ยิ่งกว่าปาฏิหารย์ : ย้อนรอยเส้นทางสู่ลาลีก้าสุดเหลือเชื่อของ เอลเช่

 

คอบอลหลายคนคงคุ้นชื่อ เอลเช่ อยู่พอสมควร ในฐานะสโมสรที่ขึ้นๆลงๆในลีกสเปนอยู่บ่อยครั้ง แต่ในช่วง 2-3 ปีหลังของสโมสรเต็มไปด้วยเรื่องเหลือเชื่อมากมาย 

 

สโมสรชุดขาวตัดเขียว ที่ตั้งอยู่ใน อาลีคานเต้ ไม่ใช่สโมสรที่แย่ แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรเท่าไหร่ อีกทั้งพวกเขายังวนเวียนอยู่ในลีกรองเป็นส่วนใหญ่ และเพิ่งกลับมาเล่นในลาลีก้าอีกครั้งกับฤดูกาลใหม่นี้ พร้อมกับกำลังมีอายุสโมสรครบ 100 ปี ในปี 2022 นี้

 

แต่ย้อนกลับไปแค่ 2 ปีก่อนหน้านี้ เอลเช่ ย่ำแย่อย่างมาก และมีโอกาสไม่น้อยที่ เอลเช่ จะหายออกไปจากวงการลูกหนังอย่างเช่นสโมสรอื่นๆที่เคยเป็นมาก่อน

 

แต่การมาของ ปาเชต้า กุนซือผู้เคยผ่านจุดตกต่ำของอาชีพโค้ช จนต้องถอยหลังมาตั้งหลักในลีกฟุตบอลเอเชีย กลับสร้างเรื่องน่าเหลือเชื่อด้วยการพาสโมสรเล็กๆในแคว้นบาเลนเซีย เลื่อนชั้นกลับไปเล่นในลีกสูงสุดได้ครั้งแรกในรอบ 5 ปี

 

 ว่าแต่พวกเขาหลบเลี่ยงจากชะตากรรมเหล่านั้นได้อย่างไร รวมถึงสามารถกลับมาขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดของสเปนได้เพราะอะไร ทาง UFA ARENA จะพาไปหาคำตอบผ่านบทความนี้กัน

 

 

การเงินทำพิษ

 

 

จุดเริ่มต้นเรื่องนี้เกิดขึ้นในฤดูกาล 2014-15 ซึ่งก็เป็นเหมือนการผจญภัยส่วนใหญ่ของทีมเล็กๆลาลีก้า หลังพวกเขาที่มีปัญหาด้านการเงิน แม้จะจบที่ 13 ในตาราง เอลเช่ ก็ถูกปรับตกชั้นไปเล่นใน เซกุนด้าเนื่องจากหนี้ที่ยังไม่ได้ชำระให้กับหน่วยงานด้านภาษีของสเปน และทำให้ เอบิอาร์ ทีมอันดับ 18 ที่ควรตกชั้นไปอยู่รอดปลอดภัยแทน

 

ในช่วงฤดูร้อนที่วุ่นวายของปี 2015 ฮาเวียร์ เตบาส ประธานของลาลีก้า พยายามช่วยสโมสรจ่ายค่าลิขสิทธิโทรทัศน์ล่วงหน้าเพื่อให้บอร์ดของ เอลเช่ สามารถชำระหนี้ได้บางส่วน ซึ่งการช่วยเหลือดังกล่าวช่วยทีมไว้อย่างมาก และพวกเขาก็สามารถจ่ายค่าเหนื่อยผู้เล่นได้ หลังจ่าย โจนาทาส สตาร์ดังให้กับ เรอัล โซเซียดาด ด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์ ทว่าสุดท้ายก็ถูกฟ้องล้มละลายในเดือนสิงหาคมปีนั้น

 

สถานการณ์ไม่ดีขึ้นเลยในฤดูกาลต่อมา ในความเป็นจริงมันแย่ลงด้วยซ้ำ อดีตแข้งดังจากบาเลนเซียอย่าง รูเบน บาราฆ่า ก็ต้องคุมทีมที่มีงบประมาณเสริมทัพน้อยนิด ไม่สามารถคว้านักเตะที่เหมาะสมมาได้เลย เรื่องดีเรื่องเดียวคือการกลับมาของ นีโน่ กองหน้าตำนานของสโมสรเท่านั้น 

 

ภายใต้การบริหารและการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดของหน่วยงานด้านกฎหมาย ทำให้สโมสรต้องใช้จ่ายด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่งในช่วง 20 เดือนต่อจากนี้

 

แม้จะพยายามพัฒนาสถานะทางการเงินและวางแผนไว้อย่างดิบดี แต่เอลเช่ ก็ต้องตกชั้นอีกครั้งด้วยการหล่นไปอยู่ใน เซกุนด้า บี ในปี 2017 หลังแพ้ถึง 10 จาก 12 เกมสุดท้าย และนี่กลายเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ทศวรรษที่สโมสรต้องหล่นไปเล่นในลีกระดับ 3 ของประเทศ

 

เมื่อถึงจุดนั้นหลายคนพร้อมที่จะยอมแพ้ แฟนๆที่ไม่พอใจต่างผิดหวังกับทิศทางซึ่งฉุดให้การเงินของทีมรักทรุดลงไปอีก ขณะที่บอร์ดสโมสรก็คงไม่คิดว่าจะตกต่ำขนาดนี้ ทั้งๆที่ 2 ฤดูกาล ทีมยังอยู่ในลีกสูงสุดของสเปนอยู่เลย

 

สิ่งต่างๆยังเริ่มต้นได้เลวร้ายต่อไปใน เซกุนด้า บี เมื่อ บิเซนเต้ เมียร์ ก็ถูกปลดหลังมาคุมทีมได้เพียงไม่นาน ส่วนอดีตแข้งบียาร์เรอัล โฆซิสโก้ ที่เข้ามารับช่วงต่อก็น่าผิดหวังไม่ต่างจากเดิม จนกระทั่งจุดเปลี่ยนสำคัญได้มาถึงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ในปี 2018 เอลเช่ ได้ดึง ฮวน โรโฆ่ โจเซ่ มาร์ติน หรือ ปาเชต้า เป็นกุนซือคนใหม่ของทีม

 

 

ปาเชต้า ผู้เปลี่ยนแปลง

 

 

เอลเช่ ทีฟอร์มกระท่อนกระแท่น ไม่สม่ำเสมอหรือขาดความั่นใจ ก็ได้ ปาเชต้า เข้ามาแก้ไขปัญหาได้อย่างยอดเยี่ยม ส่งผลให้ทีมก็ทำผลงานได้ดีขึ้นทันตาจนจบอันดับ 3 คว้าตั๋วไปเล่นเพลย์ออฟเลื่อนชั้นหลังจบฤดูกาล 2017-18 และเลื่อนชั้นกลับไปลีกรองได้สำเร็จภายในเวลา 12 เดือนเท่านั้น หลังเอาชนะ บียาร์เรอัล บี ด้วยสกอร์รวม 3-2 

 

ทีมชุดเขียวขาว ผ่านพ้นปัญหาด้านการเงินได้ระดับนึงแล้ว แต่การกลับมา เซกุนด้า ในรอบนี้แตกต่างจากเมื่อ 12 เดือนก่อน เนื่องจากเงินค่าลิขสิทธิ์ทีวีเพิ่มขึ้น ดังนั้นคุณภาพและมูลค่าของทีมที่เหลืออีก 21 ทีมจึงสูงกว่าของพวกเขาอย่างชัดเจน

 

พวกเขาเป็นทีมสุดท้ายที่เลื่อนชั้นมาลีกรองได้ในปี 2018 นั่นจึงไม่แปลกที่การกลับมาในฤดูกาลแรกจะเป็นงานยากสุดๆ แต่พวกเขาก็มีอาวุธลับที่ชื่อว่า ฮวน ฟรานซิสโก้ มารติเนซ โมเดสโต้ หรือ นีโน่ อยู่

 

หากมีการมอบฉายา ‘มิสเตอร์เซกุนด้า’ ให้ใครซักคน ก็ต้องเป็น นีโน่ คนนี้ โดยเขาเริ่มเล่นกับ เอลเช่ เป็นทีมแรกในอาชีพค้าแข้งเมื่อปี 1998 โดยประเดิมสนามตั้งแต่อายุ 17 ปี จากนั้นเขาก็กลับมาอีกครั้งในฐานะแข้งฟรีเอเย่นต์  

 

 

ซึ่งกองหน้าชาวสแปนิช เป็นกำลังสำคัญของ เอลเช่ อย่างมากในฤดูกาล 2018-19 โดยลงเล่นไปถึง 38 นัด แม้อายุปาเข้าไป 38 ปี พร้อมยิงไป 7 ประตู และในฤดูกาลต่อมาก็ยิงเพิ่มเป็น 16 ตุง

 

ปาเชต้า มีการวางแผนที่ชาญฉลาดและส่งนักเตะลงสู่สนามอย่างเหมาะสม แม้จะลีกข่มขู่เรื่องการเงินที่ส่อแววมีปัญหาในด้าน ไฟแนนเชี่ยล แฟร์เพลย์ และเพดานค่าเหนื่อย เอลเช่ ก็จบอันดับที่ 11 ได้อย่างไม่มีปัญหา

 

เกมในบ้านเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญของทีม เมื่อสนาม เอสตาดิโอ้ มาร์ติเนซ บาเลโร่ สามารถช่วยให้ เอลเช่ คว้าแต้ม 2 ใน 3 จากทั้งหมด 55 คะแนน โดยมีสถิติชนะสกอร์มากสุดในสนามนี้ที่ 3-0 แต่รู้หรือไม่ว่าครั้งหนึ่งสนามแห่งนี้เคยเป็นสถานที่แข่งขันฟุตบอลโลกในปี  1976 ที่สเปนเป็นเจ้าภาพ และครองสถิติสนามที่ยิงประตูมากที่สุดในเกมที่ ฮังการี ขยี้ เอล ซัลวาดอร์ 10-1 ในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งยังเป็นสถิติที่ยืนยาวจนถึงทุกวันนี้

 

 

คัมแบ็คลาลีก้าแบบเหลือเชื่อ

 

 

ฤดูกาล 2019-20 จะกลายเป็นฤดูกาลที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกลูกหนังที่แฟนบอลจะจดจำไม่รู้ลืมจากโควิด-19 และสำหรับ เอลเช่ นี่เป็นฤดูกาลที่น่าจดจำเป็นพิเศษ เนื่องจากในช่วง 31 เกมแรก ฟอร์มของทีมยังไม่ดีเท่าไหร่ แต่หลังจากช่วงคลายล็อคไวรัสโควิด-19 และลีกรีสตาร์ทกลับมา พวกเขาก็จบฤดูกาลนี้ด้วยอันดับ 6 

 

แต่กว่า เอลเช่ จะคว้าตั๋วใบสุดท้ายไปเล่นเพลย์ออฟเลื่อนชั้นได้ก็เหนื่อยใช้เล่น หลังมีดราม่าในเกมสุดท้าย ฟูเอนลาบราด้า ที่มีแต้มเดียวตามหลัง เอลเช่ อยู่ 2 อันดับในตาราง ไม่สามารถแข่งกับ เดปอร์ติโบ้ ลา กอรุนญ่า ได้ เพราะพวกเขามีรายงานแข้งติดโควิด ขณะที่เอลเช่แข่งเกมนัดสุดท้ายจบไปแล้ว

 

แม้ต้องการเพียงแค่ผลเสมอในการไปเล่นเพลย์ออฟ แต่ ฟูเอนลา ก็ทำได้เกิดคาดด้วยการออกนำ เดปอร์ติโบ่  1-0 ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย แต่หลังสิ้นเสียงนกหวีด พวกเขากลับเป็นฝ่ายพ่ายไป 2-1  ทำให้ เอลเช่ ผ่านไปเล่นเพลย์ออฟแบบฉิวเฉียด และไปพบกับ เรอัล ซาราโกซ่า ในเกมเพลย์ออฟรอบรองชนะเลิศ

 

และในฤดูกาลที่แปลกประหลาดแบบนี้ ใครจะคาดคิดว่า นีโน่ จะเป็นคนยิงประตูชัยในเกมรอบเพลย์ออฟนาทีที่ 80 ใส่ ตัวเต็งอย่าง เรอัล ซาราโกซ่า ในเกมนัด 2 รอบตัดเชือก

 

จากนั้นอีกไม่กี่วันต่อมาก็เข้าไปเล่นรอบชิงชนะเลิศกับ เอลเช่ หลังเสมอในบ้านแบบไร้ประตู ทีมของ ปาเชต้า ก็มาได้ประตูชัยในช่วงปาฏิหารย์จาก เปเร้ มิลญ่า นาทีที่ 96 ส่งผลให้ในที่สุด เอลเช่ ก็เลื่อนชั้นกลับมาเล่นในลีกสูงสุดได้อีกครั้ง

 

และวันนี้ เอลเช่ จะลงเล่นนัดแรกในฤดูกาลใหม่กับ เรอัล โซเชียดดาด หลังเลื่อนชั้นกลับมาเพียง 1 เดือน ซึ่งมีเวลาเตรียมตัวช่วงพรีซีซั่นน้อยมาก และการแยกทางของ ปาเชต้า ก็ทำให้แฟนบอลเศร้าใจไม่น้อย

 

คริสเตียน บราการ์นิก เจ้าของสโมสรที่เข้ามาบริหารทีมตั้งแต่ปี  2019 ได้ดึง ฆอร์เก้ อัลมิร่อน กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ มารับตำแหน่งแทนที่ ปาเชต้า แต่อย่างน้อย ตำนานของสโมสรอย่าง นีโน่ หรือ เอ็ดการ์ บาเดีย ก็ยังอยู่กับทีมต่อไปในฤดูกาลใหม่นี้

 

และการผจญภัยของ เอลเช่ ก่อนสโมสรครบ 100 ปี ก็ยังมีอยู่ต่อไปและจะไม่จบลงแต่เพียงเท่านี้แน่นอน