แต่ ลิเวอร์พูล คงไม่สามารถหยุดอยู่นิ่งกับที่ต่อไปได้ เพราะคู่แข่งของพวกเขาคงไม่หยุดอยู่แค่นี้เช่นกัน

 

นอกจากนี้ การมาของ ติอาโก้ อาจช่วยเพิ่มมิติในการสร้างสรรค์เกมแดนกลางของทีม ที่ เดอะ ค็อป ส่วนใหญ่มองว่าเป็นจุดอ่อนที่ควรแก้ไขมานาน

 

ด้วยวิสัยทัศน์ระยะยาวที่ คล็อปป์ วางไว้เพื่อให้ ลิเวอร์พูล รักษาความยอดเยี่ยมต่อไปได้ทั้งในลีกอังกฤษ หรือ ฟุตบอลยุโรป ติอาโก้ ก็อาจเป็นศูนย์กลางในเรื่องนี้เช่นกัน

 

ด้วยวัย 29 ปี ติอาโก้ มีความคล้ายคลึงกับ ชาบี อลอนโซ่ ที่ย้ายไป เรอัล มาดริด ในวัยเดียวกัน และย้ายไปเล่นกับ บาเยิร์น จนอายุ 36 ปี หรือ ลูก้า โมดริช ที่ยังเป็นตัวหลักของ ราชันชุดขาว ด้วยวัย 34 ปี ซึ่งทั้งคู่ต่างมีส่วนช่วยให้ มาดริด กลายเป็นเจ้ายุโรปอีกด้วย

 

ส่วนในเรื่องการแย่งตำแหน่งในแดนกลาง ถ้า ไวนัลจ์ดุม ลาทีมไปขณะที่เขายังมีผลงาน และ มิลเนอร์ ที่เตรียมรีเทิร์นกลับ ลีดส์ ยูไนเต็ด สโมสรแรกในอาชีพค้าแข้งที่ใกล้เลื่อนชั้นขึ้นมาในพรีเมียร์ลีก บวกกับ อดัม ลัลลาน่า ที่กำลังหาทีมใหม่ ทุกอย่างน่าจะลงตัวมากขึ้นในการดึง ติอาโก้ เข้ามา

 

โจนส์ อาจกลายเป็นอะไหล่สำรองให้กับ ซาดิโอ มาเน่ ในตัวรุกฝั่งซ้ายมากกว่าเป็นกองกลาง ซึ่งนี่เป็นบทบาทที่เขาเล่นเป็นประจำในชุดยู-23 และน่าจะเหมาะกับเขาในช่วงขวบปีแรกของอาชีพค้าแข้ง

 

นี่หมายความว่า ตัวเลือกแรกในแดนกลางจะตกเป็นของ ฟาบินโญ่, ติอาโก้ และ เฮนเดอร์สัน โดยมี เกอิต้า และ แชมเบอร์เลน คอยเสริมเพิ่มมิติและเป็นอะไหล่ในการหมุนเวียนใช้งาน

 

ไม่ว่าเรื่องนี้จะมีบทสรุปเป็นแบบไหน การมีข่าวเชื่อมโยงกับ ติอาโก้ นั่นแสดงให้เห็นอย่างหนึ่งว่า ลิเวอร์พูล กำลังวางแผนขึ้นไปเป็นเบอร์หนึ่งในฟุตบอลยุโรปอีกครั้ง และไม่ปล่อยให้ความสำเร็จในปัจจุบันมาหยุดยั้งความก้าวหน้าของทีมในอนาคต