ลีกสุดโหด! 10สตาร์ดังเอาชื่อมาทิ้งบนเวทีพรีเมียร์ลีก

 

ถ้าหากกล่าวถึงพรีเมียร์ลีกหลายฝ่ายทั้งแฟนบอล และนักเตะเองก็ต่างรู้ดีว่าเป็นลีกที่มีความโหดหินที่สุดในโลก ทั้งในเรื่องวัฒนธรรมฟุตบอลและสไตล์การเล่น ทำให้ในหลายๆครั้งนักเตะที่โชว์ฟอร์มเปรี้ยงปร้างในลีกอื่นต้องเอาชื่อมาทิ้งที่นี้ อย่างล่าสุด ลิโอเนล เมสซี่ ที่มีข่าวว่าจะย้ายมาค้าแข้งในอังกฤษช่วงบั้นปลายอาชีพ ก็ถูก เอ็มมานูเอล เปอร์ตี อดีตกองกลางอาร์เซน่อล ออกมาสบประมาทว่าแข้งต่างดาวคงไม่เหมาะกับฟุตบอลอังกฤษและคงจะเอาชื่อมาทิ้งเป็นแน่

 

วันนี้ทาง UFA ARENA จะขอพาทุกท่านไปดูกันว่ามีอดีตนักเตะดาวดังคนไหนบ้างที่ย้ายมาสู่ลีกอักฤษแล้วฟอร์มดับลงไปดื้อๆบ้างกับ 10สตาร์ดังที่เอาชื่อมาทิ้งไว้บนเวีทีพรีเมียร์ลีก

 

โรบินโญ่(แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

เริ่มกันที่ดาวยิงชาวบราซิเลี่ยนที่ในตอนนั้นยังไม่ถือเป็นซุปเปอร์สตาร์ประดับวงการ แต่ก็ถือว่าเป็นเพรชเม็ดงามของวงการลูกหนังแซมบ้าในเวลานั้น และแม้ว่าฟอร์มจะไม่ได้เปรี้ยงปร้างกับ เรอัล มาดริด แต่ก็ได้ชื่อว่าถูกปลุกปั้นโดยทัพราชันชุดขาว ซึ่งในเวลานั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังเริ่มตั้งไข่ก็ได้ดึงตัวดาวรุ่งพุ่งแรงรายนี้เข้ามาโลดแล่นบนเวทีพรีเมียร์ลีก แต่การมาเล่นที่เกาะอังกฤษถือเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดสำหรับเพรชเม็ดงามรายนี้ เพราะเจ้าตัวไม่สามารถโชว์ผลงานออกมาได้เลย จาก2ฤดูกาลที่อยู่กับทัพเรือใบ ลงสนามไป 53นัด ยิงได้แค่ 16ประตู รวมทุกรายการเท่านั้น ก่อนที่ โรบินโญ่ จะไปกู้ชื่อเสียงของตัวเองกลับมาในการไปอยู่กับ เอซี มิลานในช่วงปี 2010-2014

 

ดิเอโก้ ฟอร์ลัน(แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

อีกหนึ่งดาวรุ่งพุ่งแรงที่เป็นที่น่าจับตามองในวงการลูกหนังในเวลานั้น ซึ่งเจ้าตัวสร้างชื่อมาจากการเล่นให้กับ อินเดเพนเต้ ทีมดังจากลีกอาร์เจนติน่า จนกระทั่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การนำของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มาสู่ขอตัวแข้งหนุ่มรายนี้ไปร่วมทัพ แต่การย้ายมาที่โอลด์แทรฟฟอร์ด เป็นเหมือนฝันร้ายของเจ้าตัวเพราะจากการลงสนาม 63นัด เขายิงได้แค่ 10ประตูเท่านั้นในลีกตลอด 4ฤดูกาลที่เขายิงไม่ถึง 10ลูกเลยสักฤดูกาล นอกจากนี้ในฤดูกาลแรกของเขากับทัพปีศาจแดงก็ยิงไม่ได้เลยลสักประตู กว่าจะหาประตูแรกของตัวเองเจอก็ไปเข้าไปนัดที่ 11ของฤดูกาลถัดมา หรือนับเป็น เกมที่ 24ของเขากับแมนฯยู ก่อนที่สุดท้ายจะถูกปล่อยไปให้กับ บียาร์เรอัล ในลีกสเปน และสามารถกู้ฟอร์มเทพกลับมาดังเปรี้ยงปร้างอีกครั้ง ด้วยการซัดไป 54ประตู จากแค่3ฤดูกาลในลีกเท่านั้น และเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมชาติอุรุกวัย

 

จอร์จ เวอาห์(เชลซี/แมนเชสเตอร์ซิตี้)

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ george weah chelsea

ชายผู้ได้ชื่อว่าเป็นตำนานของเอซี มิลาน เจ้าของบัลลงดอร์ปี 1995 เจ้าตัวสร้างชื่อมาตั้งแต่โลดแล่นอยู่บนเวทีลีกเอิง จนมาเปรี้ยงปร้างกับทัพปีศาจแดงดำ ที่ในเวลานั้นแทบจะเป็นทีมที่ดีที่สุดในโลก เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายอาชีพ เจ้าตัวก็เลือกย้ายออกจากถิ่นซานซิโร่ มาหาความท้าทายกับลีกที่ได้ชื่อว่า โหดหินที่สุดในโลก และมาอยู่กับเชลซี แต่เจ้าตัวก็ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง จากการลงสนามไปทั้งหมด 11นัด ยิง 3ประตูในลีก ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จอยู่ดี เมื่อลงสนามไป 7นัด ยิง 1ประตู ในลีก

 

เฟร์นานโด มอริเอนเตส(ลิเวอร์พูล)

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Fernando Morientes liverpool

นักเตะผู้สร้างชื่อมาจากการเล่นให้เรอัล มาดริด ยอดทีมจากแดนกระทิงดุที่สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะรายล้อมไปด้วยสตาร์ดังทั้ง ราอูล, ไมเคิ่ล โอเว่น และ โรนัลโด้ ก่อนที่เขาจะถูกปล่อยให้โมนาโกไปใช้งานและทำผลงานพาทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้สำเร็จ แน่นอนว่าฝีเท้าการันตีขนาดนี้เมื่อลิเวอร์พูล จัดการดึงตัวมาร่วมทัพ เหล่าเดอะ ค็อปก็ดีใจกันเป็นแทบ และคาดหวังให้มาเป็นกำลังหลักในแนวรุก แต่ในระยะเวลา 18เดือนที่อยู่บนเวทีพรีเมียร์ลีกเจ้าตัวยิงไปได้แค่ 8ประตู จาก 41นัดเท่านั้น

 

เฮอร์นัน เครสโป (เชลซี)

กองหน้าที่ถือว่าเป็นตำนานในลีกกัลโช่เซเรียอา ที่ได้ชื่อว่าเป็นลีกที่ดีที่สุดของโลกในเวลานั้น เจ้าตัวสร้างชื่อมากับลาซิโอ แม้การมาอยู่กับอินเตอร์ มิลานจะมีอาการบาดเจ็บรบกวนจนไม่ได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็ยิงไปถึง 16ประตู จาก 30นัด รวมทุกรายการ ก่อนที่จะย้ายมาที่เชลซีในเวลาต่อมาแต่ฟอร์มเก่งของเขาก็ไม่ถูกแสดงออกมาเลย จากการยิง 20ประตูจาก 49นัดในลีก 2ฤดูกาล ถือว่าล้มเหลวกับการมาเล่นในเกาะอังกฤษ สุดท้ายก็ถูกปล่อยกลับไปที่อิตาลีอีกครั้ง และสามารถกลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้ง แม้จะไม่เทพเหมือนตอนที่พีคกับลาซิโอก็ตาม

 

ราดาเมล ฟัลเกา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด/เชลซี)

กองหน้าเจ้าของฉายา ‘เอล ติเกร’ ที่แปลว่าเสือโคร่ง สร้างชื่อให้โด่งดังมาจากการเล่นให้ปอร์โต้ และ แอตเลนติโก มาดริด จนกระทั้ง โมนาโก ตัดสินใจไปดึงมาร่วมทัพ และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมต่อเนื่อง ก่อนที่เขาจะมาโดนอาการบาดเจ็บที่เอ็นหลังหัวเข่า ทำให้ฟอร์มเก่งของเขาถูกพรากไป ก่อนที่จะถูกส่งตัวมาให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืมตัว แม้ว่าปีศาจแดงจะเข็นให้เขาลงไปถึง 26นัด แต่ก็ได้รับค่าตอบแทนมาแค่ 4ประตูเท่านั้นในลีก หลังจากนั้นก็เป็นเชลซี ที่อยากลองของบ้าง และได้ลองสมใจอยากเมื่อเจ้าตัวยิงได้แค่ประตูเดียวจาก 10นัดในลีก กลายเป็นการดับอนาคตของเขาอย่างสิ้นเชิง

 

โรเบร์โต้ โซลดาโด้(สเปอร์ส)

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ roberto soldado spurs

กองหน้าเด็กปั้นของเรอัล มาดริด ที่ไปแจ้งเกิดเต็มตัวกับ บาเลนเซียช่วงปี 2010-2013 ในเวลานั้นเขาคือนักเตะที่น่าจับตามองที่สุดในยุโรปคนหนึ่ง ด้วยการลงสนามให้กับทัพค้างคาวไปทั้งหมด 101นัด ยิง 59ประตูในลาลีก้าสเปนตลอด 3ฤดูกาล ในขณะเดียวกัน ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส ที่เพิ่งขาย แกเร็ธ เบล สตาร์ของทีมออกไปให้เรอัล มาดริด และได้รับเงินก้อนโตมาจำนวน 100ล้านยูโร ก็กว้านซื้อนักเตะไปร่วมมทัพเพียบ หนึ่งในนั้นคือ โซลดาโด้ ที่ถูกตั้งความหวังให้มาระเบิดฟอร์มบนเกาะอังกฤษ แต่สิ่งที่ได้คือความขาดทุนกับค่าตัว 30ล้านยูโรที่ไก่เดือยทองเสียไป และได้ผลงานมาแค่การยิง 7ประตู จาก52นัดในลีก ก่อนจะถูกขายทิ้งไปในราคาแค่ 8ล้านยูโรเท่านั้น

 

อังเดร เชฟเชนโก้(เชลซี)

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ andriy shevchenko chelsea

กองหน้าชาวยูเครนที่เรียกได้ว่าเป็นยอดนักเตะของยุโรปในช่วงปี 2000ต้นๆ เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ปี 2004 และดาวซัลโวประจำลีกกัลโช่เซเรียอา และถือเป็นตำนานดาวยิงของทีมชาติยูเครน โดยสโมสรที่เป็นที่ที่สร้างความยิ่งใหญ่ให้กับเขานั่นก็คือ เอซี มิลาน เขาลงสนามไปทั้งหมด 226นัด ยิง 127ประตูในลีก ตลอด 7ฤดูกาลที่อยู่กับทีม หลังจากนั้นเชลซี ทีมดังจากเกาะอังกฤษ ก็ขอลองของกับกองหน้าจากลีกกัลโช่อีกครั้ง หลังจาก เฮอร์นัน เครสโป เข้ามาล้มเหลวในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่สุดท้ายแม้แต่ เชฟเชนโก้ ที่มีฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมต่อเนื่องก็ยังต้องมาดับสนิทในเวทีพรีเมียร์ลีก เมื่อเขาลงสนามให้สิงห์บลูในลีกไปทั้งหมด 47นัด ยิงได้แค่ 9ประตูเท่านั้น ก่อนถูกปล่อยคืนมาให้เอซี มิลาน แต่เขาก็ไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้อีกแล้ว และไปจบอาชีพค้าแข้งในสโมสรบ้านเกิด

 

เซอร์เก เรบรอฟ(สเปอร์ส)

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ sergei rebrov tottenham

เพื่อนร่วมรุ่นของอังเดร เชฟเชนโก้ ที่สร้างความยิ่งใหญ่ให้กับ ดินาโม เคียฟมาด้วยกันช่วงปี 1998 ที่พวกเขาพาทีมทะลุไปถึงรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนที่เชฟเชนโก้จะเลือกไปอยู่กับ เอซี มิลาน ส่วนเรบรอฟเลือกอยู่กับดินาโมไปอีกหนึ่งปี ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับสเปอร์ส ในลีกอังกฤษ แน่นอนว่าการย้ายมาที่อังกฤษไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักเตะทุกคน และเรบรอฟเลือกย้ายมาที่เกาะอังกฤษทันที นั่นทำให้เขาเจอปัญหาในการปรับตัวอย่างหนัก แม้ฤดูกาลแรกเขาจะสามารถยิงได้ถึง 9ประตู จาก 29นัดในลีก แต่ซึ่งหลายฝ่ายก็มองว่าเขากำลังอยู่ในช่วงปรับตัว แต่ฤดูกาลที่ 2ของเขากลับยิ่งแย่ลงเมื่อเขายิงได้แค่ประตูเดียวเท่านั้นจากการลง 30นัดในลีก สุดท้ายก็ถูกปล่อยตัวออกไปให้เฟแนร์บาห์เช่ ก่อนที่จะได้โอกาสกลับมาเล่นในอังกฤษอีกครั้งในระดับ แชมเปี้ยนส์ชิพกับเวสต์แฮม แต่ก็ยิงไปได้แค่ประตูเดียว จาก27นัดเท่านั้นเรียกว่าล้มเหลวในอังกฤษโดยสมบูรณ์

 

ฮวน เซบาสเตียน เวรอน(แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ฮวน เซบาสเตียน เวรอน

อดีตจอมทัพยุครุ่งเรืองของลาซิโอ ที่สร้างสรรค์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนหลายๆฝ่ายยกให้เป็นเพลย์เมคเกอร์อัจฉริยะ ด้วยสไตล์บอลที่กล้าเล่นกล้าลุย วางบอลแม่นยำ คลาสบอลที่เหนือชั้น แต่การย้ายมาที่เวทีพรีเมียร์ลีก เพื่อมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือว่าเป็นความผิดพลาดของเจ้าตัว รวมถึงบรมกุนซืออย่าง เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเลยก็ว่าได้ เพราะแม้เฟอร์กี้จะพยายามอย่าหนักเพื่อดึงศักยภาพของดาวเตะรายนี้ออกมาให้ได้มากที่สุด ถึงขั้นลองเปลี่ยนแผนมาใช้กลางสามคนเพื่อหาตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขา แต่ก็ไม่่ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ยังมีเรื่องภาษาและการปรับตัวหลายๆอย่าง ทำให้สุดท้ายแล้วความยึดมั่นในตัวนักเตะรายนี้ของป๋าเฟอร์กี้ก็หมดลงและปล่อยต่อให้กับเชลซี แต่ก็ไม่ได้ดีขึ้น จนต้องย้ายกลับลีกกัลโช่ไปแต่ก็ไม่อาจงัดฟอร์มระดับอัจฉริยะออกมาได้อีกแล้ว