ศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศนัดที่สอง อาแจ็กซ์เปิดบ้านรับการมาเยือนของ สเปอร์ส โดยเกมแรกพวกเขาชนะมาก่อน 1-0
เจ้าบ้านได้ทักทายตั้งแต่นาทีที่ 3 ฮาคิม ซิเย็ค จ่ายบอลข้ามฝากมาให้กับ ทาดิช ต้องป้อมยิงไกลแต่ โยริสปัดทิ้งไปได้ จังหวะต่อ
เนื่องกันจากลูกเตะมุม อาแจ๊กซ์ เปิดบอลเข้าในมาให้กับ มัทไธส์ เดอ ลิกต์ เทคตัวขึ้นโหม่งส่งบอลเข้าประตูไป สกอร์กลายเป็น 1-0
นาที 22 ไก่เดือยทองได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ อัลลี่ แทงบอลทะลุมาให้ซน หลุดไปยิงแต่เข้าซองของ โอนาน่า จังหวะต่อเนื่องกัน อิริ
คเซ่นได้ลองส่องไกลจากนอกกรอบเขตโทษ ก็ยังติดเซฟของโอนาน่า
นาทีที่ 35 อาแจ๊กซ์ ได้ประตูหนีห่างไปเป็น 2-0 จากจังหวะสวนกลับมา เดอ ลิกต์ พาบอลขึ้นหน้ามาก่อนออกบอลให้กับ ดูซาน ทา
ดิช ตบเข้ากลางให้ ซีเย็ค วิ่งมาซัดด้วยซ้าย บอลเข้าไปตุงตาข่าย
หลังจากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้และจบลงไปด้วยสกอร์ 2-0 สกอร์รวม 3-0
ครึ่งหลังเริ่มมานาที 54 ไก่เดือยทองได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะสวนกลับ เดเล่ อัลลี่ หลุดมาสับขาหนึ่งจังหวะ บอลเปลี่ยนทางมา
เข้าทาง ลูคัส มูร่าสอดขึ้นายิงเข้าไป สกอร์เป็น 2-1
ไม่กี่นาทีต่อมา สเปอร์สได้ลูกที่สอง จากจังหวะที่ ทริปเปียร์ เปิดบอลให้กับ ยอเรนเต้ ยิงจ่อๆติดเซฟ โอนาน่า พยายามตะครุบบอล
ไว้แต่ไม่อยู่จนไปเข้าทางของ ลูคัส มูร่า แต่งบอลหาจังหวะยิงเข้าไป สกอร์กลายเป็น 2-2
นาที86 สเปอร์สได้ลุ้นจากจังหวะเตะมุมเข้ามาให้ยอเรนเต้ โหม่งต่อให้แฟร์ทองเก้น โหม่งจ่อๆชนคาน เด้งมาเข้าทาง แฟร์ทองเก้
นอีกครั้ง ซ้ำจ่อๆ โดนเตะทิ้งออกมาอีก
นาทีที่ 90+5 สเปอร์ส บุกขึ้นมา ยอเรนเต้แตะบอลต่อให้กับลูคัส มูร่า สอดขึ้นมายิงผ่านมือ โอนาน่าเข้าไป สกอร์กลายเป็น 3-2 และ
จบเกมทัพไก่เดือยทอง ผ่านเข้ารอบไปได้ด้วยกฏประตูทีมเยือน เข้าไปชิงกับลิเวอร์พูลในรอบชิง
นักเตะที่ลงสนาม
อาแจ๊กซ์ : อังเดร โอนาน่า – นูส์แซร์ มาซราอูย, มัทไธส์ เดอ ลิกต์, ดาลี่ย์ บลินด์, นิโกลัส ตายาฟิโก้ – ลาสเซ่ โชน, เฟรงกี้ เดอ ยอง
– ฮาคิม ซีเยค , ดอนนี่ ฟาน เดอ บีค , ดูซาน ทาดิช – แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก
สำรอง: โจแอล เวลท์แมน (60) , ดาลี่ย์ ซิงค์กราเวน(67), ลิซานโดร มิกัลลัน(90)
สเปอร์ส : อูโก้ โยริส – คีแรน ทริปเปียร์ , โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, ดาวินสัน ซานเชซ, แดนนี่ โร้ส – วิคเตอร์ วานยาม่า , มุสซ่า ซิส
โซโก้ , เดเล่ อัลลี , คริสเตียน อีริคเซ่น, ลูคัส มูร่า, ซน ฮึง-มิน
สำรอง: เฟร์นันโด ยอเรนเต้ (46), เอริค ลาเมลา(81) , เบน เดวิส(82)