ยังเล่นไม่หนำใจ : 8 แข้งจอมดื้อที่ปฏิเสธการโดนเปลี่ยนตัว

 

เหตุการณ์เมื่อคืนคงเป็นอะไรที่ช็อคแฟนบอลทั่วโลกพอสมควร หลังเกป้า อาร์ริซาบาลาก้า นายทวารของเชลซี ปฏิเสธที่จะเปลี่ยนตัวกับ วิลลี่ กาบาเยโร่ในนาทีสุดท้ายของช่วงต่อเวลาพิเศษของเกมคาราบาว คัพ นัดชิงชนะเลิศกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งการกระทำของแข้งชาวสเปนทำให้ เมาริซิโอ ซาร์รี่หัวเสียไม่น้อย จนเกือบจะเดินออกสนามเข้าอุโมงค์ไปเลย  แต่สุดท้ายเรื่องทุกอย่างก็จบลงหลังนายใหญ่สิงห์บลูออกมาเผยถึงว่าที่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน และไม่ตำหนิเกป้าแต่อย่างใด

 

อย่างไรก็ตาม เกป้าไม่ใช่คนแรกที่ทำตัวดื้อด้านยามโดนเปลี่ยนตัวออก เพราะก่อนหน้านี้ก็มีดาวเตะระดับโลกงอแงกับเรื่องแบบนี้มาไม่น้อย ซึ่งบางคนก็สามารถอยู่ในสนามต่อไปได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกเขามักจะยอมเดินออกมาจากสนามแบบมืออาชีพ และอาจจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวอยู่ในบางครั้ง ทาง UFA ARENA จึงขออาสาพาทุกท่านไปพบกับ 8 แข้งสุดดื้อที่ไม่อยากโดนเปลี่ยนตัวและต้องการอยู่บนฟลอร์หญ้าจนวินาทีสุดท้าย

 

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

 

 

กองหน้าร่างยักษ์ชาวสวีดิชเป็นนักเตะที่กุนซือรับมือยากที่สุดคนหนึ่งในวงการลูกหนัง และมีไม่กี่คนนักหรอกที่ซลาตันให้ใจเต็มร้อยยามลงเล่น ซึ่งเป็ป กวาร์ดิโอล่า ไม่ใช่คนๆนั้นแน่นอน เนื่องจากซลาตันมักจะกล่าวโจมตีนายใหญ่แมนเชสเตอร์ ซิตี้อยู่พอสมควร และเหตุการณ์ในนัดที่บาร์ซ่าพบเตริเนเฟ่ เมื่อปี 2010 ก็ชัดเจนว่าทั้งคู่มีปัญหาไม่ลงลอยกันนัก หลังหัวหอกชาวสวีดิชฉุนเฉียวอย่างหนักเมื่อถูกเปลี่ยนตัวออก

 

https://www.youtube.com/watch?v=dhOmIkY8PKc

 

นอกจากนี้ในสมัยที่เขาค้าแข้งกับเอซี มิลานในอิตาลี อิบราฮิโมวิชก็เคยปฏิเสธการโดนเปลี่ยนตัวอีกในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่สอง ซึ่งพบกับ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ เพียงแต่ครั้งนี้ดันได้ผลเพราะเขาได้เล่นจนครบ 90 นาทีเลย แม้ทีมจะตกรอบก็ตาม

 

 

คาร์ลอส เตเบซ

 

 

กองหน้าชาวอาร์เจนไตนเป็นนักเตะตัวหลัก ไม่ว่าจะอยู่กับทีมสีแดงหรือสีฟ้าในแมนเชสเตอร์ แต่ครั้งหนึ่งเขาก็เคยไม่พอใจที่โดนเปลี่ยนตัวอยู่เหมือนกันในเกมที่พบโบลตันเมื่อปี 2010 หลังโรแบร์โต้ มันชินี่ ตัดสินใจเปลี่ยนตัว เจมส์ มิลเนอร์ลงไปแทน เตเบซ ในนาทีสุดท้ายของเกม

 

 

แต่ครั้งนั้นไม่หนักเท่าครั้งต่อมา ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่พบบาเยิร์น มิวนิคในปี 2011 เรือสีฟ้ากำลังตามหลังเสือใต้อยู่ 2 ประตู ทำให้มันชินี่ตัดสินใจเพิ่มแนวรุกอย่างเตเบซไปเพื่อหวังประตูตีตื้น แต่ทว่า หัวหอกแดนฟ้า-ขาวดันไม่ยอมทำตามที่เขาบอก ทำให้อนาคตของเขากับแมนซิตี้ดูมืดมนไปทันที อย่างไรก็ตาม เตเบซกับมันโช่ก็ได้จูบปากคืนดีกันอีกครั้งในหลายเดือนถัดมา และพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองได้ในท้ายที่สุด

 

 

คริสเตียโน่ โรนัลโด้

 

 

ดาวเตะแดนฝอยทองเป็นนักเตะที่ขึ้นชื่อเรื่องกระหายในเกมลูกหนังมากๆ และต้องการจะลงเล่นเท่าที่เขาทำได้ แต่บางครั้งด้วยแท็คติกและอะไรหลายๆอย่าง ทำให้เขาต้องโดนถอดสนามในบางครั้ง ซึ่งครั้งหนึ่งตอนค้าแข้งกับปีศาจแดง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ถอดโรนัลโด้ออก และให้เวย์น รูนี่ย์เข้าไปลงสนามแทน แม้เขาจะไม่พอใจ แต่ก็ยอมออกมาแต่โดยดี เนื่องจากเกรงใจเฟอร์กี้ พร้อมออกมาขอโทษกับพฤติกรรมครั้งนั้นในภายหลังด้วย

 

https://www.youtube.com/watch?v=HD3Y05o4LFo

 

กับเรอัล มาดริด โรนัลโด้ทำกิริยาก้าวร้าวหลังโดนเปลี่ยนตัวอยู่มากกว่าตอนค้าแข้งในอังกฤษหลายเท่า โดยเฉพาะในยุคที่ซีเนดีน ซีดาน คุมทัพ โลส บลังโกส อยู่ ซึ่งกัปตันทีมชาติโปรตุเกสเคยไม่พอใจถึงขั้นไม่มองหน้าซีดานและเดินตรงไปที่ม้านั่งสำรองมาแล้ว

 

 

ลิโอเนล เมสซี่

 

 

ชายผู้เป็นทุกอย่างให้กับบาร์เซโลน่าตลอดช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ลิโอเนล เมสซี่ พาทีมคว้าแชมป์ระดับต่างๆมากมาย เรียกได้ว่าเป็นทุกอย่างของสโมสรจากแคว้นกาตาลันเลยก็ว่าได้ และคำกล่าวที่ว่า ไม่มีนักเตะคนไหนใหญ่ไปกว่าโค้ชหรือสโมสร ดูท่าจะใช้ไม่ได้กับสตาร์ร่างเล็กรายนี้

 

ในเกมที่เจ้าบุญทุ่มเอาชนะเออิบาร์ในลีกไป 3-0 ในเดือนตุลาคมปี 2014 หลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือของทีมในตอนนั้นได้ตะโกนเรียกเมสซี่เพื่อจะได้ทำการเปลี่ยนตัว แต่ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์กลับแสดงท่าทีนิ่งเฉยและยกนิ้วโป้งให้ ก่อนที่กุนซือชาวสแปนิชจะหันไปถอด เนย์มาร์ แข้งดังอีกคนออกมาแทน

 

 

 

อาร์เยน ร็อบเบน

 

 

ในสายตาแฟนบอล ร็อบเบนเป็นนักเตะที่มีอารมณ์ขันพอสมควร เพราะไม่ว่าทำอะไรในทีม เขามักจะเรียกเสียงหัวเราะให้เพื่อนร่วมทีมได้เสมอยามอยู่ในทีมเสือใต้ แต่มีเหตุการณ์นึงที่ทำเขาเสียมาดแข้งสายฮาไปอยู่พักนึง

 

 

ในเกมที่บาเยิร์น มิวนิคพบโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค คาร์โล อันเชล็อตติตัดสินใจเปลี่ยนตัวแข้งจอมพริ้วชาวดัชต์ออกในนาทีที่ 85 ซึ่งใครๆก็รู้ได้ทันทีว่าตัวร็อบเบนไม่พอใจเป็นอย่างมาก และเขาไม่ยอมจับมือกับกุนซือชาวอิตาเลี่ยนแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่แฟนน่าจะจดจำได้มากกว่าคือ แข้งเสือใต้ตรงซุ้มม้านั่งสำรองของเสือใต้กลับนั่งหัวเราะหลังเห็นการกระทำที่ไม่ต่างจากเด็กงอแงของร็อบเบน โดยมีชาบี อลอนโซ่ ปลอบใจอยู่ข้างๆ  

 

 

เมซุต โอซิล

 

 

ณ ตอนนี้ โอซิลดูไม่ค่อยมีอนาคตกับทีมของอูไน เอเมอรี่ซักเท่าไหร่ หลังแข้งชาวเยอรมันแทบไม่มีโอกาสลงเล่นให้อาร์เซน่อลเลย บ่อยครั้งที่กุนซือเลือดกระทิงอ้างว่าการที่โอซิล ไม่ได้ลงสนามเป็นเพราะแท็คติกล้วนๆ ไม่ก็ป่วยจนไม่สามารถลงสนามได้ แต่บางทีมันเป็นเพราะการกระทำในครั้งนั้นก็เป็นได้…

 

 

อดีตกองกลางเรอัล มาดริดถูกเปลี่ยนตัวในครึ่งหลัง ในเกมที่ปืนใหญ่เสมอกับคริสตัล พาเลซ 2-2 เมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา เมื่อโดนเปลี่ยนตัวออก แม้จะสัมผัสมือกับเอเมอรี่เหมือนปกติ แต่โอซิลก็ทำท่าทีฉุนเฉียว โยนข้างของทีมทันที จากนั้นก็ทำท่าทีคล้ายว่ากำลังบ่นนายใหญ่อาร์เซน่อลอยู่ นี่น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมหลักของเอเมอรี่ล่ะมั่ง?

 

 

อเด็ม ลายิช

 

 

อเด็ม ลายิชถือเป็นนักเตะที่น่าจับตามองคนหนึ่งในสมัยที่เขาเพิ่งเข้ามาค้าแข้งในเซเรียอาครั้งแรกกับ ฟิออเรนติน่า โดยย้ายมาร่วมด้วยค่าตัว 8 ล้านยูโร ในเดือนมกราคมปี 2010 แต่มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เขากลายเป็นที่จดจำของแฟนบอลไปทั่วโลกอย่างปฏิเสธไม่ได้เลย

 

ทีมม่วงมหากาฬกำลังโดนทีมน้องใหม่อย่าง โนวาร่านำไปก่อนถึง 2-0 ทำให้ เดลิโอ รอสซี่ตัดสินใจเปลี่ยนตัวแข้งชาวเซิร์บออก ซึ่งเขาก็ดูไม่พอใจเท่าไหร่นักกับการเปลี่ยนตัว แต่ก็ยอมเดินออกมา พร้อมกับปรบมือประชดประชันไป 2-3 ที แต่กุนซือชาวอิตาลีก็พุ่งเข้าชกหน้าลายิชทันที ส่งผลให้รอสซี่โดนแบนจากสโมสรและถูกปลดจากการเป็นกุนซือในเวลาต่อมา

 

 

ตัวรอสซี่ก็ออกมาให้เหตุผลที่ทำแบบนั้นว่า ลายิชกล่าวคำหยาบคายแก่ครอบครัวของเขา แต่ทว่า วารอน เบรามี่ เพื่อนร่วมทีมที่อยู่ตรงม้านั่งสำรองกลับบอกว่า ไม่ได้ยินลายิชพูดอะไรซักคำ นอกจากปรบมือให้เท่านั้น

 

 

มิโด้

 

 

แฟนบอลมิดเดิลสโบรห์จดจำได้อย่างดีว่า มิโด้ ล้มเหลวกับทีมและการค้าแข้งในแดนผู้ดีมากแค่ไหน แต่ในทีมชาติอิยิปต์เขาถือเป็นนักเตะตัวหลักของทีมในการทำศึกใหญ่ๆระดับทวีปมาตลอด แต่ก็มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาหายหน้าไปจากทัพมัมมี่ เนื่องจากการกระทำของเขาเอง

 

มิโด้พาทีมเข้ารอบรองชนะเลิศในศึกแอฟริกัน เนชั่น คัพ กับทีมเซเนกัล ในปี 2006 และได้โต้เถียงกับ  ฮาซซาน เชฮาต้า เฮ้ดโค้ชของทีมอิยิปต์กันอย่างหนักหลังไม่เห็นด้วยที่ถูกเปลี่ยนตัวออก และในวันต่อมา มิโด้ก็ถูกแบนจากสโมสรไปถึง 6 เดือนจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในครั้งนั้น แม้เจ้าตัวจะขอโทษขอโพยกับ เชฮาต้า แล้วก็ตาม