ยังไหวหรือไม่น่ารอด : วิเคราะห์ฟอร์ม โจ ฮาร์ท นับตั้งแต่บอกลาเรือใบ

 

เชื่อว่าหลายคนอาจไม่ทราบว่า โจ ฮาร์ท ไม่ได้ลงสนามในพรีเมียร์ลีก มานานกว่า 2 ปีแล้ว แม้จะมีดีกรีเป็นถึงผู้เคยคว้าแชมป์ลีกแดนผู้ดี 2 สมัยเลยก็ตาม

 

และนายด่านชาวอังกฤษ ยังคงต้องรอต่อไป แม้ก่อนเกมพบ อาร์เซน่อล คืนวันอาทิตย์นี้จะรายการงานว่า ฮูโก้ โยริส นายทวารมือหนึ่งของ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ แต่สุดท้าย โยริส ก็ยังพร้อมลงเฝ้าเสาต่อไป

 

อย่างไรก็ตาม อดีตมือหนึ่งทีมชาติอังกฤษ ลงเล่นในลีกสูงสุดครั้งสุดท้ายในวันบ็อกซิ่ง เดย์ ปี 2018 กับเกมที่ เบิร์นลี่ย์ พ่ายในนรังแก่ เอฟเวอร์ตัน ยับเยิน 5-1 ขณะที่ฤดูกาลที่แล้ว เขายังได้ลงเฝ้าเสาให้ สเปอร์ส แค่นัดเดียวในเกมลีก คัพเท่านั้น

 

จากที่เคยเป็นตัวหลักใน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชีวิตค้าแข้งของ ฮาร์ท ค่อย ๆ ดิ่งลงไปหลังการมาของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จนต้องระเห็จไปเล่นกับ โตริโน่, เวสต์แฮม และ เบิร์นลี่ย์ ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จเลย แต่ยังดีที่ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือไก่เดือยทอง ยังมองเห็นศักยภาพและประสบการณ์ที่เขามึจึงเซ็นสัญญาดึงเขามาร่วมทีม

 

ฮาร์ท ได้ลงเล่นสม่ำเสมอในศึก ยูโรป้า ลีก ฤดูกาลนี้ แต่ถ้าหาก โยริส พลาดเกม นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ จริงๆ เหล่า ยิด อาร์มี่ ทั่วโลก คงตั้งคำถามไม่น้อยว่า ฮาร์ท จะดีพอกับทีมรักของเขาหรือไม่ โดยเฉพาะกับฟอร์มการเล่นของ ฮาร์ท ที่ดูไม่จืดในเกมบุกไปเสมอ ลินส์ 3-3 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

 

ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงทำการวิเคราะห์ฟอร์มของ จอมหนึบวัย 33 ปี นับตั้งแต่ลาถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยมว่าเขาดีพอที่จะลงให้ สเปอร์ส แทนที่ โยริส รวมถึงเวทีพรีเมียร์ลีกในตอนนี้หรือไม่

 

 

อยู่ทีมเล็กยิ่งเสียประตู

 

 

ตลอด 266 เกมพรีเมียร์ลีก ที่ลงเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฮาร์ท เสียประตูไปทั้งหมด 261 ลูก คิดเป็นค่าเฉลี่ย 0.99 ลูกต่อ 90 นาที และเก็บได้ทั้งหมด 109 คลีนชีท

 

กับช่วงที่ดีที่สุดในการพา เรือใบสีฟ้า คว้าแชมป์ 2 สมัย (ฤดูกาล 2011-12 และ 2013-14) เขาเก็บคลีนชีทได้ถึง 30 นัดจาก 69 นัด เสียไป 59 ลูก ซึ่งมีค่าเฉลี่ยเสียประตู 0.85 ลูกต่อเกม

 

กับโตริโน่ แม้ทีมจะจบฤดูกาลด้วยอันดับ 9 แต่เกมรับของ ‘กระทิงหิน’ ก็ถูกตั้งคำถามไม่น้อยยามที่ ฮาร์ท ลงเฝ้าเสาให้ โดยเขาเสียประตูไป 62 ลูก จากการลงเล่น 32 นัด และมีค่าเฉลี่ยเสียประตูสูงถึง 1.72 ลูกต่อเกม

 

ตัวเลขเหล่านั้นแย่ลงอย่างต่อเนื่องกับ เวสต์แฮม ในฤดูกาล 2017-18 เมื่อเสียประตูถึง 39 ลูกจาก 19 นัด (2.05 ลูกต่อเกม) ต่อมากับ เบิร์นลี่ย์ ฮาร์ทก็ถลุงไป 41 ลูก จาก 19 นัดที่เป็นตัวจริง (2.16 ลูกต่อเกม) พร้อมกับเก็บคลีนชีทได้เพียง 4 และ 5 นัดใน 2 ฤดูกาลตามลำดับ

 

นั่นคงเป็นสิ่งที่กดดัน ฮาร์ท พอสมควร เนื่องจากก่อนหน้านี้ เขายังเล่นให้กับหนึ่งในสโมสรที่มีเกมรับแข็งแกร่งที่สุดในลีก และเอาชนะทีมครึ่งล่างตารางได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ดังนั้นการที่เขาเสียประตูมากขึ้นจึงเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ผิดปกติอะไร

 

และบางทีการได้ยืนด้านหลังแนวรับของ สเปอร์ส ซึ่งปัจจุบันมีสถิติเสียประตูน้อยที่สุดในลีก น่าจะช่วยเรียกความมั่นใจเขาได้พอสมควร

 

 

สถิติเซฟประตูที่ลดลง

 

 

ย้อนกลับไปในช่วงที่พีกที่สุด ฮาร์ท มีเปอร์เซนต์การเซฟโดยปกติสูงถึง 75% หรือมากกว่านั้น โดยเซฟได้ถึง 78% ในปีที่ ซิตี้ คว้าแชมป์ลีกฤดูกาล 2011-12 ซึ่งเทียบเท่ากับสมัยที่เขาเฝ้าเสาให้ เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ แบบยืมตัวในฤดูกาล 2009-10 โดยเขาเจอกับลูกยิงตรงกรอบ 196 ครั้ง และเซฟไป 154 หน

 

แต่สถิติเหล่านั้นตกมาอยู่แค่ 66% ในปีสุดท้ายกับ ซิตี้ และยังเป็นระดับนี้ไล่เรี่ยนับตั้งแต่นั้นเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยเซฟไป 66% กับ โตริโน่, 60% กับ เวสต์แฮม ก่อนที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 65% กับ เบิร์นลี่ย์

 

ตัดภาพกลับมาที่ สเปอร์ส ในศึกยูโรป้า ลีก ฤดูกาลนี้ ฮาร์ท โดนล่อเป้าไปทั้งหมด 13 ครั้ง จาก 4 เกมในรอบแบ่งกลุ่ม เสียไป 4 ประตู และมีสถิติการเซฟอยู่ที่ 69% จากการอ้างอิงของ FBref.com  

 

 

จุดอ่อนการออกบอล

 

 

ณ เวลาส่วนใหญ่ใน แมนซิตี้ ฮาร์ท มีเปอร์เซนต์การจ่ายบอลสำเร็จเพียง 44% (2009-10) ไปจนถึงมากที่สุดที่ 58% (2012-13) เท่านั้นจากการอ้างอิงสถิติของ WhoScored นี่จึงอธิบายได้ว่า ทำไม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จึงมองหานายด่านคนใหม่แทนที่ ฮาร์ท ตั้งแต่ปีแรกที่เข้ามาคุมเทีมใน เอติฮัด สเตเดี้ยม

 

ความแม่นยำในการจ่ายบอลของเขา ยามเล่นให้ เบิร์นลี่ย์ และ เวสต์แฮม ก็ไม่ได้ดูโดดเด่นกว่าตอนเฝ้าเสาให้ ซิตี้ เท่าไหร่นัก เมื่อทำไปเพียง 45% และ 44% ตามลำดับ

 

และเพื่อให้มองเห็นภาพรวมชัดขึ้น เอแดร์ซอน โมราเอส นายด่านคนปัจจุบันของ ซิตี้ มีเปอร์เซนต์การจ่ายบอลสำเร็จสูงถึง 80% ขณะที่ แบรนด์ เลโน่ มือหนึ่งจาก อาร์เซน่อล ทำไปถึง 83% เลย

อย่างไรก็ตาม ถือเป็นโชคดีสำหรับ ฮาร์ท ที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ไม่ใช่กุนซือที่เน้นหรือโฟกัสกับการออกบอลตั้งแต่หน้าปากประตูแดนตัวเอง แม้ว่า โยริส จะมีเปอร์เซนต์การจ่ายบอลแม่นยำใช้ได้ที่ราว ๆ 72% ก็ตาม

 

เพราะฉะนั้น โอกาสที่ ฮาร์ท จะเฝ้าเสาให้กับ สเปอร์ส ก็ยังมีอยู่ไม่น้อย ถึงจะได้ลงเล่นในเกมบอลถ้วยเป็นหลัก แต่หาก โยริส ไม่พร้อมจริง ๆ กุนซือชาวโปรตุกีส ก็พร้อมส่งเขาลงสนามอย่างแน่นอน 

 

เพียงแต่คงต้องกลับไปเป็นตัวสำรองเช่นเดิม เมื่อไหร่ที่ นายด่านทีมชาติฝรั่งเศส กลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้งในเกมสำคัญของฤดูกาลนี้