ยื่นหอกให้ศัตรู! 7 ทีมเลือกปล่อยนักเตะไปเปรี้ยงปร้างกับคู่แข่ง

 

หลังจากที่บาร์เซโลน่าเลือกปล่อยกองหน้าตัวหลักของทีม และดาวซัลโวตลอดกาลอันดับ 3 ของทีมไปให้กับ แอตเลนติโก มาดริด โดยให้เหตุผลว่าไม่อยู่ในแผนการทำทีม แต่หอกวัย 33ปี ก็ย้ายไปโชว์ฟอร์มเด่นต้ังแต่เกมแรกให้กับตราหมีจากการ ยิง 2 จ่าย 1ทั้งที่ลงมาเป็นตัวสำรองใน 20 นาทีสุดท้าย

 

วันนี้ทาง UFA ARENA จะพาทุกคนไปดูบรรดาทีมที่ตัดสินใจผิดพลาส่งนักเตะของตัวเองไปเป็นอาวุธให้กับคู่แข่ง

 

อันเดรีย ปีร์โล่ | เอซี มิลาน – ยูเวนตุส

 

 

หนึ่งในดีลที่พลาดที่สุดของเอซี มิลาน เมื่อพวกเขาตัดสินใจปล่อยตัว ปีร์โล่ออกจากทีมไปแบบฟรีๆ เมื่อปี 2011ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาแก่เกินไปแล้ว ซึ่งทีมที่เจ้าตัวย้ายไปอยู่ก็คือคู่ปรับร่วมลีกอย่าง ยูเวนตุส ซึ่ง ปีร์โล่ก็จัดการสร้างสรรค์ผลงานแชมป์ 7รายการ  1ในนั้นเป็นแชมป์ไร้พ่าย และพาม้าลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ลีกกัโช่ที่เก็บไปได้ถึง 100 แต้ม ส่วนปีศาจแดงดำ ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไรอีกเลยนับตั้งแต่เขาย้ายออกจากทีม

 

เอริค คันโตน่า | ลีดส์ ยูไนเต็ด – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

 

แม้ว่าคันโตน่า จะไม่ใช่นักเตะรายแรก และรายเดียว ที่ถูกปล่อยจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด ไปสู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่เป็นคู่แค้น แต่ก็นับว่าเป็นนักเตะที่เปรี้ยงปรางที่สุด ที่มาสู่ถิ่น โอลด์ แทรฟอร์ด เจ้าตัวย้ายมาเมื่อปี 1992 ด้วยราคา 1.2 ล้านปอนด์ ซึ่งสำรับทางลีดส์ เองมองว่าเป็นการปล่อยตัวปัญหาออกจากทีม แต่กลายเป็นการยื่นหอกให้คู่แค้นไปซะอย่างนั้น การันตีด้วยชื่อตำนานเบอร์ 7 ปีศาจแดง ที่ยากจะล้มได้

 

ซึ่งตลอด 5ฤดูกาลที่อยู่กับทีม เดอะคิง ฝากผลงาน 81ประตู จาก 179 นัดรวมทุกรายการ ซึ่งนอกจาก คันโตน่า ยังมีทั้ง อลัน สมิธ , กอร์ดอน แม็คควีน , โจ จอร์แดน และ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่ลีดส์ปล่อยให้มาเปรี้ยงปร้างกับคู่แค้นอย่างแมนฯยู

 

คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ | อินเตอร์ มิลาน – เอซี มิลาน

 

 

นับเป็นดีลสุดพลาดของอินเตอร์ มิลาน ที่พวกเขาไม่สามารถดึงศักยภาพของกองกลางชาวฮอลแลนด์ออกมาได้ เลยนำตัวเขาไปหาแลกกับนักเตะที่พวกเขาอยากได้อย่าง ฟรานเชสโก้ โคโค่ แข้งจากคู่ปรับร่วมเมือง จึงเสนอการสลับตัวกัน พร้อมบวกเงินอีกราวๆ 16ล้านยูโร 

 

ซึ่งการย้ายไปที่ปีศาจแดงดำกลับกลายเป็นว่า เซดอร์ฟ สามารถก้าวขึ้นมาเป็นตำนานของสโมสร พร้อมพาทีมคว้าแชมป์เป็นว่าเล่น ในขณะที่ โคโค่ ที่เนรัซซูรี่ได้ไป เจ็บแล้วเจ็บเล่าจนแทบไม่ได้ลงสนามให้กับทีมเลย สุดท้ายก็ต้องปล่อยตัวไป

 

คาร์ลอส เตเวส | แมนเชสเตอรื ยูไนเต็ด – แมนเชสเตอรื ซิตี้

 

 

ดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ได้ย้ายมาสู่ถิ่นโอลด์ แทรฟอร์ดด้วยสัญญายืมตัว ซึ่งแม้จะเป็นแค่การยืมตัว สำหรับตัวเขาก็นับว่าเป็นการทำตามความฝัน และสามารถสร้างสรรค์ผลงานไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ในระยะเวลา 2 ปี พาทีมคว้าแชมป์ไป 4รายการ แต่สุดท้ายแล้วปีศาจแดงก็เลือกไม่เซ็นเขาเข้ามาแบบถาวร เนื่องจากไม่อยู่ในแผนการทำทีม บวกกับค่าตัวที่ค่อนข้างแพง

 

การเลือกปล่อยมือไปในครั้งนี้สร้างความเจ็บปวดให้กับ เตเวส อย่างมากก่อนที่จะเลือกแก้แค้นด้วยการย้ายไปแม่นเชสเตอร์ ซิตี้ทันทีหลังจากนั้น และกลายเป็นหนึ่งในสตาร์ยุคบุกเบิกความยิ่งใหญ่ของเรือใบสีฟ้า

 

โรเบิร์ต เลาวานดอฟสกี้ | ดอร์ทมุนด์- บาเยิร์น มิวนิค

 

 

เป็นเรื่องแทบจะปกติไปแล้วกับการที่ เสือใต้ จะไปดูดนักเตะของเสือเหืองมาร่วมทีม ซึ่ง เลวานดอฟสกี้ ก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งในช่วงปี 2010-2012 ดอร์ทมุนด์ ผลิตนักเตะชั้นนำขึ้นมามากมาย ทางบายิร์นเรียกได้ว่าลูบปากรอ แต่จะบกอว่าดีลในครั้งนี้ เสือเหลือง ตั้งใจปล่อยดาวยิงชาวโปแลนด์ไให้คู่แข่งก็คงไม่ถูกนัก เพราะตัวนักเตะเองก็อยากย้ายไปอยู่กับเเสือใต้อยู่แล้ว และเป็นการปล่อยให้หมดสัญญา ก่อนจะย้ายไปแบบฟรีๆ แน่นอนว่าเป็นการย้ายที่คุ้มค่าสุดๆสำหรับบาเยิร์น ที่ได้หอกระดับเทพไปแบบฟรีๆ และยังยืนระยะอยูมาจนถึงปัจจุบันนี้

 

ธีราทร บุญมาทัน | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด – เมืองทอง ยูไนเต็ด

 

 

ถือเป็นดีลช็อกวงการลูกหนังไทยเมื่อแบ๊คซ้ายตัวหลักของปราสาทสายฟ้า ถูกปล่อยไปให้กับคู่แข่งแย่งแชมป์อย่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งด้วยหลายๆเหตุผล ทำให้สุดท้ายก็กลายเป็นดีลดังกล่าวเกิดขึ้นมา แน่นอนว่าการย้ายไปกิเลนผยอง เจ้าอุ้มก็ เป็นกำลังสำคัญให้กับทีมคว้าแชมป์มาไดรวม 3 รายการ รวมถึงเป็นการเปิดประตูสู่การไปค้าแข้งที่เจลีกอีกด้วย

 

โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ | อาร์เซน่อล – แมนฯยู

 

 

นี่คือหนึ่งในความผิดพลาดที่สุดของอาร์แซน เวนเกอร์ ที่เลือกปล่อยตัว ดาวยิงตัวหลักของทีมอย่าง ฟาน เพอร์ซี่ ให้ไปอยู่กับคู่ปรับอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในราคา 24ล้านปอนด์ แม้จะเป็นดาวซัลโวของทีมในฤดูาลสุดท้าย แต่ด้วยสัญญาที่กำลังจะหมดลง และไม่มีวี่แวจะต่อ ทำให้ปืนใหญ่ต้องตัดใจขายเพื่อให้ได้อะไรกลับมาบ้าง แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าแข้งวัย 29ปี กลับเป็นส่วนสำคัญของปีศาจแดงในการคว้าแชมป์สมัยที่ 20 ส่งท้าย เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันได้อย่างยิ่งใหญ่ แถมพ่วงด้วยตำแหน่งดาวซัลโวไปอีกปี