ยุคสมัยผลัดเปลี่ยน : จอมทัพหมายเลข 10 ที่หายไป 

            หากนึกถึงผู้เล่นหมายเลข 10 คุณนึกถึงอะไร ? 

 

           ย้อนไปยุคสมัยก่อน นักเตะที่จะได้สวมเสื้อหมายเลข 10 ผู้เขียนจะนึกถึงจอมทัพที่คอยบัญชาการเกม  หรือที่เรียกว่า เพลย์เมกเกอร์ เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุก  เต็มเปี่ยมไปด้วยทักษะ พรสววรค์  สามารถจ่ายบอลคิลเลอร์พาสได้ทั้งลูกสั้น และ ลูกยาว ให้เพื่อนร่วมทีมทำประตู 

 

          จะพูดให้เห็นภาพ ก็ประมาณแข้งอย่าง ซีเนอดีน ซีดาน ,ฮวน โรมัน ริเกลเม่ , รุย คอสต้า  ,มิชาเอล บัลลัค ,ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ ,ฮิเดโตชิ นากาตะ ,ฮวน เซบาสเตียน เวรอน ,พอล สโคลส์ ,สตีเว่น เจอราร์ด ,โรนัลดินโญ่ หรือ ริวัลโด้ นั่นแหละคือความหมายของผู้เล่นในตำแหน่งนี้  

 

 

        ทว่าเวลาล่วงเลยผ่านมาถึงปี 2020 ในวงการลูกหนังยุคนี้ เราแทบจะไม่ได้เห็นนักฟุตบอลที่เล่นในตำแหน่งหมายเลข 10 เหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว เพราะฟุตบอลสมัยใหม่นั้นเน้นไปที่แท็กติกระบบทีม มากกว่าความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่น

 

       การที่จะให้ผู้เล่นคนเดียว สร้างสรรค์เกมเกมรุกทั้งหมด นั้นกลายเป็นเรื่องยาก  เพราะหากผู้เล่นคนนั้นถูกประกบ เกมรุกของทีมดังกล่าวก็แทบจะไปไม่เป็นทันที นั่นทำให้เมื่อมองไปยังทุกสโมสรดังทั่วลีกยุโรปเวลานี้ เราจึงแทบหานักเตะที่ในตำแหน่งดังกล่าวไม่เจอเลย 

 

      ด้วยระบบที่แตกต่างออกไปจากเมื่อก่อน ทำให้ฟุตบอลยุคนี้ ตำแหน่งหมายเลข 10 หรือเพลย์เมคเกอร์ ได้ถูกโยกไปอยู่ในตำแหน่งริมเส้นเยอะซะมากกว่า อย่าง  คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ที่สมัยก่อนก็เล่นในตำแหน่งแนวรุกฝั่งซ้าย ไม่ว่าจะอยู่กับ แมนฯยูไนเต็ด หรือ เรอัล มาดริด ก่อนจะย้ายมาเป็นหัวหอกตัวเป้าในปัจจุบัน หรือ ลีโอเนล เมสซี่ ที่เล่นเป็นแนวรุกฝั่งขวาให้ บาร์เซโลน่า เป็นส่วนใหญ่ รวมไปถึง  ซาดิโอ มาเน่  และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่เป็นคนขับเคลื่อนเกมรุกของ ลิเวอร์พูล ในปัจจุบัน 

 

         ขณะที่ เมซุต โอซิล ผู้ที่เคยเป็นจอมทัพของ อาร์เซน่อล  ที่แม้จะสามารถเล่นปีกได้ แต่เขาจะเปล่งประกายที่สุดที่ตำแหน่งหมายเลข 10 เวลานี้ก็แทบหมดอนาคตกับทีมไปแล้ว หลังไม่ได้รับโอกาสลงสนามมาอย่างยาวนาน 

  

          หากไม่ได้มีปัญหากับทีมจริง ก็ต้องบอกว่าคงเป็นเรื่องแท็กติกนี่แหละที่ทำให้ โอซิล ไม่ได้รับโอกาสลงสนาม เพราะไม่ว่าจะเป็นยุค อูไน เอเมรี่ ที่เล่น 4-3-3 ผ่านเลยมาถึง มิเกล อาร์เตต้า ที่เล่นในระบบ 3-4-3 นั้นก็แทบจะไม่มีใครต้องการนักเตะในตำแหน่งนี้อีกแล้ว 

 

           หรืออย่าง ฮาเมส โรดริเกวซ จอมทัพทีมชาติโคลัมเบีย ที่ย้ายจาก เรอัล มาดริด มาร่วมทัพ  เอฟเวอร์ตัน และเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุกอยู่หลังกองหน้ามาตลอดชีวิต  เกมล่าสุดที่เสมอกับ ลิเวอร์พูล 2-2  ดาวเตะวัย 29 ปี ก็ถูกจับให้ไปเล่นในตำแหน่งตัวรุกฝั่งขวา เนื่องด้วยระบบทีมที่ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือชาวอิตาเลียน วางเอาไว้อย่าง 4-3-3   

 

 

           เมื่อช่วงซัมเมอร์ ฮาเมส ได้อธิบายถึงเรื่องนี้ไว้น่าสนใจกับทาง ริโอ เฟอร์ดินานด์ ผ่านทาง ยูทูบว่า “ผมคิดว่าตลอดว่าหมายเลข 10 ควรจะเป็นคุมเกมทั้งทีม ผู้เล่นคนนั้นควรรู้ว่าเพื่อนร่วมทีมของเขาอยู่ตรงไหน เพื่อสร้างโอกาสในการทำประตู แต่ว่าในยุคนี้ เมื่อระบบการเล่นเปลี่ยนแปลงมาเป็น 4-3-3 หรือ 3-4-3 หรือ 3-5-2กลายเป็นว่าตำแหน่งหมายเลข 10 นั้นถูกทิ้งไปเลย เพราะพวกเขามักต้องการผู้เล่นที่มีความรวดเร็ว มีทักษะดวลหนึ่งต่อหนึ่งที่สามารถพาบอลเลี้ยงหนีคู่แข่งได้  

 

         “ดังนั้นในตอนนี้ตำแหน่งหมายเลข 10 แทบไม่มีประโยชน์ ต่างจากช่วงซัก 10 หรือ 20 ปีที่แล้ว ที่เด็กๆทุกคนต้องการเป็นหมายเลข 10 แต่เวลานี้ทุกอย่างมันซับซ้อนมากขึ้นกว่านั้นเยอะมาก” ฮาเมส กล่าว

 

            ส่วน ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ จอมทัพระดับตำนานของโรม่า ก็เคยออกมาแสดงความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า  นักเตะหมายเลข 10 ในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ หรือที่เรียกขานกันในอิตาลีว่า เตรกวาร์ติสต้า นั้นกำลังจะหมดไปจากวงการฟุตบอล พร้อมทำนายว่าในที่สุดแล้วเหล่านักเตะจะต้องลงเล่นกันด้วยสัญชาตญาณเป็นหลัก

 

        “ในอนาคต เราอาจไม่ได้เห็นนักเตะแบบ   ซีดาน, มาราโดน่า และ ครัฟฟ์ อีกต่อไป  เกมฟุตบอลสมัยใหม่เป็นเรื่องของความแข็งแกร่ง และพละกำลังมากกว่าทักษะและคุณภาพไปเสียแล้ว”

        จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ แต่ในโลกฟุตบอลยุคนี้  ประสิทธิภาพสำคัญกว่าจินตนาการ จะเล่นฟุตบอลสวยงามไปทำไมหากไม่ชนะ  นั่นทำให้ผู้เล่นหมายเลข 10 แบบสมัยอดีตจึงไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป

 

            แม้เราจะหวังได้เห็นผู้เล่นในตำแหน่งนี้ คงอยู่ตลอดไปก็ตามที

                                                             DaboyG  

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก :  https://theathletic.com/2140185/?source=twitteruk