ยิ่งกว่าคำว่ากระจอก! รวม 9 บุคคลจอมเหยียดแห่งวงการลูกหนัง

 

ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ไม่มีแฮชแท็กไหนเป็นที่พูดไปมากกว่า #ผู้กองเบนซ์ หลังขึ้นเทรนด์อันดับ 1 บนโลกทวิตเตอร์ในประเทศไทย

 

เรื่องนั้นเริ่มมาจากคลิปวีดีโอหนึ่งของ ผู้กองเบนซ์ มีเนื้อหาที่พยายามจูงใจว่าโรคโควิด-19 ไม่ใช่วิกฤต แต่ผู้คนไม่ยอมปรับตัวในช่วงลำบาก ทว่าชาวเน็ตหลายคนต่างแสดงความคิดเห็นเชิงไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ และมีไม่น้อยที่รู้สึกว่าโดนดูถูกจากคำแนะนำของไลฟ์โค้ชชื่อดัง จนตัวเจ้าต้องออกมาขอโทษในภายหลังผ่านโซเชียล มีเดีย

 

ขณะที่ในวงการฟุตบอล คำพูดดูถูกเหยียดหยามก็มีให้เห็นกันอยู่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นจากนักเตะด้วยกันเอง หรือกุนซือชื่อดังทั้งในอดีตกับปัจจุบันที่เหน็บแนมกันไปมาจนบ้างครั้งก็กลายเป็นเรื่องใหญ่โต

 

UFA ARENA จึงขอนำเสนอ 9 บุคคลจอมเหยียดที่เคยพลั้งปากดูถูกคนในวงการ ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจ หรือ จงใจด่าก็ตาม

 

 

หลุยส์ อาราโกเนส  

 

 

หลุยส์ อาราโกเนส เป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมระดับตำนานของทีมชาติสเปน ผู้เป็นจุดเริ่มต้นยุคทองของทัพกระทิงดุ แต่ในช่วงแรกที่คุมทีมเมื่อปี 2004 เขามีการกระตุ้นลูกทีมที่แปลกประหลาดกว่าชาวบ้านพอสควร

 

“บอกไอ้มืดนั่น (เธียร์รี่ อองรี) ว่านายดีกว่ามัน ไม่ต้องเก็บไว้ บอกไปเลย บอกว่ามาจากฉัน นายต้องเชื่อมั่นในตัวเอง นายดีกว่าไอ้มืดนั่นเยอะ” กุนซือผู้ล่วงลับกล่าวกับ อันโตนิโอ เรเยส สมัยที่ค้าแข้งกับ อาร์เซน่อล

 

อย่างไรก็ตาม อดีตนายใหญ่ แอตเลติโก้ มาดริด ได้ออกมายืนยันว่าเขาไม่ใช่พวกเหยียดผิวแต่อย่างใด เนื่องจากเขาเป็นคนทำให้ มาร์กอส เซนน่า เป็นแข้งผิวสีคนแรกในทีมชาติสเปน

 

 

รอน แอ็ตกินสัน

 

 

ในระหว่างเกมนัด โมนาโก พบ เชลซี ของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบตัดเชือกนัดแรก นักวิเคราะห์เกมของช่อง ITV อย่าง รอน แอ็ตกินสัน ที่มีดีกรีเป็นถึงอดีตผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดันพ่นเรื่องที่ไม่สมควรออกอากาศออกมา โดยที่เขาไม่รู้ตัวว่าไมค์ยังเปิดอยู่

 

“เขาเป็นที่รู้จักในบางโรงเรียนว่าเป็นพวกไอ้มืดขี้เกียจสันหลังยาว” อดีตกุนซือปีศาจแดงพูดถึง มาร์เซล เดอไซญี่ กองหลังตัวเก่งของสิงห์บลู

 

หลังจากนั้น แอ็ตกินสัน ถูกช่อง ITV ถอดออกจากรายการ รวมถึงถูก เดอะ การ์เดี้ยน ยกเลิกสัญญากับคอลัมน์ด้วย แต่ คาร์ลตัน พัลเมอร์ อดีตแข้งเวสต์บรอม ก็ออกมาปกป้องนายเก่าว่าไม่พวกเหยียดแต่อย่างใด

 

นอกจากนี้ในปีเดียวกัน แอ็ตกินสัน ยังแสดงคิดเห็นเชิงเหยียดชาวจีนอย่างมากว่า “คนจีนมีการคุมกำเนิดที่ดีที่สุดในโลก ผู้หญิงของพวกเขาน่าเกลียดมากๆ ผมไม่เข้าใจจริงๆได้ว่าทำไมถึงมีแบบนี้หลายคน”

 

 

โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์

 

 

นายทวารตัวเก่งของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ ถูกสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมันสั่งแบน 3 นัด หลังมีการสอบสวนพบว่าเขาพูดจาเหยียดใส่ เกรัลด์ อซาโมอาห์ แข้งเชื้อสายกาน่าที่เกิดในเมืองเบียร์ว่า ’ไอ้หมูดำ’

 

หอกของชาลเก้ 04 ที่เป็นนักเตะผิวสีคนแรกในทีมชาติเยอรมัน ได้กล่าวถึงเรื่องนี้อย่างมีชั้นเชิงว่า “ในช่วงเวลาที่ดุเดือดแบบนี้ คำพูดต่างๆที่ทำให้คนเสียใจภายใจภายหลังมักเกิดขึ้นบ่อยๆ และความตึงเครียดก็สูงมากในเกมนั้น”

 

“แต่เมื่อได้ยินอะไรแบบนั้น มันทำให้ผมผิดหวังจริงๆ เขาเสียใจที่พูดแบบนั้นออกไป และเขาขอโทษผมในระหว่างเกมแล้ว แต่ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมรับหลังเกมจบ เขาควรจะพูดความจริง”

 

 

หลุยส์ ซัวเรซ 

 

 

ไม่มีปฏิเสธว่า หลุยส์ ซัวเรซ เป็นกองหน้าที่เก่งกาจเพียงใดในยุคปัจจุบัน แต่พฤติกรรมส่วนตัวของเขาในบางครั้งทำให้หลายคนมองเขาในแง่ไม่ดีเท่าไหร่

 

ไม่ว่าจะปัดบอลข้ามเส้น, กัดแขนคู่แข่งถึง 3 ครั้ง และหนักสุดคงเป็นกรณีที่เหยียดผิว ปาทริซ เอวร่า ในช่วงที่ค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล จนถูกเอฟเอ แบน 8 นัด และปรับเงินกว่า 40,000 ปอนด์เป็นการลงโทษ

 

อย่างไรก็ตาม อดีตแบ็คซ้ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยืนยันว่าตนเองไม่ได้เกลียดหัวหอกบาร์เซโลน่าแต่อย่างใดในปัจจุบัน แม้อยากจะชกเข้าหน้าซักหมัดในตอนนั้นก็ตาม

 

 

เอล ฮัดจิ ดิยุฟ 

 

 

แม้จะเคยค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล แต่ เอล ฮัดจิ ดิยุฟ กลับไม่ได้มีความทรงจำที่ดีนักในถิ่นแอนฟิลด์ แถมยังกล่าวดูถูกตำนานของสโมสรอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด อยู่บ่อยครั้งด้วย

 

“เขาไม่เคยคว้ารางวัลอะไรกับทีมชาติเลย ผมคือ เอล ฮัดจิ ดิยุฟ มิสเตอร์เซเนกัล แต่เขาเป็นแค่ มิสเตอร์ลิเวอร์พูล เซเนกัล ยิ่งใหญ่กว่า ลิเวอร์พูล และเขาก็รู้ดี”

 

ไม่ใช่แค่ เจิด เท่านั้นที่ อดีตดาวเตะโบลตัน หยามหน้า เพราะ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ก็โดนหนักไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยกล่าวว่า “ถ้าเขาไม่ใช่ชาว สเก๊าเซอร์ ชีวิตนี้ก็คงไม่มีทางได้เล่นฟุตบอลหรอก ขอโทษด้วยนะ ผมมีเรื่องจะบอกเขาเท่านี้จริงๆ”

 

“ความแตกต่างระหว่าง เจมี่ กับ ผม ก็คือ ผมเป็นนักเตะระดับโลก ส่วนเขาเป็นแค่ขยะไง”

 

 

เอริค คันโตน่า

 

 

ครั้งหนึ่ง อดีตกองหน้าจอมปรัญชา เอริค คันโตน่า เคยดูถูก ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ กองกลางรุ่นน้องทีมชาติฝรั่งเศสว่า หน้าที่หลักของเขาในสนามคือการจ่ายบอลให้กับผู้เล่นที่เก่งกว่าตัวเองเท่านั้น

 

“เขาไม่เคยทำอะไรไปมากกว่าการเป็นแค่เด็กส่งน้ำเท่านั้น” ก็องโต้ กล่าวถึง เดเด้

 

ฉายา เด็กส่งน้ำ เป็นสิ่งที่กวนใจ เดเด้ จนถึงถูกวันนี้ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็คว้าแชมป์โลกกับทัพตราไก่ ทั้งในฐานะนักเตะ และ ผู้จัดการทีม รวมถึงเป็นกัปตันทีมอายุน้อยที่สุดที่ได้ชูถ้วยยูโรในปี 2000 อีกด้วย

 

 

เซร์คิโอ้ บุสเก็ตส์

 

 

ยูฟ่า ไม่สามารถตั้งข้อหาเหยียดผิวแก่ เซร์คิโอ้ บุสเก็สต์ ได้ เนื่องจากหลักฐานที่มีเพื่อเอาผิดยังอ่อนไป ซึ่งก็คือภาพวีดีโอที่กองกลางบาร์เซโลน่า กล่าวพึมพำภาษาสเปนว่า โมโน โมโน (mono mono) ที่มีความหมายว่า ลิง พร้อมเอามือป้องปากตัวเองไว้

 

แต่ บุสเก็สต์ ได้อ้างว่า เขาไม่ได้พูดแบบนั้น แต่ก็ยอมรับว่าพูดเพื่อเย้าแหย่อารมณ์ของ มาร์เซโล่ แบ็คจอมบุกของ เรอัล มาดริด จริง

 

แต่ถึงอย่างนั้นหลายคนก็ตั้งคำถามว่าทำไม กองกลางชาวสแปนิช จึงต้องปิดปากแบบในวีดีโอด้วย หากเขาแค่พูดเร้าอารมณ์ใส่แข้งบราซิลเลี่ยนเท่านั้น

 

 

มาร์โก มาเตรัซซี่ 

 

 

ซีเนดีน ซีดาน ปิดฉากอาชีพค้าแข้งได้ไม่สวยเท่าไหร่นัก หลังโดนใบแดงในนัดชิงฟุตบอลโลกปี 2006 หลังเอาหัวโขกเข้าเต็มอกใส่ มาร์โก มาเตรัซซี่ กองหลังทีมชาติอิตาลี

 

กรณี “เฮดบัตต์สะท้านโลก” ยังเป็นที่กล่าวขวัญสำหรับวงการลูกหนังโลก และ หลายคนอยากทราบว่าแข้งแดนมักกะโรนีพูดอะไรถึงทำให้ ซิซู เดือดถึงขั้นลงไม้ลงมือแบบนั้น

 

ภายหลังอดีตแข้ง อินเตอร์ มิลาน ได้เปิดเผยถึงเรื่องราวในครั้งนั้นว่า สาเหตุที่ทำให้ อดีตแข้งเรอัล มาดริด ฟิวส์ขาดแบบนั้นเพราะตนเองไปกล่าวล่วงเกินน้องสาวของเขานั่นเอง

 

“ผมไม่ใช่ฝ่ายเริ่มต้นในเรื่องดังกล่าว แม้ผมจะเป็นฝ่ายไปดึงเสื้อ ซีดาน แต่เขาก็ไม่น่าพูดเชิงเหยียดหยามว่า หากอยากได้เสื้อฉันไว้ไปรอแลกกันหลังเกมก็แล้วกัน” มาเตรัซซี่ กล่าวกับ กัซเซ็ตต้า เดลโล่ สปอร์ต สื่อในบ้านเกิด

 

“มันทำให้ผมต้องตอบโต้กลับไปด้วยการพูดว่า ฉันอยากได้น้องสาวของแกมากกว่า แม้มันจะไม่ใช่คำที่ดีนักแต่นั่นก็เป็นคำพูดที่ผมตอบโต้ ซีดาน จริง” 

 

 

โชเซ่ มูรินโญ่ 

 

 

เรื่องลีลาการเหน็บแนบชาวบ้าน หรือกล่าวว่าเสียดสีคู่แข่งแบบใครได้ยินก็รู้สึกเจ็บแสบแทน คงไม่มีใครทำได้โดดเด่นไปกว่า โชเซ่ มูรินโญ่ อีกแล้วในวงการลูกหนังยุคนี้

 

ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมอาชีพในวงการอย่าง อาร์เซน เวนเกอร์ ก็โดนโจมตีว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความล้มเหลว หลังชวดแชมป์มานานหลายปี, อันโตนิโอ คอนเต้ ที่โดนเหน็บเรื่องผมร่วงในสมัยเป็นนักเตะ และอีกหลายคนในวงการ

 

ขณะที่ นักเตะจากทีมต่างๆ เดอะ สเปเชียล วัน ก็หยิบยกมาพูดถึงวิพากษ์วิจารณ์อยู่บ่อย หรือ แม้กระทั่งนักเตะในทีมที่เขาคุมก็โดนสับออกสื่อแบบไม่ไว้หน้ามาแล้วหลายราย เช่น โจ โคล, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ตอนคุมเชลซี, เปเป้ ตอนคุมเรอัล มาดริด, ลุค ชอว์ และอีกหลายคนตอนคุม แมนยูไนเต็ด และ รายล่าสุดอย่าง ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ กับสเปอร์ส