รูนี่ย์ตามรอย : 10 แข้งดังผู้รับบทนักเตะควบตำแหน่งกุนซือในสโมสร

 

แม้จะรับบทบาทเป็นผู้จัดการทีมรักษาการชั่วคราว แต่ เวย์น รูนี่ย์ ก็กลายเป็นแข้งดังรายล่าสุดที่ควบตำแหน่งผู้เล่น-กุนซือให้ ดาร์บี้ เค้าน์ตี้ ในตอนนี้

 

เดิมที อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ ย้ายกลับมาเล่นกับ ‘แกะเขาเหล็ก’ ในฐานะนักเตะและโค้ชของทีมอยู่แล้ว นับตั้งแต่ต้นปี 2020 ที่ผ่านมา แต่เมื่อ ฟิลลิป โคคู ได้แยกทางกับทีม ทำให้ แข้งวัย 35 ปี ก้าวขึ้นมาทำหน้าที่กุนซือชั่วคราว โดยจะคุมทีมครั้งแรกพบกับ บริสตอล ซิตี้ ในวันเสาร์นี้

 

ภาพของนักเตะที่กลายมาเป็นคนคุมและชี้แจงแผนการเล่นในห้องแต่งตัวมีให้เห็นอยู่เรื่อยมาในวงการลูกหนัง ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ จอห์น โทแช็ค พา สวอนซี เลื่อนชั้นช่วงปลายยุค 70 หรือ คริส ว็อดเดิ้ล ที่พา เบิร์นลี่ย์ รอดตกชั้นจากลีกดิวิชั่น 3 ในปี 1998

 

เนื่องในโอกาสนี้  UFA ARENA จึงจะพาทุกท่านไปพบกับนักเตะอีก 10 รายก่อนหน้านี้ที่ควบ 2 บทบาทกับสโมสรที่พวกเขาสังกัดอยู่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

 

 

เอ็ดการ์ ดาวิดส์ | บาร์เน็ต

 

 

ไม่มีใครปฏิเสธถึงความมั่นอกมั่นใจของ เอ็ดการ์ ดาวิดส์ ที่มอบเสื้อหมายเลข 1 ให้กับตนเอง แต่มันดูผิดที่ผิดทางไปหน่อยยามที่เขาอยู่กับ บาร์เน็ต

 

ภายใต้การนำของแข้งฉายา ‘พิทบลู’ บาร์เน็ต ตกชั้นไปเล่นในลีกทูตั้งแต่ฤดูกาลแรก อีกทั้ง อดีตกองกลาง บาร์เซโลน่า และ ยูเวนตุส ก็ปรับตัวให้เข้ากับลีกรองได้ไม่ดีเท่าไหร่ เมื่อเขาโดนกรรมการแจกใบเหลืองใน 8 เกมแรก ซึ่งเป็นการไล่ออกถึง 3 ครั้งด้วยกัน

 

อีกทั้งเรื่องราววุ่น ๆ ของแข้งชาวดัตช์ก็ยังมีมากมาย ทั้งปฏิเสธการเดินทางไปเล่นในเกมเยือน จนให้ผู้ช่วยกุนซือมาทำหน้าที่ ก่อนที่จะลาสโมสรไปในเดือนมกราคมปี 2014

 

 

แกรมส์ ซูเนสส์ | เรนเจอร์ส

 

 

ไม่ว่าจะมีการโต้เถียงรุนแรงแค่ไหน คนอย่าง แกรม ซูเนสส์ ก็ไม่เคยกลัวใคร และในช่วงที่รับตำแหน่งผู้เล่น-กุนซือกับ กลาสโกว เรนเจอร์ส ก็เคยเอาตัวเองเป็นตัวสำรอง หลังโดนแบนห้ามคุมทีมมาแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ประสบความสำเร็จในลีกสก็อตแลนด์พอตัวเลย

 

หลังย้ายมาจาก ซามพ์โดเดีย อดีตแข้งลิเวอรพูล ใช้เวลา 5 ปีในถิ่นไอบรอกซ์ ด้วยการคว้าแชมป์ลีกสก็อต 3 สมัย และบอลถ้วยแดนวิสกี้อีก 4 สมัย

 

 

เคนนี่ ดัลกลิช | ลิเวอร์พูล

 

 

ดัลกลิช เป็นหนึ่งในแข้งตำนานของ ลิเวอร์พูล และก้าวขึ้นมารับตำแหน่งแทนที่ โจ เฟแกน ที่ออกจากการเป็นกุนซือในปี 1985  และเป็นอดีตแข้งทีมชาติสก็อตแลนด์ที่คุมทีมในช่วง โศกนาฏกรรม ณ สนาม เฮย์เซลในปี 1989

 

ฤดูกาลแรกของ ดัลกลิช ในฐานะผู้เล่น-ผู้จัดการทีม เขาเป็นคนยิงประตูชัยให้ทีมชนะ เชลซี และคว้าแชมป์ลีกไปครอง ก่อนจะคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ หลังจากนั้น ก่อนที่คว้าแชมป์ลีกเพิ่มอีก 2 สมัย และเอฟเอ คัพ อีกสมัยในเวลาต่อมา 

 

ดัลกลิช แขวนสตั๊ดเพื่อมาคุมทีมเต็มตัวในปี 1990 แต่นั่นก็เป็นฤดูกาลที่เขาไม่สามารถคว้าแชมป์อะไรได้เลย ก่อนจะลาตำแหน่งในแอนฟิลด์ไปหลังจบฤดูกาลนั้น

 

 

ไบรอัน ร็อบสัน | มิดเดิ้ลสโบรห์

 

 

ย้อนกลับไปในปี 1994 ร็อบสัน ถือเป็นหนึ่งในกัปตันทีมที่ได้รับการยกย่องว่ายิ่งใหญ่ที่สุดของวงการลูกหนังอังกฤษ และความสามารถของเขาในการสร้างพลังขับเคลื่อนให้กับทีม ได้ไปเตะตา สตีฟ กิ๊บสัน ประธานสโมสรมิดเดิ้ลสโบรซ์ ‘ร็อบโบ้’ จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้เล่น-ผู้จัดการทีมของสิงห์แดงสำหรับลุยซีซั่น 1994-95

 

‘กัปตันมาร์เวล’ สามารถพาโบโร่ทะยานขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เข้ามารับงาน และในปี 1997 เจ้าตัวก็นำสิงห์แดงเข้าชิงบอลถ้วยในประเทศได้ทั้ง เอฟเอ คัพ และลีกคัพ แต่ก็น่าเสียดายที่สุดท้าย พวกเขาดันเป็นได้เพียงพระรองทั้ง 2 รายการ

 

 

เกล็น ฮ็อดเดิ้ล | สวินดอน ทาวน์, เชลซี

 

 

ฮ็อดเดิ้ล ถือว่ามีช่วงเวลาที่มหัศจรรย์กับ สวินดอน ทาวน์ อย่างมาก เมื่อพาทีมที่ไม่ได้มีเงินมากมายอะไรขึ้นมาเชิดฉายในพรีเมียร์ลีก หลังคุมทีมได้ 2 ปี พร้อมเป็นคนยิงประตูสำคัญในนัดชิงเพลย์ออฟเลื่อนชั้นด้วย

 

ทันทีประสบความสำเร็จกับ สวินดอน ทาวน์ อดีตกองกลางสเปอร์ส ย้ายมารับตำแหน่งกุนซือควบผู้เล่นกับ เชลซี ในปี 1993 พร้อมเป็นนักเตะ-กุนซือ คนแรกที่พาทีมเข้าชิงเอฟเอ คัพ ในปี 1994 จากนั้นจึงแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการหลังเสร็จสิ้นฤดูกาล 1994-95

 

 

แวงต์ซองต์ กอมปานี | อันเดอร์เลชท์

 

 

ไม่มีใครข้องใจกับความสามารถของ กอมปานี ในฐานะผู้เล่น แต่ช่วงเวลาที่เขาควบ 2 ตำแหน่งกับ อันเดอร์เลชท์  สโมสรในบ้านเกิด ก็พิสูจน์ว่าไม่ใช่ง่ายเลยในการทำหน้าที่หลาย ๆ อย่างไปพร้อมกันในฟุตบอลยุคใหม่

 

หลังลา แมนเชสเตอร์  ซิตี้ กองหลังวัย 34 ปี ก็เข้ามารับตำแหน่ง ผู้เล่น-กุนซือ กับ อันเดอร์เลชท์ แต่เขาก็ก้าวลงจากหน้าที่เพื่อโฟกัสกับการเล่นในสนามอย่างเดียว หลังพาทีมออกสตาร์ทได้ย่ำแย่ที่สุดในลีก นับตั้งปแต่ฤดูกาล 1998-99

 

อย่างไรก็ตาม อดีตกองหลังทีมชาติเบลเยี่ยม ที่เพิ่งประกาศแขวนสตั๊ดไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ ได้หวนกลับไปคุมทีมเก่าแบบเต็มตัวอีกครั้ง แต่ผลงานก็ยังไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ เมื่อรั้งอันดับ 7 ในตาราง ณ เวลานี้

 

 

โรมาริโอ | วาสโก ดา กาม่า

 

 

ในวัย 41 ปี โรมาริโอ ก็ยังเดินค้าแข้งต่อไป และตัดสินใจรับหน้าที่คุมทีม วาสโก ดา กาม่า ไปพร้อม ๆ กันในเดือนตุลาคมปี 2007 โดยคุมทีมนัดแรกในเกมเลกสองของศึก โคปา สุดาเมริกาน่า พบกับ คลับ อเมริกา สโมสรจากเม็กซิโก

 

แม้จะชนะไป 1-0 แต่ก็ไม่เพียงพอทำให้ทีมเข้ารอบต่อไปได้ แต่ตำนานหอกทีมชาติบราซิล ก็ลาตำแหน่งนี้ในปี 2008 หลังตรวจสอบพบสารต้องห้าม แม้เขาจะอ้างว่าเกิดจากการรักษาอาการศรีษะล้านก็ตาม

 

 

เจนนาโร่ กัตตูโซ่ | ซิยง

 

 

ฤดูกาล 2012-13 ของ ซิยง สโมสรจากสวิตเซอร์แลนด์ ถือเป็นช่วงที่โกลาหลสุด ๆ และ เจนนาโร่ กัตตูโซ่ ก็มีส่วนร่วมในเหตุการณ์นั้นด้วย เมื่อเขาเป็นผู้จัดการทีมคนที่ 5 ที่โดนไล่ออก หลังจากทำหน้าที่ ผู้เล่น-กุนซือ ได้ 3 เดือน

 

สิ่งที่น่าประหลาดกว่านั้นคือคนที่ อดีตกองกลางทีมชาติอิตาลี เข้ามาแทนที่ในตำแหน่งกุนซือคือ  วิคตอร์ มูนอซ อดีตแมวมองของสโมสรผู้ถูกเลื่อนขั้นให้มาตำแหน่งคุมทีมแบบที่แฟนบอลก็ได้แต่นั่งงงไปตาม ๆ กัน

 

 

รุด กุลลิต | เชลซี

 

 

รุด กุลลิท เล่นกับ เชลซี ภายใต้การนำของ เกล็น ฮ็อดเดิ้ล อยู่หนึ่งฤดูกาล และได้เรียนรู้ศิลปะการจัดการทีมมากมายจากเจ้านายผู้นี้ ซึ่งหลังจากที่ ฮ็อดเดิ้ล อำลาถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ไปกุมบังเหียนทีมชาติอังกฤษในปี 1996 ตำนานดัตช์แมนก็ถูกดันขึ้นเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่แทนที่ แต่ยังคงสถานะผู้เล่นไว้เหมือนเดิม

 

อดีตจอมทัพทีมชาติฮอลแลนด์ ที่ทำหน้าที่เป็นกุนซือไปด้วย และลงสนามจับคู่กับ เดนนิส ไวส์ ในแดนกลางไปด้วย สามารถพาสิงโตน้ำเงินครามคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้ทันทีตั้งแต่ซีซั่นเปิดตัว ซึ่งนี่ถือเป็นถ้วยใบแรกในรอบ 26 ปีของสโมสร แต่ก็โดนปลดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 1998 แม้จะพาสิงห์บลูส์รั้งที่ 2 ของตารางอยู่ ณ เวลานั้นก็ตาม

 

ความดีงามของ กุลลิท ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เมื่อเจ้าตัวเป็นคนดึง จานฟรังโก้ โซล่า , โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ และ จานลูก้า วิอัลลี่ มาสู่สโมสร ซึ่งทั้งหมดถือเป็นดีลระดับท็อปลิสต์ของ เชลซี ทั้งสิ้น

 

 

จานลูก้า วิอัลลี่ | เชลซี

 

 

เมื่อ กุลลิต ออกไป  จานลูก้า วิอัลลี่ ในวัย 33 ปี ก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นควบตำแหน่งผู้จัดการทีมแทนทันที และทำผลงานเข้าตาใช้ได้ ด้วยการคว้าแชมป์ วินเนอร์ส คัพ และ ลีก คัพ ในฤดูกาล 1997-98

 

แม้จะจบฤดูกาลแบบมือเปล่าในปีต่อมา แต่หอกชาวอิตาเลี่ยนที่แขวนสตั๊ดในปี 1999 ก็แก้ตัวได้ด้วยการคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ กับ สิงห์บลู ในปี 2000 ทว่าฟอร์มที่ย่ำแย่ในช่วง 5 นัดแรกของฤดูกาล 2000-01 ทำให้ วิอัลลี่ ต้องเก็บข้าวของออกจาก สแตมฟอร์ด บริดจ์ไป