รักษาไว้ยิ่งยาก! วิเคราะห์ 5 สิ่งลิเวอร์พูลต้องทำเพื่อป้องกันเเชมป์

 

ทีมหงส์เเดงมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมในปีที่ผ่านมา เเต่ฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึงพวกเขาจะไม่เจองานง่ายในการป้องกันเเชมป์เเน่นอน 

 

มีคนเคยกล่าวไว้เป็นเเชมป์ยากเเล้ว การป้องกันเเชมป์ยากกว่า ลิเวอร์พูลสร้างสถิติคว้าเเชมป์เร็วที่สุด(ขณะที่เหลืออีก 7 เกม) เเม้จะมีอุปสรรคโดนไวรัสโควิด-19 เล่นงานทำให้ไม่ได้ฉลองต่อหน้าเเฟนบอล เเต่เเค่นั้นก็กลบความยิ่งใหญ่ของพวกเขาไม่ได้ 

 

อย่างไรก็ตามฤดูกาลที่จะถึงนี้เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของพวกเขาว่าจะสามารถต่อยอดความสำเร็จได้หรือไม่ เเละต้องเจอกับขวากหนามมากมายเพราะหลายทีมจ้องที่จะเเย่งเเชมป์จากพวกเขา เเละนี้คือสิ่งที่ต้องทำหากยังหวังป้องกันเเชมป์ได้อีกหนึ่งสมัย 

 

 

– เตรียมรับมือทีมใหญ่ 

 

การจะเป็นเเชมป์นั้นนอกจากทีมตัวเองต้องฟอร์มดีบางทีก็อาจจะต้องมีดวงลุ้นให้ทีมอื่นสะดุดบ้าง ย้อนกลับไปในฤดูกาล 2018-19 หงส์เเดงพลาดได้เเค่รองเเชมป์ห่างเเมนฯ ซิตี้ เเค่ 1 คะเเนน นั้นเพราะทีมเรือใบสีฟ้าเเทบไม่พลาดให้เลย เกมที่เหมือนจะไม่ชนะก็กลับมาชนะ เช่นนัดที่เฉือนชนะเลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ช่วงท้ายฤดูกาล ลูกยิงไกลผีจับยัดของ กอมปานี่ ทั้งที่เเข้งคนนี้ไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องทำประตูอยู่เเล้ว เเต่ในฤดูกาล 2019-20 ซิตี้ เเพ้ไปถึง 9 เกมเเละเสมอ 3 เกม เรียกว่าทำเเต้มทิ้งเรี่ยราดก็ว่าได้ 

 

เหตุผลหนึ่งที่เป็นเเบบนั้นหลายคนมองว่า เเมนฯ ซิตี้ โฟกัสไปถ้วยเเชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ของพวกเขา เเละถ้าเกิดคว้าเเชมป์ได้จริงๆ ฤดูกาลหน้าลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คงมาใส่เต็มในบอลลีกเหมือนเดิม หงส์เเดงคงจะไม่เดินทางสะดวกเหมือนตอนนี้ 

 

ไม่เเค่เเมนฯ ซิตี้ ทีมบิ๊กซิกซ์ทีมอื่นๆก็พร้อมเดินหน้าอัดหงส์เเดง ไม่ว่าจะเป็นเชลซีของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่เสริมทัพได้อย่างน่ากลัวได้ทั้ง ติโม แวร์เนอร์, ฮาคิม ซิเย็ค เเละอาจจะรวมถึง ไค ฮาแวร์ตซ์ นี้ขนาดทำทีมขณะโดนเเบบห้ามซื้อขายเเถมก่อนหน้านั้นก็เสียเเข้งเบอร์ 1 ไป ยังพาทีมมาได้ไกลถึงอันดับ 4 ส่วนเเมนฯ ยู หลังได้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ทีมก็ยกระดับขึ้นมาไร้พ่ายถึง 14 เกมติด เเถมเเนวรุก 3 ประสานอย่าง เมสัน กรีนวู้ด, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อองโตนี มาร์กซิยาล กำลังเล่นเข้าขาอย่างน่ากลัว 

 

สองทีมที่ดูเหมือนไม่มีอะไรอย่าง สเปอร์ส เเต่ก็ระวังกุนซือระดับลุ้นเเชมป์อย่าง มูรินโญ่ ที่จะได้ทำงานเต็มฤดูกาลเป็นปีเเรก ขณะที่อาร์เซน่อลก็กำลังคึกเพิ่งคว้าเเชมป์เอฟเอ คัพ มาครองด้วย 

 

 

– รักษาเเข้งตัวหลัก 

 

ลิเวอร์พูล เเม้จะได้ชื่อเป็นทีมใหญ่อันดับต้นๆของยุโรป เเต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า ทีมใหญ่กว่าพวกเขามักเดินเข้ามาดูดเเข้งหงส์เเดงไปหลายคน ในอดีตทั้ง ชาบี อลอนโซ่, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, เฟร์นันโด ตอร์เรส, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง รวมถึง หลุยส์ ซัวเรซ เเละ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ต่างตบเท้าออกจากเเอนฟิลด์ช่วงที่ผลงานดี 

 

ปีนี้พวกเขาระเบิดฟอร์มได้เพราะ 3 เเนวรุกที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในอังกฤษ โม ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ เเละ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ต่างตกเป็นข่าวกับทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป โดยเฉพาะเเข้งอียิปต์ ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุดว่า “คุณต้องเข้าใจว่าไม่มีใครรู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ทั้งใกล้-ทั้งไกลนั่นแหละ ฉนั้นต้องรอดูกันไปก่อน” เล่นเอาเเฟนๆเสียวกันเป็นเเถบ

 

อย่างไรก็ตามการที่หงส์เเดงคว้าเเชมป์ 2 เมเจอร์เเละ 4 เเชมป์รวมทุกถ้วยอาจจะเป็นเครื่องการันตีได้เล็กน้อยว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดของโลกตอนนี้ นักเตะไม่จำเป็นต้องย้ายไปไหน เเต่อย่าลืมว่า คล็อปป์ ไม่ใช่คนที่รั้งนักเตะไม่ว่าจะเก่งเเค่ไหน(ดูอย่างตอนคูตินโญ่) บางทีถ้ามีทีมกล้าทุ่มเเละนักเตะพร้อมจะไปเหตุการณ์นั้นก็อาจจะเกิดขึ้น 

 

หลายคนมั่นใจว่าการเสียนักเตะคนหนึ่งจะไม่ส่งผลกับทีมเเละคล็อปป์น่าจะหาคนมาเเทนได้ เเต่มันจะไม่เกิดขึ้นเร็วใน 1 ฤดูกาลเเน่นอน เพราะฉนั้นถ้าหงส์เเดงเสียใครไปตอนนี้ ฤดูกาลหน้าอาจจะเป็นงานยากคูณ 2 ของพวกเขา 

 

 

– ไม่ผ่อนเกียร์ 

 

ฟอร์มลิเวอร์พูลฤดูกาลนี้เรียกว่าขี่พายุทะลุฟ้าก็ว่าได้ ก่อนที่พวกเขาจะคว้าเเชมป์(เกมที่ 31) หงส์เเดงพลาดเสมอไปเเค่ 1 เกมต่อเเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เเละ เเพ้ 1 เกมต่อวัตฟอร์ด เเต่หลังจากนั้นพวกเขาสะดุดเสมอไปอีก 2 เกมเเละเเพ้อีก 2 เกม เรียกว่าฟอร์มถอยหลังลงคลองไปดื้อๆ 

 

หลายคนมองว่าเป็นเพราะหงส์เเดงคว้าเชมป์ไปเเล้วจึงไม่เเปลกที่จะผ่อนเกียร์เพราะฉลองกันเเบบสุดเหวี่ยงเเต่ เป๊ป เคยพูดถึงเรื่องนี้ว่าถ้าเป็นทีมของเขาจะไม่ยอมให้เป็นเเบบนั้น ไม่ว่าจะคว้าเเชมป์ไปเเล้วหรือยังก็จะเต็มที่ทุกเกมที่เหลือ เพราะมันส่งผลถึงฟอร์มการเล่นในช่วงต่อๆไป 

 

ลิเวอร์พูลเป็นเเชมป์ลีกคั้งเเรกในรอบ 30 ปี ไม่เเปลกที่พวกเขาจะเเผ่วไปบ้าง เเต่มันก็เป็นดาบ 2 คม เพราะบางทีฟอร์มการเล่นที่ดร็อปลงไปอาจจะส่งผลถึงการเเข่งขันในซีซั่นที่จะถึงนี้

 

 

– ห้ามหมดเเรงจูงใจ 

 

ลิเวอร์พูลใช้เวลาเเค่ 14 เดือนนับตั้งเเต่คว้าเเชมป์ เเชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการเอาชนะสเปอร์สที่สเปน คว้าเเชมป์เพิ่มอีกถึง 3 รายการ นับตั้งเเต่ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ, สโมสรโลก เเละ พรีเมียร์ ลีก ตอนนี้พวกเขาขาดเพียงเเชมป์บอลถ้วยในประเทศอย่าง คาราบาว คัพ เเละ เอฟเอ คัพ นักเตะชุดนี้หงส์เเดงจะคว้าทุกเเชมป์มาครอง 

 

มันมีอะไรที่เหมือนกันช่วงปลายฤดูกาลล่าสุดที่พวกเขาคว้าเเชมป์มาครองเเล้วหมดเเรงจูงใจที่จะไปต่อ ทั้งทีเเฟนๆอยากเห็นทีมทำลายสถิติเเต้มสูงสุด 100 คะเเนนที่เมนฯ ซิตี้ ทำไว้ ซึ่งนั้นก็เป็นหน้าที่ของกุนซืออย่างคล็อปป์ที่จะปลุกใจนักเตะให้มุ่งมั่นในการเเข่งขันทุกๆฤดูกาล 

 

เป๊ป เคยพูดเอาไว้ว่าหนึ่งสิ่งที่ทำให้ลิเวอร์พูลโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในปีนี้คือความมุ่งมั่น “พวกเขาลงเล่นทุกเกมเหมือนนัดชิงชนะเลิศ ไม่มีทางยอมเเพ้ จนกว่าเกม 90 นาทีจะหมดลง” มันเเสดงให้เห็นว่า ความุ่งมั่นที่จะเอาเเชมป์สำคัญอย่างมากสำหรับฟอร์ม เเต่ลองคิดดูถ้ามันหายไปเนื่องจากความสำเร็จนั้นเกิดขึ้นเเล้ว โอกาสที่หงส์เเดงจะป้องกันเเชมป์คงน้อยลงด้วย 

 

 

– เเก้ปัญหาถ้าไม่ได้นักเตะใหม่

 

ข้อนี้อาจเป็นหนึ่งคำถามที่เเฟนๆหงส์เเดงยังไม่เข้าใจ หลายคนเถียงกันว่าลิเวอร์พูลไม่ทุ่มเงินซื้อนักเตะตรงไหน ทั้ง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค เเละ อลิสซอน เบ็คเกอร์ คว้าตัวรวมกันเกิน 100 ล้านปอนด์ เเต่อยากให้ทำความเข้าใจ ที่ทีมซื้อ 2 คนนั้นมาได้ เพราะขาย ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ไปให้กับบาร์ซ่า ในราคา(มูลค่า) 140 ล้านปอนด์ นั้นก็หมายถึงว่า หงส์เเดงไม่ใช่ทีมเงินถุเงินถังที่จะทุ่มเงินซื้อใครมั่วซั่ว 

 

เเต่โชคยังดีที่คล็อปป์ก็ไม่ใช่กุนซือที่ชอบใช้เงินมั่วซั่ว การซื้อนักเตะเกรดบีเข้ามาเเล้วปั้นเป็นเเข้งระดับโลกคืองานถนัดของเขา เหมือนกับที่ทำกับ อิลคาย กุนโดกัน เเละ อิวาน เปริซิช สมัยที่อยู่ดอร์ทมุนด์ รวมถึง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กับลิเวอร์พูล 

 

กุนซือเยอรมันดูเเล้วจะพอใจกับขุมกำลังของทีม เป้าหมายหลักของเขาสำหรับนักเตะใหม่คือการหาตัวเเบ็คอัพให้กับฟูลเเบ็คทั้ง 2 ข้าง รวมถึงเเนวรุกสำรองมากกว่าจะหาเเข็งตัวหลักราคาเเพงเข้ามา เเถวเด็กดาวรุ่งที่ฟอร์มเด่นในช่วงท้ายอย่าง เคอร์ติส โจนส์ เเละ เนโก วิลเลี่ยมส์ เเละเเข้งที่ยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองอย่าง ทาคุมิ มินามิโนะ เเละ นาบี เกอิต้า น่าจะมีบทบาทมากขึ้นในฤดูกาลที่จะถึงนี้ 

 

อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล มีลิสต์นักเตะที่พร้อมปล่อยตัวหากได้ราคาที่น่าสนใจ คนเเรกที่ไปเเล้วคือ เดยัน ลอฟเรน ไป เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ด้วยราคา 11 ล้าน นอกจากนั้นยังมี ดิว็อก โอริกี้, มาร์โก กรูยิช, เซอร์ดาน ชากิรี่, ลอริส คาริอุส เเละ แฮร์รี่ วิลสัน ซึ่งถ้าขายได้จริงราคารวมก็น่าจะไม่ต่ำกว่า 80 ล้านปอนด์ ก็อาจจะได้เห็นเเข้งระดับเกรดเอเข้าสู่ทีม พวกเขาเป็นข่าวกับทั้ง ติอาโก้ อัลกันตาร่า เเละ จาดอน ซานโช่