เดนมาร์ก ฟอร์มแรงต่อเนื่อง แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก เหมาคนเดียว 2 ประตูพาทีมถล่ม เวลส์ 4-0 ฉลุย 8 ทีม
ฟุตบอล ยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อวันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน 2564 คู่แรกที่สนามอัมเตอร์ดัม อารีน่า เวลส์ ทีมอันดับ 2 ของกลุ่มเอ ลงสนามพบ เดนมาร์ก อันดับ 2 ของกลุ่มซี
เกมนี้ โรเบิร์ต เพจ กุนซือ “มังกรแดง” มาในระบบ 4-2-3-1 สตาร์ดัง แกเร็ธ เบล, อารอน แรมซี่ย์ และ ดาเนี่ยล เจมส์ เป็นทีเด็ดของทีม ด้าน คาสเปอร์ แคสเปอร์ ฮูลมานด์ เทรนเนอร์ “โคนม” ยึดระบบ 3-4-2-1 ที่กำลังทำได้ดี แต่แนวรุกปรับเล็กน้อย ยูสซูฟ โพลเซ่น เจ็บไม่มีชื่อทำให้ แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก ได้เล่นหน้าเป้าแทน
เริ่มเกมทั้งสองทีมสู้กันสูสีจนกระทั่งนาที 27 กลายเป็น เดนมาร์ก ที่มาประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ มิคเคล ดัมสการ์ด พลิกหนีแนวรับก่อนจ่ายให้ แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก ที่ลากแต่งบอลไปยิงตรงหัวกระโหลกเสียบเสาไกลอย่างสวยงาม
ครึ่งหลังเล่นได้ 3 นาที โคนม มาหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะโต้กลับ มาร์ติน เบรธเวท ได้หลุดไปทางขวาก่อนเปิดยัดไปหน้าประตู นิโก้ วิลเลี่ยมส์ สกัดไม่ดีมาเข้าทาง ดอลเบิร์ก ได้ส้มหล่นยิงจ่อๆ เป็นประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้
เท่านั้นไม่พอนาที 88 เดนมาร์ก มาได้ประูตูเพิ่มอีก มาเธียส เยนเซ่น ตักบอลเข้ามาในเขตโทษด้านขวาให้ โยอาคิม มาห์เล่ ดึงหลอก 1 จังหวะก่อนยิงยัดเสาแรกหมดปัญญาที่ แดนนี่ วอร์ด จะเซฟได้
นาทีสุดท้าย แฮร์รี่ วิลสัน ไปเสียบใส่ โยอาคิม มาห์เล่ โดนใบแดงไล่ออกทันที รวมถึงช่วงทดเจ็บ มาร์ติน เบรธเวท มาซัดประตูซุกก้นตาข่ายแม้จะรอเช็ก VAR ว่าล้ำหน้าหรือไม่ แต่สุดท้ายผู้ตัดสินให้ประตูทำให้หมดเวลา เดนมาร์ก ชนะ เวลส์ 4-0 ผ่านเข้าไปรอบ 8 ทีมไปพบผู้ชนะระหว่าง เนเธอร์แลนด์ หรือ เช็ก ต่อไป
