นี่ถือที่เป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงกุนซือที่รวดเร็วและดูโหดร้ายไม่น้อยในความทรงจำของแฟนลูกหนัง เมื่อ โชเซ่ มูรินโญ่ ได้เข้ามาแทนที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เพื่อรับตำแหน่งกุนซือของสเปอร์สคนใหม่ โดยที่เขายังไม่ได้บอกลาลูกทีมแบบจริงๆจังๆซักครั้ง
นายใหญ่ชาวอาร์เจนไตน์เป็นพาไก่เดือยทองเข้าชิงแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นครั้งแรก เมื่อ 5 เดือนก่อน และสร้างให้ทีมกลายเป็นหนึ่งในตัวเต็งลุ้นแชมป์ลีกในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่การตัดสินใจครั้งนี้ของ ดาเนี่ยล เลวี่ ประธานสโมสร ก็ค่อนข้างใจร้ายเกินไปหน่อย แม้ความเป็นจริง พอช จะทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานเกินกว่าที่ควรจะเป็นก็ตาม
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนเก้าอี้กุนซือครั้งแรกในรอบ 5 ปีครึ่งของสเปอร์ส แสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่า เลวี่ ต้องการมีโทรฟี่ประดับไว้บนตู้โชว์ของสโมสร หลังคว้าแชมป์ครั้งสุดท้ายกับรายการลีกคัพ เมื่อปี 2008
ดังนั้นการเข้ามาของ เดอะ สเปเชียล วัน ในถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม จะเปลี่ยนโฉมรูปแบบของทีมไปอย่างไรบ้าง ทาง UFA ARENA จะพาทุกคนไปวิเคราะห์และหาคำตอบผ่านบทความชิ้นนี้กัน
ประวัติและสถิติคร่าวๆของ มูรินโญ่
กุนซือชาวโปรตุเกสเคยผ่านร้อนผ่านหนาวกับทีมต่างๆมาแล้วมากมายในยุโรป โดยส่วนใหญ่มักจะทีมระดับต้นในทวีปทั้งนั้น โดยเริ่มต้นจาก เบนฟิก้า, อูนิเยา เดอ เรเลีย, ปอร์โต้, เชลซี (2 ครั้ง), อินเตอร์ มิลาน, เรอัล มาดริด, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนจะมาคุม สเปอร์ส ในปัจจุบัน
ส่วนความสำเร็จก็มากมายไม่แพ้กัน โดยคว้าแชมป์ไพเมร่า ลีก้า 2 สมัย, โปรตุกีส คัพ 1 สมัย, ยูฟ่า คัพ/ยูโรป้า ลีก 2 สมัย, แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย, พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ลีก คัพ 4 สมัย, เซเรียอา อิตาลี 2 สมัย, โคปา อิตาเลีย 1 สมัย, ลาลีก้า สเปน 1 สมัย และ โคปา เดล เรย์ อีก 1 สมัย
แต่ถึงอย่างนั้น มูรินโญ่ ก็มีชื่อเสียงในแง่ลบเหมือนกัน เนื่องจากเขามักจะอยู่ทำหน้าที่เป็นกุนซือกับสโมสรไหนได้ไม่เกิน 3 ปี แม้แต่ทีมเดียว และมักจะจบไม่สวยเป็นส่วนใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นกับ 6 สโมสรหลังสุดที่เคยร่วมงานด้วย มูรินโญ่ก็พาทีมคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ได้อย่างน้อย 2 รายการเลย
ส่วนมือขวาคู่ใจที่ร่วมงานกับมูรินโญ่มานานที่สุดคือ รุย ฟาเรีย ที่ตอนนี้คุมทีม อัล-ดูฮาลี สโมสรในกาตาร์ ทำให้เขาเลือกดึง ชูเอา ซาคราเมนโค้ หนึ่งในสต๊าฟจาก ลีลล์ ทีมในลีกเอิง มาเป็นมือขวาแทน ซึ่งมีข่าวลีลล์ไม่พอใจมูรินโญ่มากๆที่ดึงทีมงานมือดีจากสโมสรไปเฉยๆ
แข้งคนไหนจะรุ่ง,คนไหนจะร่วง
แข้งรุ่ง : เอริค ดายเออร์
ช่างเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับดายเออร์จริงๆ หลังจากที่เขายิงลูกจุดโทษตัดสินในเกมที่อังกฤษ พบ โคลอมเบีย ในฟุตบอลโลกปี 2018 แข้งวัย 25 ปีก็ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บเป็นส่วนใหญ่นับตั้งแต่นั้น จนส่งผลให้เสียตำแหน่งตัวจริงในสโมสร และได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้แค่ 2 นัดเท่านั้น
แต่ทุกอย่างอาจเปลี่ยนไป เมื่อ เดอะ เทเลกราฟ สื่อจากอังกฤษได้เผยว่า ดายเออร์ เป็นหนึ่งในนักเตะที่ มูรินโญ่ ชื่นชอบ และสไตล์การทำทีมของเขาอาจทำให้ ดายเออร์ ได้กลับโชว์ฟอร์มเก่งอีกครั้งในตำแหน่งกองกลางตัวรับ ซึ่งอาจทำให้เขามีลุ้นกลับไปติดทีมชาติอังกฤษเพื่อลุยศึกยูโรในซัมเมอร์หน้าก็เป็นได้
แข้งร่วง : แฮร์รี่ วิงส์
ขณะที่ร่างกายที่สูงใหญ่และแข็งแกร่งของ ดายเออร์ จะทำให้เขาดูเข้ากับแผนของ มูรินโญ่ ได้เป็นอย่างดี แฮร์รี่ วิงส์ ที่รับบทบาทกองกลางจากแนวลึก อาจไม่ค่อยเป็นปลื้มกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เท่าไหร่
ในยุคของโปเช็ตติโน่ฤดูกาลล่าสุด แข้งชาวผู้ดีก็ไม่สามารถเบียดเป็นตัวหลักได้อยู่แล้ว แต่ฟอร์มการเล่นกับประตูที่ยิงได้ในเกมที่อังกฤษ พบ โคโซโว เมื่อสัปดาห์ก่อน ก็อาจทำให้เขาพอมีหวังเป็น 11 ตัวจริงกับไก่เดือยทองอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตาม ในบรรดากองกลางตัวโฮลบอลที่ มูรินโญ่ ใช้กับสโมสรก่อนหน้านี้ มักจะเป็นนักเตะที่สูงใหญ่และดุดันพอสมควร อย่างเช่น เนมานย่า มาติช, ซามี่ เคดิร่า และเอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ ทำให้ยากพอสมควรที่เราจะได้เห็นวิงส์เป็นตัวหลักในทีมของ เดอะ สเปเชียล วัน
แข้งรุ่ง : โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์
ย้อนกลับไปเมื่อซัมเมอร์ปีก่อน มูรินโญ่ เรียกร้องและกดดันอย่างหนักให้ เอ็ด วู๊ดเวิร์ด ดึงตัว โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ มาค้าแข้งในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ณ ช่วงเวลาที่เขาคุมปีศาจแดง แต่ในตอนนี้ เขามีโอกาสได้ร่วมงานกับกองหลังทีมชาติเบลเยี่ยมอย่างที่หวังซักที
จาก จอห์น เทอร์รี่ ถึง ลูซิโอ้ หรือ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ และ เปเป้ ทีมของมูรินโญ่จะชัดเจนมากในการมีแข้งที่เป็นหัวใจหลักในแนวรับและเป็นผู้นำที่เชื่อถือได้ ซึ่งไม่มีนักเตะคนไหนบล็อคลูกยิง (14 ครั้ง) หรือ เคลียร์ลูกอันตราย (46 ครั้ง) ในพรีเมียร์ลีกไปมากกว่า แข้งวัย 30 ปี รวมไปถึงในแผงหลังก็ไม่มีดวลลูกกลางอากาศไปมากกว่าเขาแล้ว (24 ครั้ง)
แข้งร่วง : ดาวิดซอน ซานเชซ
ดาวิดซอน ซานเชซ คือหนึ่งใน 11 ตัวจริงของอาแจ็กซ์ชุดเข้าชิงศึกยูโรป้า ลีก ปี 2017 ซึ่งพ่ายให้กับแมน ยูไนเต็ด ของ มูรินโญ่ไป 2-0 และจาการรายงานของ ดิ อินดิเพนเด้นต์ ได้เผยว่า หนึ่งในแท็คติกที่ อดีตกุนซือปีศาจแดงใช้ในเกมนั้นคือปล่อยให้ ซานเซช ครองบอลไว้กับตัว ขณะที่ตามประกบ มัธไธส์จ เดอ ลิกต์ คู่หูของแข้งชาวโคลอมเบียที่เล่นกับบอลได้ดีกว่าแบบไม่ห่าง
เป็นที่รู้กันว่า มูรินโญ่ มักจะเล่นให้ลูกทีมข้ามการต่อบอลในแนวหลังและพาบอลไปเล่นในแดนกลางให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่การที่ ซานเชซ ซึ่งเคยเป็นจุดอ่อนที่กุนซือวัย 56 ปีเคยหมายหัวไว้ น่าจะทำให้มูรินโญ่สงสัยในความสามารถและน่าจะถูกลดบทบาทเป็นตัวเลือกบนม้าสำรองเป็นส่วนใหญ่แน่ๆ
แข้งรุ่ง : แฮร์รี่ เคน
แฮร์รี่ เคน เป็นกองหน้าเบอร์หนึ่งของไก่เดือยทองและเป็นผู้ผลิตประตูให้ทีมเป็นหลักในตลอด 4-5 ปี ที่ผ่านมา และเขาได้กล่าวคำอ่ำลาและขอบคุณสุดซึ้งแก่ โปเช็ตติโน่ นายเก่าผู้ปลุกปั้นเขาขึ้น ผ่านทางโซเชียล มีเดีย ในช่วงที่ผ่านมา นั่นคงทำให้เขารู้สึกใจหายพอสมควร
อย่างไรก็ตาม แม้หัวหอกทีมชาติอังกฤษยังไม่มีโอกาสได้สัมผัสถ้วยแชมป์เช่นเดียวกับ พอช แต่เขาก็มีสัญชาติญานในการทำประตูอย่างเต็มเปี่ยม แถม ดาบิด บีย่า อดีตกองหน้าทีมชาติสเปน ยังยกย่องว่าเขาเป็นนักเตะเบอร์ 9 ที่ดีที่สุดในโลกอีกด้วย
อีกทั้ง เคน ยังเป็นนักเตะที่ได้รับคำชมจาก มูรินโญ่ เสมอ ไม่แปลกใจหากเขาถูกแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีม และกลายเป็นนักเตะคู่ใจที่ เดอะ สเปเชียล วัน ขาดไปไม่ได้แม้แต่นัดเดียว
ยังไม่แน่นอน : คริสเตียน อีริคเซ่น
ในช่วงที่มูรินโญ่ยังคงว่างงานและรับจ็อบพิเศษเป็นกูรูรับเชิญของสกาย สปอร์ต เขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ค่อยชื่นชอบทัศนคติของเพลย์เมกเกอร์ไก่เดือยทองอย่าง อิริคเซ่น เท่าไหร่
“ผมไม่ชอบเก็บนักเตะที่ต้องการอยู่กับสโมสรเท่าไหร่นัก” อดีตกุนซือเชลซีกล่าวถึงแข้งชาวเดนส์ในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ผลงานของอดีตกองกลางอาแจ็กซ์ ก็ไม่ได้ดีเด่นอย่างที่เคยเป็น หลังทำไปเพียง 2 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ จากลงเล่นทั้งในพรีเมียร์ลีกและแชมเปี้ยนส์ลีก
ซึ่งเรื่องนี้มีโอกาสออกไปในทิศทางทั้งดีหรือร้าย อย่างเช่น อีริคเซ่น เลือกก้มหน้าทำตามหน้าที่ของตัวเองภายใต้กุนซือคนใหม่เพื่อมุ่งหน้าไปค้าแข้งกับทีมระดับโลกอย่างเรอัล มาดริด ได้อย่างเต็มภาคภูมิ หรือ เขายังโชว์ฟอร์มแย่ต่อไปและค่อยๆบ่อนทำลายความเชื่อใจของเหล่า ยิด อาร์มี่ จนย่อยยับ ก่อนลาทีมไปแบบไม่มีความทรงจำดีๆต่อกัน
สเปอร์สอาจใช้ไม้ไหนในมือ ‘มู’
หากยืดแผนการเล่นในเกมแรกที่ทำหน้าที่กุนซือเชลซี (คำรบที่ 2 ) และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มีโอกาสที่สเปอร์สจะใช้ระบบ 4-2-3-1 ในเกมที่ออกไปเยือน เวสต์แฮม วันเสาร์นี้
อย่างที่เรากล่าวไปก่อนหน้านี้ว่ากุนซือชาวโปรตุเกสชื่นชอบกับใช้กองหลังที่แข็งแกร่ง เช่น เทอร์รี่ และ แกรี่ เคฮิลล์ ในเชลซี ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังกองกลางตัวรับที่ร่างกายสูงใหญ่ หรือไม่ก็เป็นมิดฟิลด์ผึ้งงานอย่างเช่น มารูยาน เฟลไลนี่, อันเดอร์ เอร์เรร่า หรือ รามิเรส
ด้วยแนวคิดเหล่านั้น เดอะ สเปเชียล วัน น่าจะจับ อัลเดอร์ไวเรลด์ และ แยน แฟร์ตองเก้น มาเป็นเซนเตอร์คู่กันเหมือนตอนเล่นให้ทีมชาติเบลเยี่ยม พร้อมเลือกขยับ ซานเชซ และ ฮวน ฟอยธ์ เป็นตัวเลือกสำรอง ขณะที่กองกลางตัวโฮลบอลอาจใช้ ดายเออร์ คู่กับ ตองกีย์ เอ็นดอมเบเล่ ที่มีกำลังเหลือล้น อีกทั้งความสามารถในการพาบอลขึ้นหน้า และการสร้างสรรค์โอกาส น่าจะช่วยให้เกมรุกของมูรินโญ่มีความดุดันมากขึ้น
ส่วนคนเฝ้าเสามือหนึ่ง ฮูโก้ โยริส ที่ได้รับบาดเจ็บยาวๆ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหายกลับมาในเร็ววันนี้ ดังนั้น เปาโล กาซซานิก้า นายทวารมือสองเป็นคนทำหน้าที่ต่อไป อย่างน้อยก็จนกว่า มือกาวชาวฝรั่งเศสจะหายกลับมาฟิตเต็มร้อยอีกครั้ง
เคน ต้องถูกวางไปเป็นกองหน้าเป้าอยู่แล้ว แต่แนวรุกข้างหลังหัวหอก มูรินโญ่ มักจะใช้นักเตะที่มีความ, การจบสกอร์ และ ความสร้างสรรค์ มาเล่นร่วมกัน อย่างเช่น ใช้ มาร์กซิยาล, รูนี่ย์ และ มาต้า ในเกมแรกกับยูไนเต็ด หรือ ใช้อาซาร์, ออสการ์ และ เดอ บรอยน์ กับสิงห์บลูรอบที่ 2
ซอน เฮือง มิน แข้งโสมขาวที่มีจุดเด่นเรื่องความไวน่าจะถูกวางเป็นปีกซ้าย ขณะที่ เดเล อัลลี่ จะใช้ทักษะและไหวพริบในการช่วยเหลือ เคน จากข้างหลัง และถึงแม้ อีริคเซ่น ยังคงมีสถานะไม่แน่นอนกับทีมตอนนี้ แต่เมื่ออยู่ฟอร์มที่ดีเมื่อไหร่ เขาก็เป็นเพลย์เมกเกอร์เบอร์หนึ่งของสเปอร์สโดยไม่มีข้อโต้แย้ง
เป้าหมายการเสริมทัพครั้งต่อไป
มูรินโญ่ ยืนยันในงานแถลงข่าวครั้งแรกในฐานะกุนซือสเปอร์สว่า ตอนนี้เขาพอใจกับขุมกำลังที่สโมสรมีอยู่ และไม่ต้องการนักเตะใหม่เข้ามาเสริมทัพในช่วงตลาดนักเตะเดือนมกราคมนี้อย่างแน่นอน
แต่ตัวเลือกที่มีโอกาสย้ายมาร่วมทีมในช่วงตลาดหน้าหนาวก็ยังคงได้รับการพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ และคงหนีไม่พ้นนักเตะ 2 รายนี้
โดยคนแรกก็คือ แกเร็ธ เบล ปีกจรวดความเร็วสูงจาก เรอัล มาดริด ที่มีปัญหาดราม่ากับต้นสังกัดอย่างหนัก หลังไปเล่นให้ทีมชาติเวลส์ในช่วงสัปดาห์ก่อน จนโดนสื่อในสเปนถล่มยับ และข่าวว่าปีใหม่นี้ เบลอาจจะได้ย้ายทีมสมใจอยาก ซึ่งทีมเก่าของเขาอย่างสเปอร์ส คือหนึ่งในทีมเหล่านั้น
ส่วนอีกคนคือ บรูโน่ แฟร์นานเดซ กองกลางไฟแรงจาก สปอรติ้ง ลิสบอน ที่เผยว่าเขาตกลงรายละเอียดกับ สเปอร์ส ได้แล้ว ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ถูกต้นสังกัดแดนฝอยทองขวางเอาไว้ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังคงเป็นหนึ่งในนักเตะเนื้อหอมของยุโรปอยู่ดี
เมื่อนำมาประกอบกับ อนาคตที่ยังไม่แน่นอนของ อีริคเซ่น น่าจะทำให้ มูรินโญ่ อยากดึง กองกลางบ้านเดียวกันมาร่วมทีมให้ได้โดยเร็วที่สุดเป็นแน่