รวยเละ! 5 กุนซือที่ได้ค่าจ้างแพงที่สุดในโลก

 

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้จัดการทีมมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากกับสโมสรฟุตบอลสโมสรหนึ่ง เพราะนอกจากจะต้องลงคุมทีมซ้อมและทำหน้าที่สั่งการลูกทีมระหว่างช่วงการแข่งขันแล้ว บรรดาขงเบ้งทั้งหลายยังคงต้องจัดการเรื่องตัวผู้เล่นว่าจะเลือกใครเข้ามาสู่ทีมหรือตัดใครออกไปบ้างหากจำเป็น

 

กุนซือหรือโค้ชนั้นมีหน้าที่อีกอย่างก็คือจะต้องเลือกและตัดสินใจว่าจะส่งใครลงสนามบ้างในรายชื่อตัวจริง 11 คนแรก ซึ่งอย่างที่เรารู้กันดีว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหาผู้จัดการทีมที่เหมาะสมเข้ามาดูแลชาวคณะทั้งนักเตะ ทีมสต๊าฟหรือแม้กระทั่งเม็ดเงินที่ทางบอร์ดบริหารให้เอาไว้ใช้สอยเรื่องซื้อขายตัวผู้เล่น รวมถึงองค์ประกอบทั้งหมดของสโมสร

 

ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่ทำไมผู้จัดการทีมฟุตบอลฝีมือดีๆของโลกถึงได้เงินค่าจ้างสูงหลายล้านยูโรต่อปี ซึ่งวันนี้ทีมงาน UFA Arena.com จะพาไปดูกันว่ามี 5 กุนซือรายไหนบ้างที่มีค่าเหนื่อยแพงที่สุดในโลก

 

5.ซีเนอดีน ซีดาน (เรอัล มาดริด)

 

 

 

ซีเนอดีน ซีดาน พาราชันชุดขาวคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 3 ครั้งติดต่อกันในปี 2016, 2017 และ 2018 หลังจากนั้นเขาก็ขอลาออกจากตำแหน่ง แต่ 10 เดือนให้หลังเขาก็กลับมาซานติอาโก้ เบอนาบิวอีกครั้ง เพื่อมากอบกู้วิกฤตของทีมแทนที่กุนซืออย่าง ยูเลน โลเปเตกีและซานติอาโก้ โซลารี่ ที่ทำผลงานไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

 

แม้ว่าเรอัล มาดริดจะจบฤดูกาลด้วยถ้วยรางวัลเพียงถ้วยเดียวนั่นก็คือ แชมป์สโมสรโลกในปี 2018 แต่มาในซีซั่นนี้ซีดานได้ทำการปรับเปลี่ยนทีมของเขาใหม่ จนสามารถพาทีมขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงของศึกลาลีก้าสเปนในขณะนี้แถมยังผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกอีกด้วย ส่วนค่าเหนื่อยที่กุนซือชาวฝรั่งเศสได้รับจากมาดริดอยู่นั้นเป็นจำนวนเงิน 16.80 ล้านยูโรต่อปี ตามรายงานจากสื่อแดนน้ำหอมอย่างเลกิ๊ป 

 

4.เจอร์เก้น คล็อปป์ (ลิเวอร์พูล)

 

 

ตั้งแต่ลิเวอร์พูลแต่งตั้ง เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีม หงส์แดงก็กลับมาสยายปีกเหมือนในอดีตอีกครั้ง แต่นั่นอาจเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น อย่างไรก็ตามกุนซือชาวเยอรมันพาทีมจากลุ่มแม่น้ำเมอร์ซี่ไซด์คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้วแถมยังได้รองแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกต่างหาก

 

ฤดูกาลนี้คาดว่าแชมป์พรีเมียร์ลีกคงหนีไม่พ้นเงื้อมมือของพวกเขา ถ้าโลกไม่แตกเสียก่อน นอกจากนี้ลิเวอร์พูลยังกลายเป็นสโมสรอันดับ 1 ของโลก ณ ปัจจุบัน โดยสถานการณ์ในตารางลีกสูงสุดของเมืองผู้ดีตอนนี้หงส์แดงยังไม่ปราชัยให้กับทีมใดเลย เช่นเดียวกับตัว คล็อปป์ เองที่ทำผลงานส่วนตัวได้อย่างยอดเยี่ยม จนได้รับค่าตอบแทนอยู่ที่17.52 ล้านยูโรต่อปี ตามรายงานจากเลกิ๊ป 

 

3.โชเซ่ มูรินโญ่ (ท็อตแนม ฮอตสเปอร์)

 

 

 

เดอะ สเปเชี่ยลวัน โดนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไล่ออกในเดือนธันวาคมปี 2018 หลังจากนั้นเขาก็ไปรับงานเป็นนักวิเคราะห์วิจารณ์ให้กับหลายสื่อ ซึ่งกินเวลาไปเกือบ 1 ปี จนกระทั่งตัดสินใจโดดเข้ามารับงานผู้จัดการทีมอีกครั้งกับท็อตแนมฮ็อทสเปอร์ในเดือนพฤศจิกายนแทนที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ 

 

แม้ว่าจะยังเร็วเกินไปที่จะพูดด้วยความมั่นใจว่า โค้ชชาวโปรตุกีส จะพาทีมจากลอนดอนเหนือประสบความสำเร็จเหมือนกับสโมสรที่เขาเคยคุมมา กับการคว้าโทรฟี่ทั้งถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย ,พรีเมียร์ลีก 3 ครั้ง ,ลาลีกาหนึ่งและเซเรียอาอีกหนึ่ง ซึ่งส่งผลให้เขารับรายได้ถึง 17.52 ล้านยูโรต่อปีตามรายงานจากเลกิ๊ป 

 

2.เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

 

 

 

 

เป๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดในโลกของฟุตบอลสมัยใหม่ ซึ่งเขาได้ช่วยสโมสรชั้นนำของยุโรปอย่าง บาร์เซโลนาและบาเยิร์นมิวนิค ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์มานับไม่ถ้วน หลังจากได้ทั้งแชมป์ลีกและยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกกับทั้งสองค่าย นายใหญ่ชาวสเปนก็บินตรงสู่เกาะอังกฤษเพื่อรับงานให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในปี 2016

 

จากนั้นเขาก็พาเรือใบสีฟ้าผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2017 และ 2018 จนสโมสรต้องยอมเทค่าเหนื่อยให้กับเขาด้วยเม็ดเงินที่จำนวน 23.28 ล้านยูโรต่อปีตามรายงานจากเลกิ๊ป 

 

1.ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ (แอตเลติโก มาดริด)

 

 

 

แม้ว่า ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ จะไม่มีถ้วยรางวัลใดๆติดไม้ติดมือได้เลยในสองสามฤดูกาลหลังที่ผ่านมาให้กับ แอตเลติโก มาดริด แต่เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นกุนซือระดับตำนานของไอ้ตราหมีไปแล้ว และนั่นสะท้อนให้เห็นว่าทำไมเขาจึงกลายเป็นผู้จัดการทีมที่ได้ค่าจ้างแพงที่สุดในโลกด้วยจำนวนเงินถึง 43.6 ล้านยูโรต่อปีตามรายงานจากเลกิ๊ป