ช่วงพีกสุด : รำลึก เซนเดอรอส แนวรับผู้เคยปิดตายดาวยิงแห่งยุค

เซนเดอรอส

สำหรับ ฟิลิปป์ เซนเดอรอส มีชีวิตค้าแข้งที่ค่อนไปในระดับกลางๆ ไม่ได้แย่สุดๆ หรือยอดเยี่ยมเหนือใคร แต่อย่างน้อยก็มีหนึ่งฤดูกาลสุดมหัศจรรย์ของเขาที่แฟนบอลอาร์เซน่อลไม่มีทางลืม

ฤดูกาล 2005-06 เป็นอีกปีที่น่าจดจำของ ‘ปืนใหญ่’ ภายใต้การคุมทีมของ อาร์ซน เวนเกอร์ ไม่แพ้ชุดดับเบิ้ลแชมป์ของ โอเวอร์มาร์ส, แชมป์ลีกปี 2002 หรือ ชุดแชมป์ไร้พ่าย เนื่องจากนี่เป็นปีที่พวกเขามีโอกาสคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกมากที่สุด 

แม้ผลงานในพรีเมียร์ลีกปีนั้นของ ‘เดอะ กันเนอร์ส’ จะดูไม่เอาอ่าวซักเท่าไหร่ พวกเขาสามารถคว้าชัยได้สบายๆในบางนัด แต่ก็แพ้แบบพลิกล็อกได้แบบกะทันหันเช่นกัน บวกกับช่วงเปลี่ยนถ่ายผู้เล่นในทีม จนทำให้ปีนั้น อาร์เซน่อล คว้าอันดับ 4 ในลีกไปครอง

แต่ท่ามกลางความวุ่นวาย มีนักเตะคนหนึ่งที่ดูโดดเด่นเป็นสง่าในแผงหลัง ลงเล่นไปกว่า 630 นาทีในเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก พร้อมกับเผชิญหน้ากับยอดตัวรุกระดับพระกาฬแห่งยุคมากมาย โดยที่ไม่เสียประตูเลยซักลูกเดียว

คนๆนั้นก็คือ ยักษ์ใหญ่แห่งเจนีวา ‘ฟิลิปป์ เซนเดอรอส’…

 

ผู้เล่นอีกแบบ

Philippe Senderos (Arsenal). Arsenal Reserves 5 (Photos Prints,  Posters,...) #98062

ในปี 2002 เซนเดอรอส ถือดาวรุ่งที่โดดเด่นเป็นอันดับต้นๆของวงการลูกหนัง หลังเบียดขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ทีมเซอร์เวตต์ ตั้งแต่อายุ 17 ปี ทำใหเขาได้รับความสนใจจากทีมดังในยุโรปพอสมควร 

และในเดือนธันวาคม เขาเลือกปฏิเสธ เรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิค และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อย้ายไปร่วมทีมอาร์เซน่อล แม้จะขัดกับความต้องการของผู้เป็นพ่อก็ตาม

“แน่นอน ผมอยากให้เขาย้ายไปร่วม เรอัล มากกว่า” จูเลียน ผู้เป็นพ่อกล่าวอย่างผิดหวัง

หลังจากทำได้แค่ดู อาร์เซน่อลชุดแชมป์ไร้พ่ายในฤดูกาล 2003-04 จากโต๊ะกายภาพ แข้งชาวสวิตก็ได้ลงเล่นนัดแรกให้ ‘ปืนใหญ่’ ในเกมลีกคัพ เมื่อเดือนตุลาคมปี 2004 จากนั้นก็ได้ประเดิมพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในอีก 2-3 เดือนต่อมา

ท้ายฤดูกาลนั้น เขาได้ลงเล่นในนัดชิงเอฟเอ คัพ หลัง โซล แคมป์เบลล์ ได้รับบาดเจ็บ และเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยการดวลจุดโทษคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ

แข้งวัย 20 ปีได้รับการยกย่องอย่างมากหลังขึ้นมาเล่นในชุดใหญ่ได้ แต่เจ้าตัวก็ยังแสดงความมุ่งมั่นต่อไปไม่มีพัก  “ผมเป็นพวกทำงานหนักในโรงเรียนเสมอ” เขากล่าวกับ ดิ อินดีเพนเดนท์

“ผมต้องการทำสิ่งต่างๆให้สำเร็จเสมอ พ่อเคยบอกกับผมว่า เวลาที่เราไม่ได้ใช้ในตอนนี้จะไม่มีวันกลับมาอีกในวันพรุ่งนี้ และผมไม่มีทางลืมคำนั้นเลย ผมพยายามอย่างหนักเสมอในฟุตบอลด้วย เพราะผมไม่ใช่โรนัลดินโญ่ ผมเป็นนักเตะอีกประเภท”

อีก 4 ปีต่อมา กองหลังชาวสวิส ได้เล่นร่วมกับ โรนัลดินโญ่ ในเอซี มิลาน และโหม่งบอลไปชิงหน้าผากของ แข้งชาวแซมบ้า เป็นประตูชัยในเกมนั้นด้วย

 

ผจญภัยในเกมยุโรป

¡Intimidado por el ambiente del Bernabéu! El jugador del Arsenal que vomitó  antes de enfrentar al Real Madrid - FOX Sports

ไม่น่าเชื่อว่า เซนเดอรอส จะไม่เคยเผชิญหน้ากับ โรนัลดินโญ่ ในฐานะคู่แข่งระดับสโมสรเลย ทั้งๆที่ในฤดูกาล 2005-06 แข้งดาวรุ่งแดนนาฬิกา ต้องดวลกับตัวรุกแห่งทศววรษมากมาย

อีกทั้งนี่ยังเป็นฤดูกาลที่แปลกประหลาดของ อาร์เซน่อล เนื่องจากผลงานในพรีเมียร์ลีก พวกเขาหาความคงเส้นคงวาไม่ได้จนห่างไกลจากการลุ้นแชมป์ไปก่อนเวลาอันควร

แต่ในบอลยุโรป พวกเขาเป็นเหมือนคนละทีมที่เห็นในลีก หลังคว้าชัยเหนือทีมใหญ่หลายครั้ง และที่สำคัญนี่น่าจะเป็นฟอร์มเกมรับที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุคที่ อาร์เซน เวนเกอร์ กุมบังเหียนด้วย

เริ่มแรก แนวรับแดนนาฬิกา ไม่ได้เป็นแนวรับตัวหลัก เพราะใน 4 เกมแรกของรอบแบ่งกลุ่ม ปืนใหญ่ใช้งาน แคมป์เบลล์ คู่กับ โคโล่ ตูเร่ และเสียประตูไป 2 นัด 

แต่ทว่าในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน แข้งชาวสวิตก็แย่งตำแหน่งตัวจริงของ แคมป์เบลล์ ได้ หลังปราการหลังชาวผู้ดีบาดเจ็บ ในเกมเอาชนะ เอฟซี ทูน 1-0 และจากนั้นทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

 

เผชิญหน้าระดับโลก

Arsenal's Phillippe Senderos takes on Juventus' Giuliano Giannichedda (l) as Pavel Nedved lies injured (r), Stadio Delle Alpi, Turin, 05 April 2006

เวสลี่ย์ ชไนเดอร์, โรบินโญ่, โรนัลโด้, ซีเนดีน ซีดาน, เดวิด เบ็คแฮม, ราอูล กอนซาเลซ, ดาวิด เทรเซเก้ต์, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, พาเวล เนดเวด, ดิเอโก ฟอร์ลัน, ฮวน โรมัน ริเกลเม่

แค่การต้องตามประกบนักเตะเหล่านี้แค่คนเดียวก็ทำให้กองหลังทั่วไปต้องหวาดผวาไม่น้อย เนื่องจากในยุคนั้นพวกเขาคือแข้งระดับต้นของโลกนี้

ทว่าไม่ใช่กับชายที่ชื่อ เซนเดอรอส เพราะในระหว่างเดือนพฤศจิกายนปี 2005 ถึง เดือนพฤษภาคมปี 2006 หรือตลอด 630 นาทีในเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก กองหน้าอาร์เซน่อลได้เผชิญหน้ากับนักเตะที่กล่าวไปข้างต้นหมดทุกคน

และไม่ว่าจะเป็นความเร็วของ โรนัลโด้, ฟรีคิกของ เบ็คแฮม, ลูกตอกส้นของ ซลาตัน, การลากเลื้อยของ ซีดาน หรือ ลูกชิพของ ราอูล ไม่มีใครสามารถทำประตูต่อหน้ากองหน้ารายนี้ได้เลย

ในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายของแชมเปี้ยนลีก อาร์เซน่อล สามารถเก็บคลีนชีทกับการเจอกับ เรอัล มาดริด ได้ทั้งเกมเหย้าและเยือน จากนั้นพวกเขาก็ทำแบบนี้ได้อีกในเกมที่พบ ยูเวนตุส รอบ 8 ทีมสุดท้าย

แข้งวัย 21 ณ ตอนนั้น ลงเล่นเกมในไฮบิวรี่พบกับ บียาร์เรอัล ในรอบตัดเชือก พร้อมกับปิดตายแก็งค์ของ ริเกลเม่ และเฉือนชนะไป 1-0 ได้

 

จุดเริ่มต้นของการตกต่ำ

Philippe Senderos: I always looked up at Real Madrid since childhood | News  on Beyond100yards

นี่ถือเป็นช่วงเวลาที่โดดเด่นของ เซนเดอรอส กับ อาร์เซน่อล สิ้นสุดลงในพริบตา เพราะหลังจากนั้น แคมป์เบลล์ หายกลับมาจากอาการบาดเจ็บ ได้ลงเล่นในเกมรอบตัดเชือกนัด 2 และยิงในนัดชิงได้ แต่ท้ายที่สุดก็พ่ายแก่ บาร์เซโลน่า ที่มีโรนัลดินโญ่อยู่ในทีม 2-1 โดยที่แข้งชาวสวิตไม่ได้ลงเล่น พร้อมกับต้องเห็นทีมของตนอกหักในนัดชิงอีก

หลังจากนั้น การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทีมอาร์เซน่อลก็ถาโถมเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นการย้ายรังเหย้าจากไฮบิวรี่เป็น เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม หรือ การบอกลาทีมของ เดนนิส เบิร์กแคมป์, โรแบร์ ปิแรส, แอชลี่ย์ โคล และ แคมป์เบล แข้งตัวหลักในทีม

วิลเลี่ยม กัลลาส เข้ามาเป็นตัวแทนของ แคมป์เบลล์ ในดีลสลับขั้วกับ โคล ของเชลซี แต่ทว่าความเป็นผู้นำในแผงหลังของแข้งชาวฝรั่งเศส ยังห่างไกลกับ แข้งชาวอังกฤษอยู่หลายช่วงตัว

และนั่นกลับทำให้โอกาสลงเล่นของ แข้งชาวสวิส น้อยลงไป เมื่อบวกกับการที่ โยฮัน ชูรู เบียดขึ้นมาเป็นเล่นชุดใหญ่เต็มตัว ไม่แปลกที่เขาจะกลับมาฉายแววเด่นแบบในปีก่อนไม่ได้ และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็ไม่สามารถยึดตำแหน่งกองหลังตัวหลักแบบถาวรกับสโมสรไหนที่ตนค้าแข้งได้อีกเลย

แม้เขาจะเล่นมากกว่า 14 ฤดูกาลในฟุตบอลอาชีพ และแขวนสตั๊ดไปในเดือนธันวาคมปี 2019 แต่หลังบอกลาปืนใหญ่เป็นต้นมา อดีตแนวรับ ‘กันเนอร์ส’ กลับลงเล่นเกมลีกมากกว่า 20 นัดต่อฤดูกาลแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งเกิดขึ้นตอนที่เล่นกับ ฟูแล่ม ในระหว่างปี 2011-2013

 

คนใจฝ่อ

Former Chelsea striker Didier Drogba used to cause Arsenal defender Philippe  Senderos to panic

อย่างไรก็ตาม หากมองย้อนไปถึงช่วงที่ เซนเดอรอส ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ชัดเจนว่าเขามีรุ่นพี่ในทีมคอยประคองไว้อีกแรงในรายการแชมเปี้ยนส์ลีก ทำให้ไม่ต้องแบกรับความกดดันมากเกินไป

เขาไม่ใช่กองหลังที่มีความมั่นใจมากนัก และ ฟอร์มการเล่นที่อยู่ในช่วงพีกสุดๆของ ตูเร่ และ เยนส์ เลห์มันส์ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ‘ปืนใหญ่’ เก็บคลีนชีทในบอลยุโรปได้มากกว่าตัวของแนวรับหนุ่มชาวสวิส ณ เวลานั้น

จากคำบอกเล่าของ กัลลาส ได้เผยว่า กองหลังชาวสวิส มักขวัญกระเจิงตั้งแต่ก่อนลงสนาม เมื่อรู้ว่าต้องดวลกับผู้เล่นชั้นนำในเกมสำคัญๆ โดยเฉพาะกับ ดิดิเย่ร์ ดาวยิงตำนานของ เชลซี ที่เขามักจะแพ้ทางบ่อยๆในการพบกันหลายๆครั้ง

“ผมเห็นเขาในเกมกับเชลซี เขาดูหวาดวิตกมากตอนดวลกับ ดร็อกบา มันเหมือนกับว่าเขาผ่านการลงเล่นทั้งเกมมาแล้วก่อนลงแข่ง” กองหลังชาวฝรั่งเศสกล่าวกับ Le Vestiair

“โชคไม่ดีเลย คุณจะเห็นว่าเขาสูญเสียความสามารถเมื่ออยู่ในสนาม เขาเล่นได้ไม่ดี แต่เมื่อแข่งกับเพื่อนร่วมทีมเดียวกัน เขากลับเล่นได้ดีกว่า”

เพราะฉะนั้น หากพิจารณาถึงความมั่นใจของเขา การที่ตัวรุกระดับพระกาฬไม่สามารถยิงประตูผ่าน เซนเดอรอส ได้ในฤดูกาล 2005-06 ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่เหลือเชื่ออีกอย่างในวงการลูกหนังไม่แพ้เรื่องอื่นๆเลย

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดานี่ ปาเรโฆ่
ดานี่ ปาเรโฆ่ : แข้งมากพรสรรค์ที่ถูกมองข้ามในแดนกระทิง