บรรดา 4 ลีกยักษ์ใหญ่ในยุโรปได้ทำการเสริมทัพแบบจัดหนักจัดเต็มจนทำลายสถิติของลีกพวกเขาเอง หลังสโมสรจากพรีเมียร์ลีกครองอำนาจในทวีปมาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
การใช้เงินเสริมทัพของลีกสูงสุดแดนผู้ดีมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และ ทำยอดแตะ 1.41 พันล้านปอนด์ ในซัมเมอร์นี้ แต่จากการรายงานของ บริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีรายใหญ่ระดับโลกอย่าง Deloitte ได้เผยว่าตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นมาแค่ 20 ล้านปอนด์ หากเทียบสถิติในปี 2017
ซึ่งการอัดฉีดเงินรางวัลจำนวนมหาศาลดูจะเป็นการกระตุ้นให้สโมสรจากอังกฤษประสบความาสำเร็จในยุโรปอย่างมาก หลังทั้ง 4 ทีมในพรีเมียร์ลีกสามารถเข้าคู่ชิงได้ทั้ง แชมเปี้ยนส์ลีก และ ยูโรป้า ลีก แบบที่ไม่เคยปรากฏขึ้นให้เห็นมาก่อนในฤดูกาลที่ผ่านมา
แต่ลีกระดับท็อปอีก 4 ประเทศในยุโรปต่างทำลายสถิติของตนเองในการเสริมทัพนักเตะเพื่อเป็นการท้าทายอำนาจของทีมจากแดนผู้ดีที่ครองเบอร์หนึ่งในเรื่องนี้มานานกว่า 3 ปีด้วยกัน
โดยมีลาลีก้าตามมาติดๆ หลังทำสถิติใช้เงินถึง 10 หลักเป็นครั้งแรก ตามมาด้วย เซเรียอา ที่แตะหลักพันล้านเช่นกัน ส่วนบุนเดสลีก้า และ ลีกเอิง จะใช้เงินไม่ถึงหลักดังกล่าวแต่ก็เพิ่มมากกว่าฤดูกาลก่อนเกิน 50 เปอร์เซนต์เลยทีเดียว
ทาง UFA ARENA จะพาแฟนบอลทุกท่านไปติดตามว่า ลีกดังๆในยุโรปนอกเหนือจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้พัฒนาการใช้เงินในซัมเมอร์นี้มากแค่ไหนผ่านบทความนี้กัน
ลาลีก้า สเปน
ใช้เงินในซัมเมอร์นี้ : 1.24 พันล้านปอนด์ (เพิ่มขึ้น 82 เปอร์เซนต์)
ทีมที่ใช้เงินมากที่สุด : เรอัล มาดริด
แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถดึงให้ เนย์มาร์ กลับมาโชว์ฝีเท้าในสเปนได้ ลาลีก้า ก็ยังคงเป็นลีกที่จัดหนักในการเสริมทัพมากๆเป็นอันดับต้นๆของยุโรป ไม่ว่าจะเป็นดีลของ เอเด็น อาซาร์ ที่เรอัล มาดริด คว้าตัวมาจากเชลซี เพิ่มเติมด้วย ลูก้า โยวิช, เอแดร์ มิลิเตา, เฟอร์ลองด์ เมนดี้, และ โรดริโก้
ขณะที่คู่แค้นตลอดกาลอย่าง บาร์เซโลน่า ก็เสริมทัพจัดหนักไม่แพ้กัน โดยคว้าตัว อองตวน กรีซมันน์ จากแอตเลติโก้ มาดริด, แฟรงกี้ เดอ ยอง กองกลางดาวโรจน์จากอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม และ เนโต้ นายทวารมือสอง แทนที่ แยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ที่ย้ายไปบาเลนเซีย
ส่วนทีมตราหมีที่อยู่ในทีมลุ้นแชมป์อีกทีมก็ทุบสถิติสโมสรด้วยการคว้า ชูเอา เฟลิกซ์ จาก เบนฟิก้า มาด้วยค่าตัว 112 ล้านปอนด์, คีแรน ทริปเปียร์ แบ็คชาวอังกฤษจากสเปอร์ส และ มาร์กอส ยอเรนเต้ จาก เรอัล มาดริด อริร่วมเมือง
อย่างไรก็ตาม ลีกสูงสุดแดนกระทิงก็ต้องเสียนักเตะมากพรสวรรค์ไป ทั้ง โรดรี้, ลูคัส แอร์กนองเดซ, มาเตโอ โควาซิช, มัลค่อม, ปาโบล ฟอร์นัลส์ และ อังเดร โกเมซ รวมไปถึงแข้งที่ปล่อยตัวชั่วคราวอย่าง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ และ ดานี่ เซบายอส
เซเรียอา อิตาลี
ใช้เงินในซัมเมอร์นี้ : 1.06 พันล้านปอนด์ (เพิ่มขึ้น 17 เปอร์เซนต์)
ทีมที่ใช้เงินมากที่สุด : ยูเวนตุส
ลีกอิตาลีมีอัตราการใช้เงินเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดจากบรรดา 4 ลีกนี้ แค่ 17 เปอร์เซนต์เท่านั้น แต่พวกเขาก็ได้นักเตะระดับท็อปมาประดับลีก เช่น โรเมลู ลูกากู, ดานิโล่, มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์, อารอน แรมซีย์, อาเดรียน ราบิโอต์ และ ดีเอโก้ โกดิน โดย 3 คนสุดท้ายคือนักเตะที่ต้นสังกัดคว้ามาได้แบบไร้ค่าตัว
แต่ก็เข้าใจได้ว่าทำไมเซเรียอาถึงมีอัตราการใช้จ่ายที่น้อยลงกว่าเดิม เนื่องจากพวกเขาเน้นไปที่การยืมตัวนักเตะมาใช้งานมากขึ้น ทั้งอเล็กซิส ซานเชซ, คริส สมอลลิ่ง, ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า และ เฮนริค มคิตาร์ยาน จากพรีเมียร์ลีก เช่นเดียวกับ เฟร์นานโด้ ยอเรนเต้ ที่ย้ายมานาโปลีแบบฟรีๆ กับ มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน ที่ย้ายไปปาร์ม่าด้วยค่าตัวที่ถูกแสนถูก
ส่วนฝั่งขาออก แข้งดาวโรจน์อย่าง มอยเซ่ คีน และ เชา คานเซโล่ ก็ย้ายข้ามฝากไปอยู่แดนผู้ดั ขณะที่วูล์ฟก็ดึงตัว เปโดร เนโต้ และ บรูโน่ จอร์เดา กับทีม หลังทั้งคู่หมดสัญญายืมตัวกับลาซิโอเรียบร้อย
บุนเดสลีก้า เยอรมัน
ใช้เงินในซัมเมอร์นี้ : 670 ล้านปอนด์ (เพิ่มขึ้น 68 เปอร์เซนต์)
ทีมที่ใช้เงินมากที่สุด : บาเยิร์น มิวนิค
กรณีนี้ในปีที่แล้ว มีช่องว่างที่แตกต่างกันอย่างเด่นชัดระหว่างลาลีก้าและเซเรียอา รวมไปถึงช่องว่างมีอยู่พอตัวในบุนเดสลีก้าและ ลีกเอิง แต่ทว่าในซัมเมอร์นี้ ลีกเมืองเบียร์กลับห่างจากลีกแดนน้ำหอมเพียงไม่กี่สิบล้านปอนด์เท่านั้น
ดาวเด่นในการซื้อขายของพวกเขาคงหนีไม่พ้น ลูคัส แอร์กนองเดซ,ปาโก อัลกาเซร์, แบงจาแมง ปาวาร์ ขณะที่ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ อิวาน เปริซิช, มาร์โก กรูยิช, อีธาน เอ็มปาดู และ เจอน์เก้น โลคาเดีย ต่างเป็นดีลยืมตัวทั้งสิ้น
ยูเลี่ยน บรันดท์, มัตต์ ฮุมเมลส์ และ ทอร์แกน อาซาร์ ต่างเป็นข่าวใหญ่การซื้อขายนักเตะของลีกหลังย้ายไปอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ แต่ถึงกระนั้น ลีกแดนไส้กรอกก็ต้องเสียนักเตะฝีเท้าดีไปเช่นกัน เช่น โยวิช, โจลิงตัน, เซบาสเตียน อัลแลร์, อับดู ดิยัลโล่, เรนาโต้ ซานเชซ และ ฟรองค์ ริเบรี่
ลีกเอิง ฝรั่งเศส
ใช้เงินในซัมเมอร์นี้ : 605 ล้านปอนด์ (เพิ่มขึ้น 73 เปอร์เซนต์)
ทีมที่ใช้เงินมากที่สุด : โมนาโก
ลีกเอิงเป็นทีมที่ใช้เงินในซัมเมอร์นี้น้อยที่สุดในบรรดา 5 ลีกดังของยุโรป และรั้งท้ายมา 2 ฤดูกาลติดกันในช่วงซัมเมอร์แล้ว แต่หากดูกันดีในปีนี้ลีกแดนน้ำหอมใช้เงินมากกว่าปีที่ผ่านมาเกือบเท่าตัว ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 73 เปอร์เซนต์
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้คว้าตัว อิดริสซ่า กาน่า เกย์ จากเอฟเวอร์ตันมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 29 ล้านปอนด์ พร้อมกับดึงตัว อันเดร์ เอร์เรร่า จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแบบฟรีๆ แต่แต่นั้นยังไม่พอ เปแอชเชยังเสริมแกร่งคว้า อับดู ดิยัลโล่ จากดอร์ทมุนด์ และ ปาโบล ซาราเบีย กับ เคเลอร์ นาบาส 2 แข้งดังจากสเปนมาด้วย
นอกจากนี้ ลีกเอิงยังไปคว้านักเตะดาวเด่นมาโชว์ฝีเท่าในประเทศมากมายทั้ง แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก, วิสซาม เบน เยแดร์, เกลสัน มาร์ตินส์ และ โยอาคิม แอนเดอร์สัน ขณะที่ อดีตแข้งปืนใหญ่ เจฟฟ์ เรเน่-อเดเลด ก็ย้ายจากอองเช่ร์มาอยู่ลียง
อาร์เซน่อลที่คว้าตัว วิลเลี่ยม ซาลีบา จากแซงต์ เอเตียน เรียบร้อย แต่ก็ปล่อยให้ทีมเก่ายืมตัวไปก่อนหนึ่งฤดูกาลเต็มๆ ส่วน ติเอมูเอ้ บากาโยโก้, เมาโร อิคาร์ดี้, อัลบัน ลาฟอนท์ และ ฌอง-เควิน โอกุสแต็ง ก็ย้ายมาอยู่ทีมอันดับต้นๆในลีกสูงสุดของฝรั่งเศสเช่นกัน
แต่ในขณะที่เปแอชเชรั้งตัวเนย์มาร์ไว้ได้ ลีกเอิงก็ต้องเสียนักเตะดีๆไปไม่น้อยเช่น นิโคลัส เปเป้, ตองกีย์ เอ็นดอมเบเล่, ยูริ เตเลมันส์, โจวานี่ โล เซลโซ่, อิสไมล่า ซาร์ และ อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง ที่ย้ายมาค้าแข้งในอังกฤษยกชุด
รวมไปถึง นาบีล เฟคีร์, อาเดรียน ลาบิโอต์, เฟอร์ลองด์ เมนดี้, มาริโอ บาโลเตลลี่, เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค และ มุสซ่า ดิอาบี้ ที่กระจายไปค้าแข้งกับลีกดังทั่วยุโรป
