มีผลกระทบกว่าคิด : 4 เหตุผลที่ควรดูศึกชิงแชมป์สโมสรโลก

 

แม้ ศึกชิงแชมป์สโมสรโลก หรือ ฟีฟ่า คลับ เวิล์ดคัพ จะเปิดฉากจนถึงรอบรอบชนะเลิศแล้ว แต่หลายคนอาจไม่ให้ความสนใจในรายการนี้เท่ากับฟุตบอลลีกในยุโรปมากนัก 

 

ซึ่งปีนี้เป็นครั้งแรกที่แชมป์สโมสรของแต่ละทวีปได้แข่งขันกันที่ประเทศกาตาร์ อีกทั้งนี่ยังมีผลกับศึกฟุตบอลโลก 2022 โดยตรง เนื่องจาก กาตาร์ จะเป็นการเตรียมความพร้อมและประเมินสถานการณ์ต่างๆ ให้พร้อมก่อนศึกใหญ่ในอีกเกือบ 3 ปีข้างหน้าด้วย

 

เพราะฉะนั้นทาง UFA ARENA จึงนำเสนอ 4 เหตุผลหลักๆที่แฟนบอลควรหันมาสนใจศึกสโมสรโลกอย่างจริงจังมากขึ้นในปี 2019 

 

 

อาจเห็นกาบิโกลผงาดอีกครั้ง

 

 

เขาอาจไม่ประสบความสำเร็จอย่างสิ้นเชิงในตอนที่ค้าแข้งกับ อินเตอร์ มิลาน แต่ กองหน้าฟลาเมงโก้ อย่างกาเบรียล บาร์โบซ่า หรือที่คนรู้กันดีในนาม ‘กาบิโกล’ ถือนักเตะที่น่าจับดูไม่น้อย

 

แข้งวัย 23 ปีเป็นเหมา 2 ประตูในช่วงท้ายเกมช่วยให้ต้นสังกัดเอาชนะ ริเวอร์ เพลท ในศึกโคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ได้ 2-1 และคว้าแชมป์ทวีปครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1981

 

นอกจากเรื่องฝีเท้า ความยียวนกวนประสาทก็มีไม่ด้อยไปกว่ากัน หลังปรบมือประชดผู้ตัดสินในเกมที่พบกับ เกรมิโอ้ จนโดนไล่ออก แถมยังทำท่าเยาะเย้ยแฟนบอลคู่แข่งตอนเดินออกนอกสนามอีก

 

เพราะฉะนั้น อาจไม่ใช่เรื่องแปลกใจอะไร ถ้าหากเราได้เห็น กาบิโกล กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งหลังจบทัวร์นาเม้นต์ และมีโอกาสไม่น้อยเช่นกันที่เราจะได้เห็นลีลายิงประตูของเขาในยุโรปอีกครั้ง

 

 

ทีมนอกสายตาก็น่าดู

 

 

เป็นประจำสำหรับรายการนี้ที่จะมีสโมสรแปลกๆที่เราไม่คุ้นหูร่วมแข่งขันอยู่ด้วย และปีนี้ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่

 

ทั้ง มอนเตร์เรย์ สโมสรจากเม็กซิโก้ที่คว้าแชมป์คอนคาเคฟ แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลล่าสุด ซึ่งเป็นแชมป์ทวีปสมัยที่ 4 ของพวกเขาด้วย อีกทั้งสโมสรจากแดนจังโก้ยังเคยร่วมแข่งขันในศึกชิงแชมป์สโมสรโลกมาแล้วในปี 2012 และทำผลงานได้น่าประทับใจสุดๆด้วยการคว้าอันดับ 3 ไปครอง และเตรียมพบกับ ลิเวอร์พูล ในรอบตัดเชือกวันพรุ่งนี้

 

ส่วน อัล ฮิลาล คู่แข่งของฟลาเมงโก้ในรอบตัดเชือกอีกคู่ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน หลังสโมสรจากซาอุดิอาราเบียเอาชนะเอา อูราวะ เร้ด ไดมอนส์ ทีมดังญี่ปุ่นไปในนัดชิง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยประตูรวม 3-0 กลายเป็นแชมป์จากเอเชียฝั่งตะวันออกกลางทีมแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้นับตั้งแต่ปี 2011 พร้อมคว้าทีมที่คว้าแชมป์ทวีปมากที่สุดร่วมกับ โปฮัง สตีลเลอร์ สโมสรจากเกาหลีใต้ 3 สมัย  

 

ขณะที่ อัล ซาดด์ ตัวแทนเจ้าภาพที่มีดีกรีแชมป์ทวีป  2 สมัย และคว้าแชมป์ลีกที่สุดในกาตาร์ (14 สมัย) ต้องมาดวลศึกชิงที่ 5 กับ อีเอส ตูนิส ยอดสโมสรจากตูนิเซียที่คว้าแชมป์ทวีปแอฟริกาในปีล่าสุด

 

 

แชมป์สโมสรโลกครั้งแรกของหงส์แดง?

 

 

ตัวเต็งในรายการนี้ทุกปรคงหนีไม่พ้นตัวแทนจากทวีปยุโรปที่มีดีกรีและคุณภาพค่อนข้างเหนือกว่าสโมสรจากทวีปอื่นๆ โดยในปีนี้ ลิเวอร์พูลคือทีมที่เราพูดถึง

 

ถึงแม้ว่าหงส์แดงจะคว้าแชมป์ยุโรปได้ถึง 6 สมัย แต่พวกเขาก็ไม่เคยมีโอกาสสัมผัสถ้วยระดับโลกแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งแพ้ในศึกอินเตอร์คอนติเนนทัล คัพ ปี 1981 แก่ฟลาเมงโก้ และอกหักอีกครั้งแก่ อินดิพิเดนเต้ ในปี 1984 รวมถึงเคยปฏิเสธเข้าแข่งขันก่อนหน้านี้ในปี 1977 และ 1978

 

ส่วนในรายการนี้ ลิเวอร์พูลเคยเข้าร่วมแค่ครั้งเดียวในปี 2005 และประเดิมนัดแรกได้อย่างสวยงามด้วยการเอาชนะ คลับ ซาปิสซ่า ทีมจากคอสตา ริก้า 3-0 ก่อนจะพ่ายแก่ เซา เปาโล ในนัดชิงชนะเลิศ 1-0 

 

มาในครั้งนี้ ทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องเจอกับความลำบากมากกว่าครั้งก่อนๆหลายเท่าตัว เนื่องจากต้องแบ่งทีมถึง 2 ชุด เพื่อแยกกันแข่งขันใน 2 รายการ โดยชุดแรกซึ่งชุดเล็กจะพบกับ แอสตัน วิลล่า ในศึกคาราบาว คัพ วันอังคารนี้ ส่วนอีกชุดซึ่งเป็นทีมชุดใหญ่จะพบกับ มอนเตร์เรย์ ตัวแทนจากทวีปอเมริกากลางในวันพุธ

 

และหากเอาชนะทีมจากเม็กซิโก้ในรอบตัดเชือกได้ ก็มีโอกาสไม่น้อยที่ลิเวอร์พูลจะพบกับ ฟลาเมงโก้ ทีมที่หักอกพวกเขาในปี 1981 ณ นัดชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์นี้ 

 

 

เตรียมตัวสำหรับบอลโลก

 

 

ศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายจะจัดขึ้นที่ประเทศกาตาร์อย่างแน่นอนในอีก 3 ปีต่อจากนี้ และจะแข่งขันในเดือนธันวาคมด้วย เพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นโอกาสที่แฟนบอลจะได้เห็นว่าประเทศเล็กๆมีความสามารถในการจัดการกับทัวร์นาเม้นต์ระดับโลกมากน้อยแค่ไหน

 

อีกทั้ง กาตาร์ ยังรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพศึกชิงแชมป์สโมสรโลกในครั้งหน้าด้วย แต่พวกเขาก็ถูกวิจารณ์อย่างหนัก ทั้งเรื่องสภาพอากาศที่ร้อนเกินไป ไม่เหมาะสมแก่การเล่นฟุตบอลอย่างมาก

 

อุณหภูมิในกรุงโดฮาส่วนใหญ่ในช่วงต้นเดือนธันวาคมเมื่อปีที่ผ่านมาสูงสุดอยู่ 26 องศาเซลเซียส ขณะที่ในปีนี้ดูมีแนวโน้มที่ดีขึ้นหลังมีอุณหภูมิสูงสุดที่ 25 และต่ำสุดที่ 16 องศาเซลเซียส

 

ในเรื่องสนามนั้น กาตาร์ วางแผนใช้ ดิ เอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดี้ยม ในกรุงโดฮา เป็นสังเวียนแข้งของ ลิเวอร์พูล ในรอบรองชนะเลิศ วันที่ 18 ธันวาคม และอีกสองนัดในรอบชิงอันดับสาม และ รอบชิงชนะเลิศ วันที่ 21 ธันวาคม

 

แต่ในเวลาต่อมา ฟีฟ่า ได้สั่งในพวกเขาเปลี่ยนสนามแข่งใหม่ เนื่องจากยังไม่มีการผ่านการทดสอบและการรับรองใดๆ ทั้งสิ้น จึงเลือกใช้ คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม ในกรุงโดฮาแข่งขันแทน

 

ส่วนแฟนบอลก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า กาตาร์ จะเหมาะสมกับการจัดศึกฟุตบอลโลกอย่างที่พวกเขากล่าวอ้างมาหรือไม่ และเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง