เรียกว่าเข้าใกล้ไปทุกทีสำหรับแชมป์บุนเดสลีกา สมัยที่ 8 ติดต่อกันและเป็นสมัยที่ 30 ของ บาเยิร์น มิวนิค ในฤดูกาลนี้ หลังผลงานนับตั้ง ฮันซี่ ฟลิค เข้ามาเป็นเทรนเนอร์ก็ลอยลมบนแบบไม่มีทีท่าว่าจะดร็อปลงแต่อย่างใด
จากเกมล่าสุดที่บุกไปสอย ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น คาบ้าน 4-2 ทำให้่พวกเขายังรักษาช่องว่าง 7 คะแนนกับทาง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และเหลือเกมให้หวดกันอีกเพียง 4 เกมเท่านั้น
พูดถึงเกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานอกจาก 3 แต้มสำคัญแล้ว พวกเขายังสร้างสถิติอีกมากมายทั้งการเป็นทีมแรกใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรปที่ยิงถึง 90 ลูก, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยิงแตะ 30 ประตูคนแรกเช่นกัน
ขณะที่ โธมัส มุลเลอร์ ก็ทำแอสซิสต์ถึง 20 ประตูเป็นคนแรกในฤดูกาลนี้ ซึ่งสถิติของ มุลเลอร์ ไม่ใช่ใครจะทำกันได้ง่ายๆ เพราะนับตั้งแต่ฤดูกาล 2006/07 มีเพียง 3 คนเท่านั้นที่ทำได้ อีก 2 หน่อก็คือ ชาบี้ ของบาร์เซโลน่า และ เควิน เดอ บรอยน์ สมัยอยู่โวล์ฟสบวร์ก
ตรงนี้แหละที่น่าสนใจว่าทำไม มุลเลอร์ ถึงสามารถทำได้ เจ้าตัวมีจุดเด่นอะไรวันนี้เราจะมาลองวิเคราะห์กันดู ซึ่งเท่าที่ศึกษามาเราเจอ 4 สาเหตุสำคัญที่ทำให้เจ้าตัวกลายเป็น “คิงส์แอสซิสต์” (รวม 144 แอสซิสต์ในบุนเดสลีกา) คนใหม่ของบุนเดสลีกา เยอรมัน ในเวลานี้
1.การผสานงานที่ยอดเยี่ยมกับฟูลแบ็ก
ด้วยความที่สไตล์การเล่นของ มุลเลอร์ ไม่ได้เป็นประเภทปีกพ่อเลี้ยงจ้า ไม่ได้อาศัยการเลี้ยงจี้สร้างสรรค์เกมรุก ทำให้ต้องพึ่งพาการผสานงานร่วมกับฟูลแบ็กของทีม และเท่าที่เราศึกษารูปแบบการเล่นก็จะค่อนข้างตายตัวอยู่ทีเดียว
หลักๆ คือ มุลเลอร์ จะไม่ปักหลักอยู่ริมเส้น เขาจะฮุบเข้าไปช่วยกองหน้าอยู่บ่อยครั้งเพื่อให้ฟูลแบ็กของทีมเติมเกมสูง ไม่ว่าจะเป็น ฟิลลิปป์ ลาห์ม, โจซัว คิมมิช หรือ แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ ต่างก็เล่นในแพทเทิร์นเดียวกันหมด
คือเมื่อฟูลแบ็กของ “เสือใต้” เติมขึ้นสูง แบ็กซ้ายของฝั่งตรงข้ามก็ต้องถ่างไปประกบ ที่นี่พื้นที่ด้านหลังแบ็กจะมีที่ว่างซึ่ง มุลเลอร์ จะเข้าจู่โจมตรงนี้ทันที ทำให้บ่อยครั้งเขาได้บอลในพื้นที่สุดท้ายทางกราบขวา และสามารถเลือกได้ว่าจะยิง หรือเปิดให้เพื่อนลุ้นประตู
2.เก่งกาจเรื่องเลี้ยงไลน์ล้ำหน้า
อีกหนึ่งจุดเด่นของ มุลเลอร์ ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ Off the ball หรือการเคลื่อนที่ระหว่างไม่มีบอล ด้วยความที่เขาเป็นนักเตะประเภทไฮบริด เล่นได้ทั้งปีกและหน้าเป้า ทำให้เจ้าตัวต้องชิงเหลี่ยมกับทั้งแนวรับคู่แข่งและไลน์แมนอยู่ตลอดเวลา
ทว่า มุลเลอร์ ก็มักจะทำได้ดี วิ่งสอด วิ่งสวนแนวรับทีไรมักจะไม่ล้ำหน้าเลย จากข้อมูลของ บุนเดสลีกา ระบุว่าเจ้าตัวมีสถิติล้ำหน้าเพียง 1 ครั้งในทุกๆ 2 เกม หรือพูดกันบ้านๆ ว่าในแต่ละแมตช์ มุลเลอร์ แทบจะไม่ล้ำหน้าเลยก็ว่าได้
ในเมื่อตัวรุกมีการเคลื่อนที่ดีขนาดนี้ ตัวจ่ายบอลอย่าง ติอาโก้ อัลคันทาร่า หรือ โจซัว คิมมิช พวกนี้ก็เล่นง่ายขึ้นเยอะ จะแทงทะลุช่อง หรืองัดข้ามแนวรับ หรือถ้าแนวรับไปพะวงจับล้ำหน้าถอยไปลึก ก็โดนแถวสองของ บาเยิร์น ส่องไกลอีก เรียกว่าแค่นักเตะคนเดียวก็สามารภทำให้่ทีมอาวุธครบมือได้เลย
3.มองตาก็รู้ใจกับเลวานดอฟสกี้
นับรวมปีนี้นี้เป็นการรวมงานกันระหว่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ และ โธมัส มุลเลอร์ เข้าสู่ซีซั่นที่ 6 พอดิบพอดี แน่นอนว่าความเข้าขารู้ใจคงไม่ต้องพูดถึงกันมาก ไลน์การวิ่ง ตำแหน่งการยืน พื้นที่การเข้าทำแค่มองตาก็รู้ใจกันหมด
นับตั้งแต่ปี 2014 หรือปีแรกที่ “เลวาน” ย้ายมาอยู่ในถิ่นอัลลิอันซ์ อารีน่า มุลเลอร์ ทำแอสซิสต์รวมไปทั้งสิ้น 83 ประตู ซึ่งตามข้อมูลของบุนเดสลีกา ที่ทำยูทูปวิเคราะห์การเล่นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ชี้ให้เห็นว่ามีถึง 37% ที่เป็นการจ่ายให้ เลวานดอฟสกี้ ยิงประตู
เอาให้เห็นภาพง่ายๆ ก็ฤดูกาลนี้ 30 ประตูที่ เลวานดอฟสกี้ ยิงได้ มีถึง 8 ประตูที่เป็นการแอสซิสต์จาก มุลเลอร์ ซึ่งเป็นสถิติ Assist to goal scorer (จ่ายให้นักเตะคนเดิมทำประตู) มากที่สุดแล้วในบุนเดสลีกา เยอรมัน แล้วในตอนนี้
4.ครบเครื่องต้มยำยากจะคาดเดา
เอาจริงๆ แค่การเคลื่อนที่อย่างเดียวของ มุลเลอร์ ก็ถือว่าป่วนแนวรับคู่แข่งได้แบบหนักข้อแล้ว แต่ที่ทำให้ต้องปวดหัวยกกำลังสองไปอีกก็คือ มุลเลอร์ เป็นนักเตะที่มีจังหวะจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยมด้วยอีกตั้งหาก
นับตั้งแต่เปิดตัวในบุนเดสลีกา เมื่อปี 2008 นับจนถึงวินาทีนี้ มุลเลอร์ ยิงไปแล้ว 117 ประตู ซึ่งถือว่าเยอะมากๆ แถมที่สำคัญเจ้าตัวยังเล่นได้หมดในทุกตำแหน่งในแนวรุก จะหน้าเป้า, หน้าต่ำ, ปีกซ้าย หรือปีกขวา เจ้าตัวโดนใช้งานมาหมดแล้ว
ครบเครื่องจัดขนาดนี้บอกเลยโดยจับทางยากมากๆ ยิงก็ได้ จ่ายก็ดี เป็นกองหลังที่ต้องมาเจอกับ มุลเลอร์ บอกเลยหายาพาราเตรียมรอไว้หลังเกมได้เลย
