นอกจากศึกฟุตบอลโลกหญิง และ โคปา อเมริกา 2 รายการใหญ่ระดับโลกที่กำลังแข่งขันกันอยู่ในปัจจุบัน ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติทวีปแอฟริกา หรือ แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ก็กำลังจะเปิดฉากขึ้นแล้ว โดยเจ้าภาพ อียิปต์มีคิวเปิดสนามพบกับซิมบับเว ในคืนวันศุกร์นี้
ซึ่งในรายการนี้ มีนักเตะชื่อดังระดับโลกเข้าแข่งขันมากมาย ทั้งโมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, นาบี เกอิต้า,ริยาร์ด มาร์เรซ, คาลิดู คูลิบาลี่ หรือแม้แต่ขวัญใจของแฟนอาร์เซน่อลอย่างอเล็กซ์ อิโวบี้ เพื่อช่วยให้ชาติของตัวเองก้าวขึ้นไปเป็นเจ้าลูกหนังเบอร์หนึ่งแห่งกาฬทวีปในท้ายที่สุด
แต่ทว่าเราจะไม่พูดถึงนักเตะเหล่านั้นหรอก กลุ่มนักเตะที่เราจะพูดถึงคือแข้งโนเนมหรือนักเตะหน้าใหม่ต่างหาก แต่ด้วยฟอร์มการเล่นในระดับสโมสรเมื่อฤดูกาลล่าสุด ทำให้พวกเขาน่าจะทำผลงานได้ดีในทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ครั้งนี้
นอกจากนี้ ศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยังเป็นรายการที่แจ้งเกิดให้กับนักเตะมากมายหลายคน อย่างเช่น เจย์-เจย์ โอโคชา, ซามูเอล เอโต้, เฟรดดริก กานูเต้ หรือ ยาย่า ตูเร่ เป็นต้น ถ้าพวกเขาเหล่านี้ทำผลงานได้ตามที่เราคาดการณ์ไว้ ก็มีสิทธิ์ก้าวขึ้นไปเป็นนักเตะชั้นนำกับทีมระดับโลก ตามรอยรุ่นพี่ในทวีปได้อย่างสง่างาม
และนี่คือ 6 แข้งนอกสายตาที่มีโอกาสระเบิดฟอร์มในศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ณ แดนมัมมี่ ปี 2019
เพอร์ซี่ เทา (แอฟริกาใต้)
ถ้าหากเขาได้รับใบอนุญาตทำงานในสหราชอาณาจักรและได้ลงเล่นให้กับไบรท์ตันในพรีเมีบร์ลีกไปแล้ว เพอร์ซี่ เทาคงไม่อยู่ในลิสต์ของเราอย่างแน่นอน แต่ทว่าฟอร์มการเล่นของเล่นกับทีมยูเนี่ยน เอสจี ในลีกรองของเบลเยี่ยมก็น่าประทับใจไม่น้อย หลังทำผลงานเด่นจนคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีไปครอง
“ดูเพอร์ซี่สิ ผมเห็นเขามาแล้ว คุณมาบอกผมไม่ได้หรอกว่าเพอร์ซี่ยังไม่สมควรเล่นให้ไบรท์ตัน เขาสุดยอดมาก เป็นนักบอลที่ดีเลยล่ะ” เอียน ไรท์ตำนานดาวยิงของอาร์เซน่อลกล่าวชื่นชมกองหน้าวัย 25 ปียกใหญ่ในบทสัมภาษณ์กับ Sport24 สื่อดังในแอฟริกาใต้ บ้านเกิดของเทาเอง
ด้วยทักษะการหลอกล่อคู่แข่งและความสามารถในการสร้างหรือเปลี่ยนแปลงโอกาสให้เป็นประตู ทำให้เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เขายิงไปได้ 11 ประตู และ 13 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 34 นัด ซึ่งในทีมชาติ เทายังยิง 4 ประตูสำคัญช่วยให้ทัพบาฟาน่า บาฟาน่าคว้าตั๋วมาเล่นในฟุตบอลชิงแชมป์ทวีปในปีนี้ด้วย
ซึ่งศึกในอียิปต์ครั้งนี้ กองหน้าร่างเล็กน่าจะช่วยแอฟริกาใต้แกร่งพอที่จะต่อกรกับ ไอวอรี่ โคสต์, นามิเบีย และ โมร็อคโค ในกลุ่ม D ได้อย่างสูสีพอสมควรเลย
ซามูเอล กาลู (ไนจีเรีย)
หลังจากที่ วิคเตอร์ โมเซส ได้ลาทีมชาติไนจีเรียไปในศึกฟุตบอลโลกครั้งล่าสุดเมื่อปี 2018 ในตอนนี้ทัพอินทรีมรกตก็ได้ตัวแทนใหม่เรียบร้อยแล้ว นั่นก็คือ ปีกดาวรุ่งอย่าง ซามูเอล กาลู
กาลูถูกบอร์กโดซ์กระชากตัวมาร่วมทีมเพื่อแทนที่ มัลคอม แข้งชาวบราซิลเลี่ยนที่ย้ายไปดับกับบาร์เซโลน่าในซัมเมอร์ที่แล้ว ซึ่งปีกตัวจิ๊ดชาวไนจีเรียปรับตัวเข้ากับลีกเอิงได้อย่างรวดเร็วเกินคาด และในทีมชาตินับตั้งแต่เขาได้ประเดิมสนามนัดแรกกับสาธารณรัฐเซเชลส์ กาลูก็กลายเป็นแข้งตัวหลักในทีมของ แกร์นอต โรห์ร จนถึงปัจจุบัน
แข้งวัย 22 ปี เป็นนักเตะที่เลี้ยงบอลได้ดี มีฝีเท้าที่คล่องแคล่วว่องไว แถมยังยิงประตูได้ดีพอๆกับการสร้างสรรค์ให้เพื่อนร่วมทีม ไม่แน่ว่าในศึกครั้งนี้ กาลูอาจจจะเป็นดาวเด่นช่วยให้ไนจีเรียคว้าแชมป์รายการนี้มาครองเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2013 ก็เป็นได้
ไซโด้ เบราฮิโน่ (บุรุนดี)
โอลิวิเย่ร์ นิยุนเกโค่ เฮ้ดโค้ชทีมชาติบุรุนดีได้กล่าวไว้ว่า วงการฟุตบอลของบุรุนดีคงไม่เป็นที่รู้จักในทวีปแอฟริกา หากปราศจากแข้งนำเข้าอย่าง ไซโด้ เบราฮิโน่ และ กาแอล บิกิริมาน่า แม้ทั้งคู่จะยิงได้แค่ประตูเดียวเท่านั้นก็ตาม ในรอบคัดเลือกของศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ หนนี้
อย่างไรก็ตาม เบราฮิโน่ที่เพิ่งโอนย้ายจากอังกฤษมาเล่นให้บุรุนดีเมื่อปีที่ผ่านมายังต้องพิสูจน์ตัวเองในทีมชาติอีกพอสมควร หลังจากที่ฟอร์มตกและห่างหายจากฟุตบอลระดับสูงไปพอสมควร ซึ่งที่อียิปต์น่าจะเป็นโอกาสดีที่ทำให้หัวหอกของสโต๊ด ซิตี้ กลับมาในเส้นทางที่ควรจะเดินอีกครั้ง
ในกลุ่ม B นั้นมีเพียงไนจีเรียเท่านั้นที่หลายคนมองว่าน่าจะผ่านเข้ารอบน็อคเอ้าท์ไปได้ไม่ยาก ทำให้ตั๋วอีกใบ บุรุนดีต้องแย่งชิงกับ กินี และ ทีมหน้าใหม่ในรายการนี้อย่าง มาดากัสการ์ ซึ่งหวังว่าเบราฮิโน่จะช่วยประเทศเกิดผ่านเข้ารอบต่อไปได้อย่างสวยงาม
เอ็มบาย ดิยาเน่ (เซเนกัล)
ชีวิตค้าแข้งของเอ็มบาย ดิยาเน่ ไม่ต่างอะไรกับการนั่งรถไฟเหาะนัก เพราะในปี 2013 เขาย้ายไปร่วมทีม ยูเวนตุส ยักษ์ใหญ่ในอิตาลี เมื่อปี 2013 แต่ก็ถูกปล่อยให้ทีมอื่นยืมไปใช้ซะส่วนใหญ่ โดยไม่ได้ลงเล่นให้ทีมม้าลายแม้แต่นัดเดียว
ในปี 2016 หัวหอกชาวเซเนกัลได้ย้ายไปค้าแข้งในไชนีส ซุปเปอร์ ลีก กับ เทียนจิน เทนด้า แต่ในอีก 2 ปีต่อมา เขาก็ย้ายกลับมาเล่นในยุโรปอีกครั้งกับ คาซิมปาซ่า ในลีกตุรกี และยิงกระจายจนทำให้เขาได้ลงเล่นในทีมชาติเป็นครั้งแรก น่าเสียดายที่ดิยาเน่ถูก อาลู ซิสเซ่ มองข้ามไม่หิ้วติดทีมไปสู้ศึกฟุตบอลโลก ณ ประเทศรัสเซีย ในปีที่ผ่านมา
จากนั้นช่วงต้นปีที่ผ่านมา กาลาตาซาราย ก็กระชากตัวดิยาเน่จากคาซิมปาซ่าไปร่วมทีม หลังโชว์ฟอร์มโหดซัดประตูในลีกไป 20 เม็ด ซึ่งกับทีมใหม่ ดิยาเน่ก็ซัดเพิ่มไปอีก 10 ลูก พาทีมคว้าแชมป์ลีกแดนไก่งวงได้อย่างงดงาม พร้อมกับแชมป์บอลถ้วยและรางวัลดาวซัลโวประจำลีกด้วย จนในที่สุดเขาก็ได้ร่วมทีมของซิสเซ่สมใจ และพร้อมก้าวขึ้นไปเป็นดาวยิงดวงใหม่ของทวีปแอฟริกาในไม่ช้า
จามิลู คอลลินส์ (ไนจีเรีย)
นับตั้งแต่อดีตสตาร์มาร์กเซย ทาเย่ ไตโว ได้โบกมือลาทีมชาติไป ไนจีเรียก็ต้องลำบากในการหาแบ็คซ้ายคนใหม่มาแทนที่ ทั้ง เอลเดอร์สัน เอเชจีแล, จูวอน โอชานิว่า และ ไบรอัน อิโดวู คือนักเตะที่วนเวียนอยู่ในตำแหน่งนี้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และพวกเขาทั้งหมดต่างสอบไม่ผ่านในตำแหน่งตัวจริงเลย แต่การปรากฏตัวของ จามิลู คอลลินส์ จะทำให้ปัญหาอันน่าปวดหัวของ แกร์นอต โรห์ร หมดไป
แบ็คซ้ายจากพาเดอร์บอร์นมีสมดุลในการเล่นทั้งรุกและรับ และนับตั้งแต่ที่เขาประเดิมทัพอินทรีมรกตเป็นครั้งแรกกับลิเบีย ในศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ รอบคัดเลือกเมื่อปีที่ผ่านมา คอลลินส์ก็ยังทำผลงานได้ดีไม่มีตกจนถึงปัจจุบัน
และหลังจากทัวร์นาเม้นต์นี้ แฟนบอลทั่วโลกคงจะจดจำชื่อของคอลลินส์ได้มากขึ้น หลังช่วยให้พาเดอร์บอร์นเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในบุนเดสลีก้าฤดูกาลหน้าได้สำเร็จ
อิบราฮิม ซองกาเร่ (ไอวอรี่ โคสต์)
เซเรย์ เดีย วัย 34 ปีอยู่ในช่วงบั้นปลายของอาชีพค้าแข้งแล้ว แต่การมาของ อิบราฮิม ซองกาเร่ จะช่วยให้ อิบราฮิม กามาร่า นายใหญ่ทีมชาติไอวอรี่ โคสต์โล่งใจมากขึ้น เนื่องจากมีนักเตะหนุ่มมาเพิ่มความสดใหม่ให้กับตำแหน่งกองกลางตัวรับของทีมอีกครั้ง
โดยปกติ ฟร้องค์ เคสซี่ และ ฌอง มิเชล-เซรี จะทำหน้าที่ตัวทำเกมในแดนกลางอยู่แล้ว และด้วยฟอร์มอันน่าประทับของซองกาเร่ในขวบปีแรกกับ ตูลูส ทำให้หน้าที่เก็บกวาดตัวรุกทีมคู่แข่งเป็นงานหลักของเขา
กองกลางร่างสูงโปร่งสามารถยืนสกรีนให้กับแผงหลังได้อย่างดีเยี่ยม, เข้าบอลได้ดุดันแต่แม่นยำ, เล่นลูกกลางอากาศได้ดี ซึ่งทำให้เขาเป็นตัวทีเด็ดในลูกเซ็ตพีชอยู่เหมือนกัน โดยในฤดูกาลที่ผ่านมา ซองกาเร่ลงเล่นในลีกไปทั้งหมด 28 นัด และด้วยความสามารถเหล่านี้ทำให้เขาตกเป็นข่าวว่าบาร์เซโลน่าสนใจคว้าตัวไปร่วมทีมด้วยในช่วงตลาดหน้าหนาวครั้งล่าสุดที่ผ่านมา
และในศึกฟุตบอลชิงแชมป์ทวีปครั้งนี้ เป็นโอกาสอันดีที่ซองกาเร่จะโชว์ฝีเท้าให้กับแฟนบอลได้ประจักษ์ไปทั่วโลก
