ยื่นหมูยื่นแมว : ย้อน 10 ดีลสลับขั้วสะเทือนวงการลูกหนัง

 

หลังจากตกเป็นข่าวกันอยู่นานสองนาน สุดท้ายดีลสลับขั้วระหว่าง มิลาเร็ม ปานิช จาก ยูเวนตุส และ อาร์ตูร์ เมโล่ ของบาร์เซโลน่า ก็กลายเป็นความจริงเสียที

 

ทางฝั่งม้าลายเป็นฝั่งแรกที่ประกาศคว้า กองกลางชาวบราซิลเลี่ยน ด้วยค่าตัว ด้วยค่าตัว 72 ล้านยูโร พ่วงออปชั่นโบนัสอีก 10 ล้านยูโร จากนั้นไม่ถึงชั่วโมง อาซูลกราน่าก็คอฟเฟิร์มคว้าห้องเครื่องชาวบอสเนียจากตูรินมาร่วมทีมด้วยราคา 60 ล้านยูโร บวกออปชั่นอีก 5 ล้านยูโร โดยที่ทั้งคู่จะย้ายไปสโมสรใหม่อย่างเป็นทางการหลังจบฤดูกาลนี้

 

ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จะพาแฟนบอลทุกท่านไปย้อยดูดีลสลับขั้วสะเทือนวงการ 10 ครั้งที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ปานิช-อาร์ตูร์ และสโมสรไหนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดจากการแลกเปลี่ยนในแต่ละครั้ง

 

 

แอนดี้ โคล – คีธ กิลเลสพี | แมนเชสเตอร์  ยูไนเต็ด – นิวคาสเซิล

 

 

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ดูเหมือนจะเสียอำนาจการปกครองทีมไปพอสมควรในฤดูกาล 1994-95 จนทำให้เขาเลือกที่จะปล่อยแข้งตัวหลักหลายคนที่พาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปี ในฤดูกาลต่อมาเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ให้ทีม

 

ในระหว่างฤดูกาลนั้นช่วงตลาดนักเตะเดือนมกราคม ปีศาจแดงเริ่มเปลี่ยนทีมใหม่ด้วยการคว้า แอนดี้ โคล จากนิวคาสเซิล มาร่วมทีม พร้อมกับส่ง คีธ กิลเลสพี พ่วงด้วยเงินอีก 6 ล้านปอนด์ให้กับ สาลิกาดง

 

ผลลัพธ์ที่ออกมากลายเป็น ยูไนเต็ด ที่ได้โประโยชน์จากดีลนี้ไปเต็มๆ เมื่อ คิงโคล กลายเป็นกองหน้าตัวหลักของทีมได้พาทีมคว้าแชมป์ได้ทุกรายการที่ลงเล่น ขณะที่ปีกชาวไอร์แลนด์เหนือก็ย้ายไปเป็นแข้งคนสำคัญของแม็กพายส์ แต่ก็ไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์อะไรได้ ก่อนจะลาทีมไปในปี 1998

 

 

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช – ซามูเอล เอโต้ | บาร์เซโลน่า – อินเตอร์ มิลาน

 

 

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อาจเป็นกุนซือที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่ในด้านการซื้อขายก็มีไม่น้อยที่เขาทำได้ไม่ดีนัก อย่างเช่นในปี 2009 ที่เลือกปล่อย ซามูเอล เอโต้ แข้งตัวหลักชุดทริปเปิ้ลแชมป์ ให้กับ อินเตอร์ มิลาน พร้อมเงินอีก 35 ล้านปอนด์ เพื่อดึง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช มาล่าตาข่ายในถิ่นคัมป์ นู

 

นั่นทำให้ฝั่งงูใหญ่ของ โชเซ่ มูรินโญ่ ได้ประโยชน์จากดีลครั้งนี้ไปแบบเต็มๆ เมื่อหอกชาวแคเมอรูน กลายเป็นกุญแจสำคัญในการพา เนรัซซูรี่ คว้าทริปเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาล 2009-10 แถมยังเอาชนะ บาร์ซ่าที่มี ซลาตัน ในรอบตัดเชือกของแชมเปี้ยนส์ลีกด้วย

 

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความสัมพันธ์ของ อิบราฮิโมวิช และ กวาร์ดิโอล่า จะไม่เคยดีเหมือนเดิมอีกเลย

 

 

เฮนริค มคิตาร์ยาน – อเล็กซิส ซานเชซ |  อาร์เซน่อล – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

 

ดีลสลับขั้วระหว่าง มคิตาร์ยาน และ ซานเชซ ไม่ต่างจากฝันร้ายที่แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล ต้องทนทุกข์ทรมานต่อไป เพราะในช่วงที่ทั้ง 2 ย้ายไปเล่นให้กับต้นสังกัดใหม่ ฟอร์มการเล่นก็ยังย่ำแย่เหมือนเดิมไม่ต่างจากตอนที่อยู่ในทีมเก่า

 

แต่ดูๆไปแล้ว แฟนปีศาจแดงดูจะเป็นฝ่ายช้ำมากที่สุด เพราะค่าเหนื่อยของดาวเตะชาวชีลีสูงถึง 500,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์เมื่อรวมเงื่อนไขต่างๆ ทว่ากลับยิงไปได้เพียง 5 ประตูจากการลงเล่นทั้งหมด 45 นัด ไม่แปลกที่เขาจะถูกปล่อยให้ อินเตอร์ มิลาน ยืมไปใช้งานในฤดูกาลนี้

 

ส่วนมิกกี้ แม้จะกลับมาโชว์ฟอร์มเก่งไม่ได้เหมือนตอนอยู่ ดอร์ทมุนด์ แต่ก็กำลังเรียกความมั่นใจกลับมาด้วยการเล่นแบบยืมตัวกับ โรม่า ในฤดูกาลล่าสุด

 

 

ฟาบิโอ คันนาวาโร่ – ฟาเบียน คารินี่ | ยูเวนตุส – อินเตอร์ มิลาน

 

 

ในปี 2004 อินเตอร์ มิลาน เลือกปล่อยว่าที่กัปตันทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์โลกออกไปเพื่อแลกตัวกับ ฟาเบียน คารินี่ นายทวารชาวอุรุกวัยของ ยูเวนตุส หลังจากนั้น คันนาวาโร่ กลายเป็นกองหลังระดับโลกกับทีมม้าลายที่เล่นร่วมกับ ลิลิยง ตูราม และ จานลูก้า ซามบร็อตต้า ก่อนจะย้ายไป เรอัล มาดริด หลังคดีกัลโช่โปลี

 

ส่วน คารินี่ ก็ไม่สามารถเบียดขึ้นมาเป็นมือหนึ่งในทีมงูใหญ่ได้ โดยลงเฝ้าเสาไปเพียง 4 นัดเท่านั้นในช่วง 3 ปี พร้อมกับถูกปล่อยยืมเป็นส่วนใหญ่ และแขวนสตั๊ดในปี 2016 เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่เอวเรื้อรัง ขณะที่ คันนาวาโร่ หลังแขวนสตั๊ดก็ทำงานหน้าที่กุนซือกับ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ อยู่ในปัจจุบัน

 

 

โรแบร์โต้ คาร์ลอส – อิวาน ซาโมราโน่ | เรอัล มาดริด – อินเตอร์ มิลาน

 

 

  อิวาน ซาโมราโน่ เป็นหนึ่งในกองหน้าที่ทำผลงานได้โดดเด่นที่สุดในปี 1995 ด้วยการซัดไป 28 ตุง จาก 38 นัด ช่วยให้ เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ลาลีก้าได้ แต่ต่อมาเขากลับกลายเป็นตัวเลือกสำรองในแดนหน้า เนื่องจากการแจ้งเกิดของ ราอูล กอนซาเลซ และถูกปล่อยให้ อินเตอร์ มิลาน คว้าตัวเพื่อดึง โรแบร์โต้ คาร์ลอส มาร่วมทีม

 

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แข้งบราซิลเลี่ยน ก็ยกระดับตัวเองจนกลายเป็นหนึ่งในแบ็คซ้ายที่ดีที่สุดในโลก ส่วนหอกชาวอุรุกวัย แม้จะไม่ได้เข้าขั้นล้มเหลว แต่แฟนบอลส่วนใหญ่จดจำเขาที่อิตาลีในฐานะแข้งที่สวมใส่เบอร์ 1+8 มากกว่า 

 

 

ฟรานเชสโก้ โคโค่ – คลานเรนซ์ เซดอร์ฟ | อินเตอร์ มิลาน – เอซี มิลาน

 

 

ก่อนหน้าดีลสลับตัว อิบราโมวิช-เอโต้ อินเตอร์ มิลาน ล้มเหลวกับแลกตัวนักเตะมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง และในปี 2002 ทีมเลือกปล่อย เซดอร์ฟ แข้งดีกรีแชมป์ยุโรป 2 สมัย ณ ตอนนั้น ให้กับ เอซี มิลาน ทีมอริร่วมเมือง เพื่อกระชากตัว ฟรานเชสโก้ โคโค่ กองหลังที่ได้รับการยกย่องว่าจะกลายเป็น เปาโล มัลดินี่ คนต่อไป 

 

แต่สุดท้าย แข้งชาวอิตาเลี่ยน กลับโดนเรื่องนอกสนามดึงความสนใจจากเกมลูกหนังไปหมด และแขวนสตั๊ดในวัยเพียง 30 ปี เพื่อหันไปเอาดีด้านงานแสดงแทน ขณะที่ กองกลางชาวดัตช์ คว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกเพิ่มอีก 2 สมัย และแชมป์เซเรีย อา อีก 2 ครั้งกับ ปีศาจแดงดำ

 

 

แอชลี่ย์ โคล – วิลเลี่ยม กัลลาส | เชลซี – อาร์เซน่อล

 

 

ทั้งคู่ต่างลาสโมสรเดิมด้วยเรื่องราวที่จบลงไม่สวยเท่าไหร่ กัลลาส โดนเชลซี กล่าวหาว่าเขาขู่จะยิงประตูตัวเอง หากสโมสรไม่ยอมปล่อยเขา (ซึ่งเจ้าตัวออกมาปฏิเสธเรื่องนี้) นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ อาร์เซน่อล รีบคว้าตัวเขาไปร่วมทีมทันที แต่แข้งชาวฝรั่งเศสก็ไม่ใช่คนเดิมอย่างที่แฟนๆเคยเห็นในสแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกเลย

 

ส่วน โคล ที่โดนเหล่ากูนเนอร์สสาปส่ง ชีวิตค้าแข้งของเขากลับดีวันดีคืนหลังย้ายมาเล่นกับ สิงห์บลู และคว้าทั้งแชมป์ลีก, แชมป์เอฟเอ คัพ 4 สมัย และ แชมเปี้ยนส์ลีกอีกสมัย 

 

 

ริคาร์โด้ กวาเรสม่า – เดโก้ | ปอร์โต้ – บาร์เซโลน่า

 

 

เดโก้ ได้รับความสนใจจากสโมสรดังทั่วยุโรปในซัมเมอร์ปี 2004 หลังพา ปอร์โต้ เป็นม้ามืดคว้าถ้วยแชมป์เปี้ยนส์ลีก รวมถึงพาโปรตุเกสเข้าชิงศึกยูโรในปีเดียวกันด้วย ก่อนที่เขาจะเลือกย้ายไป บาร์เซโลน่า โดยที่ ริคาร์โด้ กวาเรสม่า เพื่อนร่วมชาติก็ย้ายสลับไปเล่นในบ้านเกิดแทน

 

แข้งจอมปั่นไซด์ก้อย ใช้เเวลาแค่ฤดูกาลเดียวในทีมอาซูลกราน่า แต่ไม่สามารถเบียดขึ้นเล่นในทีมของ แฟรงค์ ไรจ์การ์ด ได้ อีกทั้งฟอร์มกับปอร์โต้ ก็ไม่ได้ดีกว่าเดิม สวนทางกับ กองกลางเพื่อนร่วมชาติที่คว้าแชมป์ลาลีก้า 2 สมัย, โคปา เดล เรย์ 2 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัยกับ บาร์ซ่า

 

 

เนมานย่า มาติช – ดาวิด ลุยซ์ | เบนฟิก้า – เชลซี

 

 

ด้วยการที่เชลซีชอบกักตุนดาวรุ่งที่มีอยู่มากมายในยุคก่อนทำให้ดีลซื้อขายสุดแปลกเกิดขึ้นอยู่หลายครั้ง หนึ่งในนั้นคือการเอา เนมานย่า มาติช ไปแลกกับ ดาวิด ลุยซ์ กองหลังตัวหลักของ เบนฟิก้า ในปี 2011 

 

แต่ทั้งคู่กับกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง เมื่อ มาติช ถูกสิงห์บลูดึงกลับมาอีกครั้งหลังทำผลงานได้โดดเด่นในลีกฝอยทอง พร้อมกับช่วยให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2016-17 แต่กองกลางชาวเซิร์บก็ย้ายไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในอีกฤดูกาลต่อมา ส่วนกองหลังหัวฟูก็อยู่กับทีมต่อไป ก่อนจะย้ายข้ามฝากไปอยู่ อาร์เซน่อล ในปี 2019

 

 

เจอร์เมน เดโฟ – บ็อบบี้ ซาโมร่า | สเปอร์ส – เวสต์แฮม

 

 

นี่ถือเป็นดีลแลกเปลี่ยนที่หายากไม่น้อย เนื่องจากทั้ง 2 สโมสรที่ทำการซื้อขายต่างได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ดีไม่แพ้กัน โดย เดโฟ ระเบิดฟอร์มในปีที่ เวสต์แฮม ต้องตกชั้นด้วยแต้มที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ก่อนจะย้ายไป สเปอร์ส ในปี 2004 พร้อมซัดไป 22 ประตูในฤดูกาลแรกกับไก่เดือยทอง

 

ส่วน ซาโมร่า ที่สลับขั้วไปเล่นกับ เวสต์แฮม แทน จริงอยู่ที่เขาอาจไม่ได้ยิงประตูมากมายเท่า เดโฟ แต่เขาก็เป็นคนที่ยิงประตูชัยในนัดชิงเพลย์ออฟเลื่อนชั้นให้ขุนค้อนขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดเมื่อปี 2005 และทำแบบนี้ได้อีกครั้งกับ คิวพีอาร์ ในปี 2014