ยกสถิติมาคุย : เมสซี่ห่วยลงจริงไหมหลังพยายามย้ายทีม

ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่ง นักเตะที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของ บาร์เซโลน่า อย่าง ลิโอเนล เมสซี่ จะออกมาประกาศเสียงดังฟังชัดว่า “กูอยากย้ายทีม”

 

ด้วยปัญหาภายในที่กองเป็นภูเขา รวมถึงการที่สโมสรขาดความทะเยอทะยานในการคว้าแชมป์ ทำให้สตาร์ชาวอาร์เจนไตน์รับรู้ได้ว่าช่วงเวลาของตัวเองบนถิ่นคัมป์ นูมาถึงทางตันแล้ว ก่อนที่จะตัดสินใจขอฉีกสัญญาเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

 

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีสิทธิ์ยกเลิกสัญญาได้แบบอิสระหลังจบฤดูกาล แต่ก็มีกำหนดเช่นกันว่าต้องภายในวันที่ 10 มิถุนายน ดังนั้น เมื่อซีซั่น 2019-20 ต้องจบลงช้ากว่าปกติเพราะโดนวิกฤตไวรัสโควิด-19 เล่นงาน เมสซี่ ที่ไม่นึกว่าอดีตประธานสโมสรอย่าง โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว จะตอบแทนกันด้วยการงัดเงื่อนไขดังกล่าวมาขวาง ก็ไม่มีทางเลือกนอกจากจำใจอยู่ค้าแข้งบนถิ่นคัมป์ นูต่อไปอีก 1 ซีซั่น

 

ทว่าด้วยสภาพผีเข้าผีออกของเจ้าบุญทุ่มในฤดูกาลนี้ ทำให้ดาวเตะวัย 33 ปีที่ดูเหมือนจะอยู่ในสถานะ “หมดใจ” ต้องตกเป็นเป้าโจมตีจากสาธารณชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

ถ้าอย่างนั้น… เมสซี่ ห่วยลงจริงหรือเปล่าหลังจากขอย้ายทีม? หรือเจ้าตัวเป็นแค่แพะในผลงานอันน่าผิดหวังของอาซูลกราน่าเฉยๆ? วันนี้เราจะนำสถิติของฤดูกาล 2019-20 กับฤดูกาล 2020-21 มาเทียบกันให้ดูชัดๆเลยว่าเป็นอย่างไร

 

ผลการแข่งขันของทีม

 

เราจะมาเปิดหัวกันด้วยผลงานของ บาร์ซ่า โดยในฤดูกาล 2019-20 เมสซี่ ลงสนามไปทั้งหมด 44 นัด ทีมมีผลงานชนะ 27 , เสมอ 9 และแพ้ 8 เปอร์เซ็นต์ชนะคิดเป็น 61.36% ขณะที่ในฤดูกาล 2020-21 เมสซี่ ลงเล่นไปแล้ว 32 นัด ทีมมีผลงานชนะ 20 , เสมอ 4 และแพ้ 8 เปอร์เซ็นต์ชนะคิดเป็น 62.5%

 

สรุป : ในยามที่มี เมสซี่ ปรากฏกายในสนาม ซีซั่นนี้ยักษ์ใหญ่จากคาตาลันมีผลงานที่ดีขึ้นกว่าซีซั่นก่อน

 

สถิติโดยรวม

 

หลังจากนี้จะเริ่มเข้าสู่สถิติส่วนตัวของแข้งเจ้าของบัลลงดอร์ 6 สมัย โดยในฤดูกาล 2019-20 เมสซี่ ลงสนามไปทั้งสิ้น 44 นัด ยิงได้ 31 ประตู และทำแอสซิสต์ไป 27 ครั้ง ส่วนในฤดูกาล 2020-21 เมสซี่ ลงเล่นไปแล้ว 32 นัด ยิงได้ 24 ประตู และทำแอสซิสต์ไป 9 ครั้ง

 

นั่นหมายความว่าเมื่อซีซั่นที่แล้ว เมสซี่ มีส่วนร่วมกับประตูโดยตรงไป 58 ลูก จาก 44 นัด ส่วนในซีซั่นนี้ เมสซี่ มีส่วนร่วมกับประตูโดยตรงไป 33 ลูก จาก 32 นัด

 

สรุป : สถิติโดยรวมของ เมสซี่ ดรอปลงไปเยอะหลังจากขอย้ายทีม อย่างไรก็ตาม ตัวที่ฉุดลงจริงๆคือจำนวนแอสซิสต์ ส่วนจำนวนประตูยังอยู่ในมาตรฐานเดิม

 

 

การสร้างสรรค์โอกาส

 

ในฤดูกาล 2019-20 เมสซี่ จ่ายคีย์พาสไป 2.4 ครั้งต่อเกม , หาจังหวะสับไกยิงได้ 4.7 ครั้งต่อเกม และเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งได้ 6 ครั้งต่อเกม ขณะที่ในฤดูกาล 2020-21 เมสซี่ จ่ายคีย์พาสได้มากขึ้นที่ 2.9 ครั้งต่อเกม และหาจังหวะสับไกยิงได้เยอะขึ้นที่ 5.9 ครั้งต่อเกม ทว่าเจ้าตัวเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งได้น้อยลงที่ 4.6 ครั้งต่อเกม

 

สรุป : แม้ เมสซี่ จะเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งได้น้อยลง แต่มันก็ถูกทดแทนด้วยจำนวนลูกจ่ายคีย์พาสที่มีมากขึ้น รวมถึงสามารถหาจังหวะจบสกอร์ได้บ่อยกว่าเดิมด้วย

 

การมีส่วนร่วมกับเกม

 

ในฤดูกาล 2019-20 เมสซี่ สัมผัสบอล 89.2 ครั้งต่อเกม , ผ่านบอล 60.3 ครั้งต่อเกม โดยเป็นการผ่านบอลในพื้นที่สุดท้าย 32.7 ครั้งต่อเกม ขณะที่ในฤดูกาล 2020-21 ตัวเลขทั้งหมดของ เมสซี่ เยอะขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งการสัมผัสบอลที่เพิ่มเป็น 95.3 ครั้งต่อเกม , การผ่านบอลที่เพิ่มเป็น 67.1 ครั้งต่อเกม และการจ่ายบอลในพื้นที่สุดท้ายที่เพิ่มเป็น 35.9 ครั้งต่อเกม

 

สรุป : เห็นได้ชัดว่า เมสซี่ มีส่วนร่วมกับเกมมากขึ้นในซีซั่นนี้ หรืออีกนัยหนึ่งคือเขาต้องแบกรับภาระในการปั้นเกมเยอะขึ้นกว่าซีซั่นที่ผ่านมา

 

 

สถิติเกมรับ

 

ปิดท้ายด้วยหัวข้อที่อาจจะเป็นไฮไลท์สำคัญของบทความนี้ เนื่องจากสถิติในเกมรับสามารถตอบคำถามเรื่องความทุ่มเทของนักเตะแนวรุกได้ในระดับหนึ่ง

 

โดยในฤดูกาล 2019-20 เมสซี่ มีค่าเฉลี่ยการพยายามเข้าแทคเกิ้ลอยู่ที่ 0.5 ครั้งต่อเกม , ตัดบอลได้ 0.2 ครั้งต่อเกม และสามารถแย่งบอลกลับมาคืนได้ 1.7 ครั้งต่อเกม ขณะที่ในฤดูกาล 2020-21 เมสซี่ มีค่าเฉลี่ยการพยายามเข้าแทคเกิ้ลเท่าเดิมที่ 0.5 ครั้งต่อเกม , ตัดบอลได้น้อยลงที่ 0.1 ครั้งต่อเกม แต่สามารถแย่งบอลกลับมาคืนได้มากขึ้นชัดเจนที่ 2 ครั้งต่อเกม

 

สรุป : ดูเหมือนว่า เมสซี่ จะมีเกมรับในช่วงเวลาหลังจากประกาศย้ายทีม ดีกว่าช่วงเวลาก่อนที่จะประกาศย้ายทีมซะอีก

 

 

จากสถิติทั้งหมดที่นำมากาง ดูเหมือนว่าการพยายามย้ายออกจากทีมเมื่อช่วงหน้าร้อนปีก่อนจะไม่ได้เปลี่ยน เมสซี่ อย่างที่หลายคนตั้งคำถาม เขายังเป็นเอเลี่ยนตัวเดิมที่มอบทุกอย่างให้กับ บาร์ซ่า และมันคงจะส่งผลกระทบต่อเจ้าบุญทุ่มพอสมควร หากสตาร์ทีมชาติอาร์เจนติน่ายืนยันว่าจะไม่ต่อสัญญาหลังจบฤดูกาลนี้

 

อย่างไรก็ตาม งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ยังไงสักวัน เมสซี่ ก็ต้องจากไปอยู่ดี จำได้ไหม… ก่อนที่เจ้าตัวจะก้าวขึ้นมาเป็นราชาบนถิ่นคัมป์ นู ครั้งหนึ่งที่นี่เคยมีนักเตะที่ชื่อว่า โรนัลดินโญ่ และเมื่อถึงเวลาที่ต้องผลัดใบอีกครั้ง ไม่แน่ว่าเราอาจได้เห็นหมายเลข 10 คนใหม่ที่จะพุ่งขึ้นมาแบกอาซูลกราน่าต่อไปอีกหลายปีก็เป็นได้