ยิงเหมือนแค้น! 10 เกมถล่มคู่แข่งยับในแต่ละรายการ

 

หลังจากที่แพ้ ลิเวอร์พูลมาในศึก แชมเปี้ยนส์ลีก ยักษ์ใหญ่แห่งศึก เอเรดิวิซี่ ก็กลับมารบายอารมณ์ใส่คู่แข่งร่วมลีกอย่าง วีวีวี เวลโล ไปมากถึง 13-0 นับเป็นสถิติสูงสุดของลีกแดนกังหันไปในทันที แถมยังเป็นการแจ้งเกิดของ ลาสซิน่า ตราโอเร่ กองหน้าดาวรุ่งเด็กปั้นของสโมสร ที่ทำคนเดียว 5 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ 

 

วันนี้ UFA ARENA จะพาไปชมเกมมที่มีการยิงกันถล่มทลายเหมือนโกรธแค้นกันมาก่อนในแต่ละรายการแข่งขัน รวมถึงในไทยลีกบ้านเราด้วย กับ 10 เกมถล่มคู่แข่งยับในแต่ละรายการ

 

ลีกเอิง | เปแอสเช 9-0 แก็งก็อง

ลีกแดนน้ำหอมเป็นที่รู้จักกันดีว่าปารีส แซงต์ แชร์กแมง แทบจะเป็นทีมที่ผูกขาดชัยชนะตั้งแต่กลุ่มทุนจากกาตาร์เข้ามาเทคโอเวอร์ พวกเขาก็ก้าวมาเป็นมหาอำนาจทันที ซึ่งเกมที่พวกเขาไล่ถล่มคู่แข่งมากที่สุดในลีกมีอยู่ 2เกม เกมแรกเกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 2018/19 ที่ผ่านมา กับการเปิดบ้านถล่ม แก็งก็องไป 9-0 ซึ่งมีนักเตะทำแฮตทริคไปสองรายได้แก่ เอดินสัน คาวานี และคีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ นอกจากนี้เกมดังกล่าวยังเป็นการล้างแค้นเพราะก่อนหน้านี้ แก็งก็องเพิ่งเขี่ย เปแอสเช ตกรอบ เฟรนช์ ลีก คัพ ไปด้วยสกอร์ 2-1 มาหมาดๆ

 

ส่วนอีกเกมเกิดขึ้นในฤดูกาล 2015/16 ที่ฝั่งเปแอสเชบุกไปถล่ม ทรัวส์ ถึง 9-0 ซึ่งเกมนั้น ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยิงคนเดียวถึง 4ประตู แต่นอกจากยอดทีมจากกรุงปารีส ก็ยังมีอีกทีมที่สามารถยิงคู่แข่งด้วยสกอร์ 9-0 เช่นกันนั่นก็คือโมนาโก ที่เคยยิงใส่ บอร์กโดซ์ เมื่อฤดูกาล 1985/86

 

 

พรีเมียร์ลีก | เซาธ์แฮมป์ตัน 0-9 เลสเตอร์ ซิตี้

เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไปหมาดๆก่อนหน้าที่อาแจ๊กซ์จะมาถล่มคู่แข่งโชว์ เมื่อเลสเตอร์ ซิตี้ บุกไปถล่มใส่ เซาธ์แฮมป์ตันมากถึง 9-0 ในฤดูาล 2019/20 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการทำลายสถิติไปถึง 2สถิติ อย่างแรกคือสถิติชนะสูงสุดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่อัด อิปสวิชไป 9-0 เมื่อฤดูกาล 1994/95

 

นอกจากนี้จิ้งจอกสยามยังกลายเป็นทีมเยือนที่บุกไปเก็บชัยชนะขาดลอยมากที่สุดในประวัติศาสตร์รอบ 131 ปี โดยเจ้าของสถิติเดิมเป็นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เคยบุกไปชนะน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 8-1 ในปี 1999 ซึ่งในเกมดังกล่าวเป็นการทำแฮตทริคของทั้ง เจมี่ วาร์ดี้ และ อาโยเซ เปเรซ อีกด้วย

 

 

กัลโช่ เซเรียอา | โตริโน่ 10-0 อเลสซานเดรีย

แม้จะเป็นลีกที่ขึ้นชื่อเรื่องเกมรับที่เหนียวแน่น แต่ก็ยังมีการยิงถล่มคู่แข่ขาดลอย ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นในฟุตบอลยุคปัจจุบัน แต่เกิดในฤดูกาล 1947/48 ที่เป็นการเจอกันของแชมป์เก่าอย่าง โตริโน่ เปิดบ้านพบกับ อเลสซานเดรีย ที่ก่อนหน้านี้ก็แพ้ทีมใหญ่อย่าง อินเตอร์ มิลาน และ ยูเวนตุส มาเละเทะ 6-0 และ 6-1 ตามลำดับ โดยพวกเขาจัดการกดไปได้ถึง 10-0 ซึ่งบทสรุปของซีซั่นนั้น พวกเขาก็ต้องตกชั้นไปตามระเบียบ ส่วนทัพกระทิงหินก็ฟอร์มดีต่อเนื่องและก้าวไปเป็นแชมป์สมัยที่ 2 ติดต่อกัน แถมในฤดูกาลนั้นพวกเขาเดินหน้ายิงคู่แข่งไปได้ถึง 125 ประตู และเสียเพียง 33ประตูเท่านั้น โดยสถิติ 125ประตู ยังไม่เคยมีใครทำลายได้จนถึงปัจจุบัน

 

ลาลีกา | แอตเลนติค บิลเบา 12-1 บาร์เซโลน่า

หากมองชื่อทีม และสกอร์ ก็คงไม่มีใครอยากจะเชื่อว่ามหาอำนาจลูกหนังของลาลีกาในปัจจุันจะเคยเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ในการแพ้ย่อยยับมากที่สุดด้วยสกอร์ 12-1 ซึ่งเป็นการแพ้ให้กับ แอตเลนติค บิลเบา เมื่อปี 1930/31 โดยในสมัยนั้น บิลเบาถือเป็นยอดทีมในแดนกระทิงดุ แถมเพิ่งคว้าแชมป์ลีกไปในฤดูกาลก่อนหน้า และในปีดังกล่าวพวกเขาก็สามารถคว้าแชมป์ไปครองได้เป็นสมัยที่สองติดต่อกัน

 

ส่วนทางด้านทัพต่างดาวพวกเขาคว้าแชมป์ลาลีกาหนแรกในฤดูกาล 1928/29 ก่อนที่ต้องรอคอยถึงปี 1944/45 ถึงจะได้กลับมาชูถ้วยใบนี้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามบาร์เซโลน่า ยังเป็นทีมที่ครองทั้งอันดับ 1 และ 2 ขอทีมที่แพ้คู่แข่งมากสุดในลีก ซึ่งเกมที่สองเกิดขึ้นในปี 1940/41 ที่แแพ้เซบีญ่า 11-1

 

บุนเดสลีกา | โบรุสเซีย มึนเช่น กลัดบัค 12-0 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

โบรุสเซ่น ดาร์บี้ ในสมัยที่ทัพสิงห์หนุ่มเรืองอำนาจ ฝั่งเสือเหลืองแทบจะสู้ไม่ได้เลย ย้อนไปในปี 1977/78 กลัดบัคที่เพิ่งคว้าแชมป์บุนเดสลีกามา 3สมัยติด เริ่มต้นฤดูกาลได้ไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ยังคงรักษาฟอร์มเก่งไว้ได้ และมาแรงในช่วงครึ่งหลัง ซึ่งในเเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล พวกเขาก็จัดการคู่แข่งอย่าง ดอร์ทมุนด์ไปเละเทะถึง 12-0 แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ได้ และเป็น โคโลญจน์ ที่สามารถแย่งแชมป์ไปจากพวกเขาได้

 

นอกจากนี้พวกเขายังครองอันดับสองของทีมที่ไล่อัดคู่แข่งสูงสุดของเมืองเบียร์จากการที่เคยเอาชนะ ชาลเก้ในปี 1966/67 ด้วยสกอร์ 11-0 ก่อนที่พวกเขาจะมาทำลายสถิติของตัวเองในเวลาต่อมา

 

 

ยูโรป้าลีก | โอลิมปิค ลียง 7-1อาร์แซด อัคมาร์

หลังจากที่ลียงผิดหวังตกรอบแบ่งกลุ่มมาจากแชมเปี้ยนส์ลีก พวกเขาก็ได้สิทธิ์ลงมาเล่นบนเวทียูโรป้าจากการเป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม ซึ่งพวกเขาก็ได้เข้ามาเล่นในรอบ 32ทีม พบกับ อาแซด อัลค์มาร์ ทีมจากลีกฮอลแลนด์ ซึ่งเมื่อมาถึงพวกเขาก็จัดการอัดไปก่อนในเกมแรก 4-1 ก่อนที่จะได้กลับมาเล่นในบ้านตัวเองและกดไปอีก 7-1 จนสกอร์รวมกลายเป็น 11-2 ผ่านเข้ารอบต่อไป ซึ่งพวกเขาก็สามารถทะลุไปได้ถึงรอบรองชนะเลิศ

 

อ่างไรก็ตามหากนับเป็นสกอร์รวมลียงยังไม่ใช่ทีมที่ชนะคู่แข่งมากที่สุด แต่เป็นบาเลนเซียที่กด ราปิด เวียนนา ไปด้วยสกอร์รวม 11-0 แบ่งเป็นเกมแรก 6-0 และ เกมที่สองอีก 4-0 แต่พวกเขาไปได้ไม่ไกลเท่าไรนักเพราะทัพค้างคาวตกรอบในรอบถัดไปจากการไปแพ้คู่แข่งร่วมลีกอย่าง แอตเลนติค บิลเบา

 

แชมเปี้ยนส์ลีก | ลิเวอร์พูล 8-0 เบซิคตัส

สำหรับในส่วนของแชมเปี้ยนส์ลีกได้นับเฉพาะหลังจากเปลี่ยนชื่อจาก ยูโรเปี้ยนคัพ มาเป็นแชมเปี้ยนส์ลีกในปัจจุบัน ซึ่งทีมที่สามารถเอาชนะคู่แข่งได้แบบถล่มทลายก็คือ ลิเวอร์พูล ที่กด เบซิคตัสไปมากถึง 8-0 ในปี2007/08 โดยนี้นับแค่ในรอบน๊อคเอ้าท์เท่านั้น แต่ถ้านับในรอบแบ่งกลุ่มด้วยสถิติจะเป็นของ เอซเจเค เฮลซิงกิ ที่อัด บังกอร์ ซิตี้ ไป 10-0 ในรอบคัดเลือกรอบ 2 ของฤดูกาล 2011/12

 

ส่วนถ้านับเป็นสกอร์รวม ทีมที่ไล่อัดคู่แข่งได้มากที่สุดได้แก่ บาเยิร์น มิวนิคที่ยิงใส่ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ไปถึง 12-1 ในรอบ 16ทีมของฤดูกาล 2008/29 แบ่งเป็นเกมแรก 5-0 และเกมที่สอง 7-1

 

https://www.youtube.com/watch?v=M-HysgttDPU

 

ฟุตบอลโลก | ฮังการี 10-1 เอลซัลวาดอร์

ในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเรามักจะได้เห็นบรรดาชาติมหาอำนาจส่งนักเตะระดับแถวหน้าของตัวเองมาลงฟาดแข้งกัน แต่บางครั้งในรอบแบ่งกลุ่มก็จะมีชาติเล็กๆที่สามารถทะลุเข้ามาเล่นให้เห็นอยู่บ้าง ซึ่งทีมที่โชคร้ายมาติดในอันดับนี้ก็ได้แก่ เอลซัลวาดอร์ ที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามาเจอกับ ฮังการี ที่อยู่กลุ่มเดียวกันในศึกฟุตบอลโลก 1982 ซึ่งในกลุ่มนั้นก็มีทั้ง เบลเยี่ยม และ อาร์เจนติน่ารวมอยู่ด้วย และถ้านับกันจริงๆ ฮังการี เองก็ไม่ได้มีภาษีดีกว่ามากมายอะไร 

 

แต่สกอร์ที่เกิดขึ้น 10-1 นับเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก ที่จนปัจจุบันก็ไม่มีใครทำลายได้ แม้ในปีนั้น ฮังการีจะตกรอบไปพร้อมกับ เอลซัลวาดอร์ ก็ตาม แต่พวกเขาก็ได้ชื่อว่าเป็นทีมที่ยิงเกิน 2 หลักในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายทีมแรกและทีมเดียวจนถึงตอนนี้

 

 

อย่างไรก็ตามหากนับไปลึกถึงรอบคัดเลือก ก็มีอีกสถิติที่เป็นการเชือดคู่แข่งระดับชาตินั่นคือเกมฟุตบอลโลก 2002 รอบคัดเลือก โซนโอเชียเนีย ที่ออสเตรเลียซึ่งเป็นมหาอำนาจหนึ่งเดียวของภูมิภาค ไล่ยิงคู่แข่งอย่าง อเมริกัน ซามัว ไปมากถึง 31-0 โดยมี อาร์ชี่ ทอมป์สัน ที่ยิงคนเดียวไปถึง 13ประตู นับเป็นเกมที่ทางฟีฟ่าบันทึกให้เป็นเกมระดับทีมชาติที่ชนะกันขาดลอยมากที่สุด

 

สถิติสูงสุด | เอ.เอส อเดมา 149-0 โอลิมปิก แอลอีมีรีน

ยังอยู่ในปี 2002 แต่รอบนี้เป็นเกมระดับลีกของ มาดากัสการ์ ในเกมที่ เอ.เอส อเดมา ถล่ม โอลิมปิก แอลอีมีรีน ไปถึง 149-0 ซึ่งต้นสายปลายเหตุมันมาจากการที่นักเตะของ โอลิมปิก แอลอีมีรีน ประท้วงทางสมาคมฟุตบอลที่ทำให้พวกเขาเสียจุดโทษอย่างน่ากังขาในเกมก่อนหน้า จึงจัดการยิงประตูใส่ทีมตัวเองกันอย่างสนุกเท้า แน่นอนว่ามันส่งผลให้ทั้งนักเตะ , ผู้จัดการทีม และบรรดาสต๊าฟต่างๆโดนโทษแบนกันไปตามๆกัน แต่สกอร์ดักล่าวแม้จะมาจากเรื่องไม่เป็นเรื่องแต่ก็ถูกรับรองให้เป็นสถิติโลกลูกหนังที่มีการชนะกันขาดที่สุด ซึ่งนอกจากจะเป็นการชนะขาดลอยที่สุดแล้ว น่าจะเป็นสถิติที่มีการยิงเข้าประตูตัวเองมากสุดอีกด้วย

 

ไทยลีก | เมืองทองยูไนเต็ด 9-1 จัมปาศรี ยูไนเต็ด

ตัดมาที่ศึกไทยลีกบ้านเรากันบ้าง ย้อนไปในช่วงที่เมืองทอง ยูไนเต็ด ขับเคี่ยวแย่งแชมป์กันกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2017 พวกเขาได้จารึกสถิติยิงคู่แข่งอย่าง จัมปาศรี ยูไนเต็ด หรือในเวลานั้นที่ใช้ชื่อว่า โอสถสภา m150 ไปถึง 9-1 แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไปไม่ถึงแชมป์ไทยลีก จากการที่โดน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แย่งไปในปีนั้น 

 

นอกจากนี้ โอสถสภา m150ทีมเดียวกันที่แพ้กิเลนผยองเละเทะ ก็ยังไปแพ้ทั้ง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 8-0 , แพ้ สมุทรปราการ ซิตี้ 9-2 และ แพ้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอีก 7-0 ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นในฤดูกาลเดียวกัน นับเป็นทีมที่แพ้เละเทะมากที่สุด 4อันดับแรกของการจัดอันดับเลยทีเดียว