สิงโตคำรามผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศรายการใหญ่ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1968 รวมถึงผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศศึกยูโรได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังจากสามารถคว้าชัยเหนือทีมโคนมได้สำเร็จ
การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 รอบรองชนะเลิศ คู่ที่สอง ที่สนามเวมบลีย์ เป็นการพบกันระหว่างอังกฤษและเดนมาร์ก
ซึ่งในนัดนี้ เกมต้องลากยาวไปจนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ ก่อนที่อังกฤษจะเอาชนะเดนมาร์กไปได้ 2-1 โดยทีมโคนมได้ประตูออกนำ 1-0 จากลูกฟรีคิกสุดสวยของ มิคเคล ดามส์การ์ด ในนาทีที่ 30 แต่หลังจากนั้นเพียง 9 นาที สิงโตคำรามก็มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ ซิมง เคียร์
และในช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 104 ทรีไลออนส์มาได้ประตูชัยจาก แฮร์รี่ เคน ที่ในตอนแรกยิงจุดโทษไปติดเซฟ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล แต่สามารถซ้ำดาบสองเข้าไปได้
สำหรับนัดชิงชนะเลิศ ยูโร 2020 ระหว่างอิตาลีและอังกฤษ จะแข่งขันกันในคืนวันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม ที่สนามเวมบลีย์
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
อังกฤษ : จอร์แดน พิคฟอร์ด (GK) , ไคล์ วอล์คเกอร์ , จอห์น สโตนส์ , แฮร์รี่ แม็คไกวร์ , ลุค ชอว์ , คัลวิน ฟิลลิปส์ , เดแคลน ไรซ์ , บูคาโย่ ซาก้า , เมสัน เมาท์ , ราฮีม สเตอร์ลิ่ง , แฮร์รี่ เคน
เดนมาร์ก : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล (GK) , อันเดรส คริสเตนเซ่น , ซิมง เคียร์ , ยานนิค เวสเทอร์การ์ด , เยนส์ สไตรเกอร์ ลาร์เซ่น , ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก , โธมัส เดลานี่ย์ , โยอาคิม เมห์เล่ , มาร์ติน เบรธเวต , มิคเคล ดามส์การ์ด , แคสเปอร์ โดลเบิร์ก