ริชาร์ลิซอน ทำคนเดียวสองประตูพาเต็งหนึ่ง “แซมบ้า” ทีมชาติบราซิล โชว์ฟอร์มได้สมราคาบดเอาชนะทีมชาติเซอร์เบีย ไปได้ 2-0 เก็บ 3 คะแนนนำจ่าฝูงกลุ่ม จี
โดยในเกมนี้ บราซิล จัดชุดใหญ่ลงเล่นด้วยการส่ง 3 แนวรุกอย่าง ราฟินญ่า, เนย์มาร์, วินิซิอุส จูเนียร์ ลงมาปั้นเกมลงเล่นพร้อมกัน ส่วน เซอร์เบีย ได้รับข่าวดีเมื่อ อเล็กซานเดอร์ มิโตรวิช หัวหอกตัวเก่งผ่านความฟิตลงตัวจริง
เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรก บราซิล เป็นฝ่ายครองบอลบุกเข้าใส่ตามเชิง แต่แนวรับของ เซอร์เบีย ก็ทำได้ดี ช่วยกันเล่นเกมป้องกันอย่างได้แข็งแกร่ง โดยใช้ ซาซ่า ลูคิช คอยเป็นตัวที่วิ่งตามประกบเนย์มาร์ ตลอดชนิดที่ว่าไปไหนไปด้วย
ผ่าน 20 นาทีแรก บราซิล เริ่มสร้างโอกาสได้มากขึ้นในเมื่อเจาะไม่เข้าพวกเขาก็เลือกใช้จังหวะบอลยาว สลับกับการยิงไกลจากแถวสองแต่ยังไม่ได้ผล ทำให้จบเกมยังเสมอกันอยู่ 0-0
กลับมาเล่นครึ่งหลังไม่กี่นาที บราซิล พลาดโอกาสออกนำจากจังหวะที่ เนมานย่า กูเดลจ์ ของ เซอร์เบีย ไปเสียบอลหน้าปากเขตโทษ โดน ราฟินญ่า ฉกเข้าไปซัด แต่ติดเซฟของ วานย่า มิลินโควิช-ซาวิช
นาทีที่ 60 บราซิล เกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะยิงไกลของ อเล็กซ์ ซานโดร บอลผ่านมือ วานย่า มิลินโควิช-ซาวิช แต่ไปชนเสาอย่างจัง
จากนั้นนาทีที่ 62 ความพยายามของ บราซิล ก็มาประสบผลสำเร็จได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะยิงด้วยขวาของ วินิซิอุส จูเนียร์ บอลไปติดเซฟ แต่ดันไปเข้าทางของ ริชาร์ลิซอน ที่อยู่ตรงนั้นซ้ำเข้าไปไม่เหลือ
นาทีที่ 73 บราซิล มาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากจังหวะขึ้นเกมทางซ้าย วินิซิอุส จูเนียร์ ลากจี้แนวรับก่อนจะดีดเข้ากลางให้กับ ริชาร์ลิซอน ที่ปักบอลด้วยซ้ายก่อนจะเอี้ยวตัวฟาดด้วยขวาบอลเสียบมุมเข้าไปอย่างสวยงาม
ช่วงเวลาที่เหลือ “แซมบ้า” มีโอกาสได้เพิ่มอีกหลายครั้ง แต่ไม่คมเอง ทำให้จบเกม บราซิล ออกสตาร์ทด้วยการเอาชนะ เซอร์เบีย 2-0 ขึ้นนำจ่าฝูงกลุ่มจี ด้วยการมี 3 คะแนนเท่ากับสวิตเซอร์แลนด์ แต่ลูกได้เสียดีกว่า
โดยเกมต่อไปพวกเขาจะพบกับ สวิตเซอร์แลนด์ ในวันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน ส่วน เซอร์เบีย จะดวลกับแคเมอรูน ในวันเดียวกัน
11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
บราซิล (4-2-3-1): อลิสซอน เบ็คเกอร์, ดานิโล่, มาร์ควินญอส, ติอาโก้ ซิลวา, อเล็กซ์ ซานโดร, ลูคัส ปาเกต้า, คาเซมิโร่, ราฟินญ่า, เนย์มาร์, วินิซิอุส จูเนียร์ และริชาร์ลิซอน
เซอร์เบีย: (3-5-1-1): วานย่า มิลินโควิช-ซาวิช, นิโกล่า มิเลนโควิช, มิลอส เวลจ์โควิช, สตราฮินย่า พาฟโรวิช, อันดริย่า ซิฟโควิช, เซอร์เกย์ มิลินโควิช-ซาวิช, เนมานย่า กูเดลจ์, ซาซ่า ลูคิช, ฟิลิป มาลาเดโนวิช, ดูซาน ทาดิช และอเล็กซานดาร์ มิโตรวิช
