ราชาคอร์ตดิน : บันทึกเรื่องราวของราฟาเอล นาดาลในศึกเฟร้นช์ โอเพ่น

หากเป็นช่วงเวลาปกติ ในวงการเทนนิสขณะนี้ก็กำลังเข้าสู่ฤดูกาลของคอร์ตดิน ซึ่งผู้ที่ครอบครองพื้นผิวนี้คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าของฉายา “ราชาคอร์ตดิน” ราฟาเอล นาดาล

 

เริ่มฉายแววไร้เทียมทาน

 

ในปี 2001 ที่นาดาลเพิ่งเทิร์นโปรใหม่ๆ เขาได้ลงแข่งขันแมตช์ตีโชว์บนคอร์ตดินพบกับแพ็ต แคช อดีตแชมป์แกรนด์สแลม และเขาก็เอาชนะไปได้ แต่นั่นก็ไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้จนกระทั่งมาถึงปี 2005 เด็กหนุ่มจากมายอร์ก้ากลายเป็นที่จับตามองไปทั่ววงการ เมื่อเขาครอบครองรายการบนคอร์ตดินด้วยชัยชนะต่อเนื่อง 24 แมตช์ กวาดแชมป์ไปหลายรายการ

 

ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมขนาดนี้จึงทำให้นาดาลทะยานขึ้นเป็นมือ 5 ของโลก ช่วยไม่ได้ที่เขาจะถูกมองเป็นหนึ่งในตัวเต็งสำหรับการลงแข่งขันเฟร้นช์ โอเพ่นสมัยแรก และก็ไม่มีอะไรฉุดได้อยู่อีกแล้ว เพราะเด็กหนุ่มชาวสเปนคว้าแชมป์ได้จริงๆ โดยเอาชนะโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ในรอบตัดเชือก ก่อนไปอัดมาริอาโน่ ปูเอร์ต้าในรอบชิง

 

 

“น่าตลกดีเหมือนกันที่มันเป็นเฟร้นช์ โอเพ่นครั้งแรกของเขา แต่กลับเป็นมือวางอันดับ 4 ของทัวร์นาเม้นท์ไปแล้ว เขารู้ดีว่าจะคว้าชัยชนะได้อย่างไรบนคอร์ตดิน” นักหวดระดับตำนานอย่างไมเคิล ชางเคยแสดงความเห็นเอาไว้เมื่อปี 2012 ถึงแชมป์สมัยแรกในแกรนด์สแลมที่ฝรั่งเศสของนาดาล

 

ประกาศให้โลกรู้ว่ากำลังครอบครองคอร์ตดิน

 

นาดาลในวัยหนุ่มสานต่อความสำเร็จจากเฟร้นช์ โอเพ่นสมัยแรก ด้วยการคว้าแชมป์ต่อเนื่องอีก 3 ปี ทำให้เขาได้รับฉายาราชาคอร์ตดินไปครอง ซึ่งคงจะไม่มีใครเถียงในเรื่องนี้ เพราะไม่ใช่เพียงแค่รายการระดับแกรนด์สแลมเท่านั้น การแข่งขันระดับมาสเตอร์ส 1000 ที่มอนติคาร์โลเขาก็กวาดแชมป์เป็นว่าเล่นเช่นกัน

 

อย่างไรก็ตามการชูถ้วยแชมป์ที่ฝรั่งเศสของเขาก็มาสะดุดลงในปี 2009 โดยไปเพลี่ยงพล้ำต่อคู่แข่งที่ไม่มีใครคาดคิดอย่างโรบิน โซเดอร์ลิงในรอบ 4 ถือเป็นหนึ่งในแมตช์หักปากกาเซียนที่สุดของวงการเลยก็ว่าได้

 

 

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม นาดาลกลับมาครอบครองบัลลังก์ได้อีกครั้งในปีต่อมา และคราวนี้ยิ่งใหญ่กว่าเดิมด้วยการสอยแชมป์ 5 ปีติดต่อกัน ถึงตรงนี้เขาได้แชมป์เฟร้นช์ โอเพ่นรวมทั้งหมด 9 สมัยเข้าให้แล้ว สร้างสถิติเป็นนักเทนนิสชายคนแรกในยุคโอเพ่นที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลมรายการเดียวมากถึง 9 ครั้ง ทุบสถิติของกิเยร์โม่ วิลาสอันยาวนานมา 32 ปี

 

เมื่อยุคมืดมาถึง

 

ใช่ว่านาดาลจะไร้เทียมทานอย่างเดียว เพราะถึงแม้คู่แข่งอาจจะหยุดเขาไม่ได้ แต่สภาพร่างกายของเขาเองนี่แหละที่กลายเป็นอุปสรรค ทำให้ปี 2015 และ 2016 กลายเป็นช่วงเวลาที่เขาไม่ได้สัมผัสกับแชมป์รายการใดๆ ในระดับแกรนด์สแลมเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฟร้นช์ โอเพ่น 2016 ที่เขาจำเป็นต้องถอนตัวด้วยอาการบาดเจ็บข้อมือซ้าย ซึ่งเป็นมือที่เขาใช้จับแร็กเก็ตทำมาหากินมาตลอดชีวิต

 

 

บางคนอาจจะมองว่านักหวดสเปนน่าจะมาได้สุดทางเท่านี้แล้ว เพราะเป็นที่พูดกันมาแต่ไหนแต่ไรว่าเขาใช้สภาพร่างกายเปลืองด้วยสไตล์การเล่นมุทะลุดุดัน แต่กลับกลายเป็นว่าในปี 2017 เขากลับมาอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการครองบัลลังเฟรนช์ โอเพ่นอีกครั้ง แถมยังคว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่นอีกรายการ และเข้าถึงรอบชิงออสเตรเลียน โอเพ่นอีกด้วย

 

ราชาก็ยังคงเป็นราชา

 

ต่อเนื่องจากปี 2017 เขาคว้าแชมป์แกรนด์สแลมบนคอร์ตดินได้อีก 2 ครั้งหลังจากนั้น รวมแล้วจึงทำให้กดไปคนเดียวเน้นๆ 12 สมัย โดยครั้งล่าสุดเจ้าตัวได้บอกว่ามันเป็นอะไรที่พิเศษสุดๆ เพราะเป็นอีกครั้งที่กลับมาได้หลังต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บ

 

ในปี 2019 ก่อนเข้าสู่ฤดูกาลคอร์ตดิน นาดาลได้ลงแข่งขันไปเพียงแค่ 3 รายการเท่านั้น แต่สุดท้ายก็ยังสามารถกลับมาฟิตเต็มถังได้ทันเวลา และคว้าแชมป์ได้ในที่สุด

 

 

“ผมผ่านปัญหามามากมาย นั่นจึงทำให้ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมามันพิเศษมากๆ หนึ่งในความเป็นไปได้ในตอนแรกก็คือผมอาจต้องพักต่อไปอีก เพื่อให้ร่างกายของผมได้ฟื้นฟู” นาดาลกล่าวหลังคว้าแชมป์เมื่อปีก่อน

 

“อีกทางก็คือผมต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติและแนวความคิดของผม ผมสามารถทำได้ และต่อสู้เพื่อการพัฒนาเล็กๆ ในทุกด้านที่ผมสามารถทำได้”

 

ขณะที่โค้ชคนปัจจุบันของเขาอย่าง คาร์ลอส โมย่า ก็ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “เขามีสภาพจิตใจที่สุดยอด มันเป็นช่วงเวลาที่หนักหนาที่สุดนับตั้งแต่ที่ผมมาร่วมงานกับเขา มันยากมากๆ แต่เขาก็ทุ่มเทถึงที่สุดเพื่อกลับมาลงแข่ง”

 

“เขามีทัศนคติที่น่าเหลือเชื่อในช่วงเวลาอันย่ำแย่เหล่านั้น และนั่นแหละคือเหตุผลที่ทำให้เขาได้รับชัยชนะในวันนี้”

 

บางทีจิตใจที่แข็งแกร่งเกินมนุษย์ทั่วไปของนาดาลนี่แหละที่เป็นกุญแจสำคัญที่สุดที่ทำให้เขายังเป็นราชาคอร์ตดินมาจนทุกวันนี้ เพราะหากเราลองสังเกตดูดีๆ แล้ว แววตาของนักหวดในวัย 33 ปียามลงสนาม มันไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากเด็กหนุ่มคนนั้นเมื่อปี 2005 เลยแม้แต่นิดเดียว