“ผมผิดหวังที่ผมไม่ได้รับการปกป้องจากสโมสรเลย ผมไม่ได้เรียกค่าเหนื่อยแพงขนาดนั้น มันไม่ใช่ความจริงเลยสักนิดเดียว ตัวเลขที่ถูกพูดถึงมันไม่ใช่ความจริงเลย และผมผิดหวังจริง ๆ ที่ผมไม่ได้รับการปกป้องเลยแม้แต่น้อย “

 

 

ข้างต้นคือคำกล่าวของ   ดาวิด อลาบา แนวรับตัวกลั่นของ บาเยิร์น มิวนิค ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ ว่ารู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งที่สโมสรไม่ออกมาปกป้องเขา เกี่ยวกับเรื่องข่าวลือที่บอกว่าตัวเขานั้นเรียกค่าเหนื่อยแสนแพงจนสัญญาใหม่ต้องล่มลงไป และเวลานี้สัญญาของ ดาวเตะออสเตรียน ในถิ่น อัลลิอันซ์ อารีน่า จะหมดลงในซัมเมอร์ปีหน้า  ทำให้นักเตะสามารถเจรจากับสโมสรไหนก็ได้ตั้งแต่ช่วงปีใหม่  

 

 

เรื่องสัญญาฉบับใหม่ของ อลาบา นั้นเป็นปัญหามาอย่างยาวนาน หลายฤดูกาลแล้ว เนื่องจากเขามองว่าตัวเองนั้นเป็นหนึ่งในแข้งสำคัญของทีมมาโดยตลอด และก็หวังจะได้รับค่าเหนื่อยสูงในระดับเดียวกับนักเตะตัวท็อปของสโมสรอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้  ,โธมัส มุลเลอร์ หรือ มานูเอล นอยเออร์  แต่สุดท้าย บอร์ดบริหารก็ปฏิเสธที่จะจ่ายเงินมหาศาลระดับ 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ขึ้นไปให้กับเขา และนั่นทำการเจรจานั้นยืดเยื้อจนถึงจุดแตกหักในที่สุด 

 

 

 

           ดาวเตะวัย 28 ปี ที่สามารถเล่นได้สารพัดประโยชน์ตั้งแต่ตำแหน่ง แบ็กซ้าย ,เซ็นเตอร์แบ็ก ,ปีกซ้าย ,กองกลางตัวรับ  และค้าแข้งกับ บาเยิร์น มาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นแข้งเยาวชน จนมาถึงปัจุจบันเขาผ่านการลงสนามให้ทัพ “เสือใต้”มาแล้วกว่า 400 นัด คว้าแชมป์ร่วมกับทีมมาแทบจะทุกรายการที่ลงแข่งขัน แต่ถึงเวลานี้เขาคงต้องหาสโมสรใหม่ เพื่อการผจญภัยในโลกลูกหนังต่อไป 

 

 

และนี่คือ 4 ทีมตัวเต็งที่จะคว้าตัว อลาบา ไปร่วมทัพ  ไปดูกัน 

 

 

เรอัล มาดริด  

 ตำแหน่งแบ็กซ้ายของทัพ ราชันชุดขาว ในเวลานี้ นอกจากที่จะมี มาร์เซโล่ ที่ถึงวัยที่ต้องอำลาทีมแล้ว ทีมก็ยังมี แฟร์กลองต์ เมนดี้ คือพร้อมจะก้าวมาเป็นตัวแทน อย่างไรก็ดีจากการที่ อลาบา สามารถเล่นได้เอนกประสงค์หลากหลายตำแหน่ง เชื่อว่า ซีเนอดีน ซีดาน จะจับเขาไปเล่นตรงอื่นได้ โดยเฉพาะในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กที่ถึงเวลานี้ เซร์คิโอ รามอส นั้นก็อายุมาขึ้นไปทุกที ก็เชื่อว่าหากทีมต้องการตัวจริงๆ เรื่องค่าเหนื่อยจะไม่เป็นปัญหาที่จะดึงตัวมาร่วมทัพแน่นอน 

 

โอกาสคว้าตัว : 60 เปอร์เซนต์ 

 

 

บาร์เซโลน่า  

“เจ้าบุญทุ่ม” เวลานี้ยังคงใช้งานของ ฆอร์ดี้ อัลบา ในตำแหน่งแบ็กซ้าย แต่หากมองไปที่ตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก ถือว่ายังไม่ดีเท่าที่ควร การได้ อลาบา เข้ามาจะเป็นการแบ่งเบาภาระให้  เคราร์ด ปีเก้ และ เกล์มองต์ ลองเลต์ ได้อย่างแน่นอน  ติดปัญหาตรงที่เวลานี้ทีมนั้นกำลังเจอวิกฤติในเรื่องการเงินอย่างหนัก หลังงบดุลที่ออกมาพวกเขาขาดทุนย่อยยับในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 รวมไปถึงการที่ โจเซป มาเรีย บาโตเมว เพิ่งลาออกจากตำแหน่งประธานสโมสร นั่นทำให้น่าสนใจว่าสโมสรจะกล้าทุ่มค่าเหนื่อยระดับ 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ให้กับ ดาวเตะวัย 28 ปี หรือไม่ 

 

โอกาสคว้าตัว : 40 เปอร์เซนต์ 

 

 

ลิเวอร์พูล 

 

การขาดหายไปของ เวอร์กิล ฟาน ไดค์ ส่งผลกระทบอย่างจังให้กับทัพ “หงส์แดง” เมื่อเวลานี้แทบไม่มีเซ็นเตอร์แบ็กที่ไว้ใจ้ได้เลย นั่นทำให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือเฮฟวี่เมทัลของทีม จะต้องเสริมทัพแน่นอน และจากการที่เขาเคยเห็นฟอร์มของ อลาบา กับตาตัวเอง ผนวกกับคำแนะนำของ ติอาโก้ อัลคันทาร่า ที่เพิ่งย้ายจากทัพ “เสือใต้” มาค้าแข้งในถิ่น แอนฟิลด์ ฤดูกาลนี้  ก็เชื่อว่ามีโอกาสสูงมากที่ ดาวเตะทีมชาติออสเตรีย จะได้ย้ายมาเล่นที่นี่ เผลอๆอาจไม่ต้องรอถึงซัมเมอร์หน้าด้วยซ้ำ หากทีมพร้อมจ่ายเงินค่าตัวเล็กน้อยให้ทัพ “บาเยิร์น” ตั้งแต่ช่วงปีใหม่นี้ที่ 28 ล้านปอนด์ เหมือนเช่นที่เคยได้ ติอาโก้ มาในราคาสุดถูกที่ 20 ล้านปอนด์เมื่อช่วงซัมเมอร์ 

 

โอกาสคว้าตัว : 70 เปอร์เซนต์ 

 

 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้   

เป๊ป กวาดิโอล่า เป็นกุนซือเพียงคนเดียวจากทั้ง 4 สโมสรที่เคยคุมทัพ “เสือใต้” ซึ่งเวลานั้น อลาบา คือแกนหลักของทีม และเขานั้นก็จับ ดาวเตะออสเตรีย ไปเล่นทั้งตำแหน่ง กองกลางตัวรับ รวมไปถึงตำแหน่งปีกซ้าย นั่นทำให้เชื่อว่าหากกุนซือชาวสแปนิช เกลี้ยกล่อมดีๆ ก็มีโอกาสทองที่จะคว้าตัว อลาบา มาร่วมทัพอีกครั้เช่นกัน    ประกอบกับ แบ็กซ้ายตัวจริงของทีมในเวลานี้อย่าง เบนฌาแม็ง เมนดี้ ยังเล่นเป็นบ่ออยู่ตลอด เชื่อว่าทัพ “เรือใบสีฟ้า” พร้อมจะทุ่มค่าเหนื่อยเพื่อคว้าตัวมาร่วมทัพแน่นอน 

โอกาสคว้าตัว :  50 เปอร์เซนต์

   

                                                                                 DaboyG