ลุ้นกันยาวๆ : ส่อง 10 ผู้ท้าชิงดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาล 2020-21

 

นอกเหนือจากการทำนายทีมแชมป์ลีก, ทีมท็อปโฟร์ หรือ ทีมหนีตกชั้น การคาดเดาว่าที่ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกก็คืออีกสิ่งที่แฟนบอลพูดถึงกันตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของฤดูกาลนั้นๆ

 

เจมี่ วาร์ดี้ คือเจ้าของรางวัลดาวซัลโวฤดูกาลก่อนที่ซัดไป 23 ประตูเหนือใคร แต่ในฤดูกาล 2020-21 ที่เพิ่งได้เปิดฉากไปในวันเสาร์ที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา ย่อมกลายเป็นงานยากสำหรับหัวหอกจอมเก๋าของ เลสเตอร์ ซิตี้ ในการรั้งตำแหน่งดาวยิงสูงสุดประจำปีไปครองอีกสมัย เนื่องจากมีนักเตะฝีเท้าดีมากมายทีมีศักยภาพในการคว้ารางวัลนี้เช่นกัน

 

ทาง UFA ARENA จึงขอพาไปพบกับ 10 ผู้ท้าชิงลุ้นดาวซัลโวประจำลีกสูงสุดแดนผู้ดีฤดูกาลล่าสุด โดยใช้การคำนวนค่า xG หรือ ความน่าจะเป็นที่จะเป็นประตูของการยิงแต่ละครั้งจากฤดูกาลก่อนมาช่วยวิเคราะห์ว่าใครมีโอกาสคว้ารางวัลในปีนี้มากที่สุด

 

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ | ลิเวอร์พูล

 

 

ผลงานฤดูกาลก่อน : 19 ลูก (0.59 ลูกต่อ 90 นาที)
ลงเล่น : 2,884 นาที
ค่า xG : 19.15 (0.6 ลูกต่อ 90 นาที)

 

เป็นอีกที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ถูกยกให้เป็นตัวเต็งคว้ารองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีกอีกครั้งในฤดูกาล 2020-21 โดยเขากับ ปิแอร์ เอเมอริค-โอบาเมยอง ได้ลงเล่นในฤดูกาลอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่ แฮร์รี่ เคน กับ เซร์คิโอ อเกวโร่ ต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บ ซึ่งทักษะการทำประตูที่เฉียบคมและความสม่ำเสมอในแต่ละฤดูกาลเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขามีลุ้นคว้ารางวัลนี้เป็นสมัยที่ 3

 

ดาวเตะทีมชาติอียิปต์ มีสถิติค่า xG สูงสุดเป็นอันดับ 3 และ 2 ในพรีเมียร์ลีก 2 ฤดูกาลหลังสุด และครองสถิติสัมผัสบอลในกรอบเขตโทษคู่แข่งมากที่สุดใน 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา อีกทั้งยังครองอันดับ 2 กับการเป็นผู้เล่นที่มีค่าเฉลี่ยยิงตรงกรอบมากสุดใน 90 นาที นับตั้งแต่ย้ายซบ หงสแดง

 

อีกทั้ง การเป็นเพชรฆาตเบอร์หนึ่งในการสังหารจุดโทษยิงทำให้ ซาลาห์ มีลุ้นดาวซัลโวมากขึ้นไปอีกขั้น

 

 

แฮร์รี่ เคน | สเปอร์ส

 

 

ผลงานฤดูกาลก่อน : 19 ลูก (0.59 ลูกต่อ 90 นาที)
ลงเล่น : 2,589 นาที
ค่า xG : 12.51 (0.43 ลูกต่อ 90 นาที)

 

ไม่มีผู้เล่นชาวอังกฤษคนไหนได้รับความคาดหวังไปมากกว่า แฮร์รี่ เคน อีกแล้ว หลังซัดประตูในลีก 29 ตุง เมื่อฤดูกาล 2016-17 และ แตะหลัก 30 เม็ดในฤดูกาล 2017-18 แต่อาการบาดเจ็บเมื่อฤดูกาลก่อน ทำให้เขายิงไม่ถึง 20 ลูกในช่วง 2 ซีซั่นหลังสุด 

 

แต่ปีนี้ กัปตันทีมชาติอังกฤษ อาจกลับมายิงแตะหลัก 30 อีกครั้งในช่วงที่พีกที่สุด ซึ่งมีเงื่อนไขว่าเขาต้องฟิตสมบูรณ์ตลอดทั้งฤดูกาลนี้ รวมถึงสเปอร์สชุดนี้จะต้องมีความสร้างสรรค์มากกว่าซีซั่นก่อนด้วยเช่นกัน  

 

 

ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง | อาร์เซน่อล

 

 

ผลงานฤดูกาลก่อน : 22 ลูก (0.63 ลูกต่อ 90 นาที)
ลงเล่น : 3,138 นาที
ค่า xG : 14.75 (0.42 ลูกต่อ 90 นาที)

 

มีเพียง เจมี่ วาร์ดี้ เท่านั้นที่ยิงประตูมากกว่า ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลก่อน แต่ช่วงท้ายๆของซีซั่นที่แล้ว แข้งวัย 31 ปี ยิงประตูเป็นว่าเล่น ทั้งนัดชิงเอฟเอ คัพ รวมถึงเกมคอมมูนิตี้ ชิลด์ ก่อนเปิดฤดูกาลนี้ ยิ่งทำให้ กัปตันทีมอาร์เซน่อล มีลุ้นรางวัลนี้อีกปี

 

แต่ หัวหอกชาวกาบอง มีเงื่อนไขคล้ายๆกับ เคน ตรงที่ต้องหวังให้เพื่อนร่วมทีมยกระดับฝีเท้าเพื่อช่วยสร้างโอกาสทำประตูในลีกผู้ดีด้วย โดย โอบาเมยองมีส่วนรับผิดชอบประตูของปืนใหญ่ 54 ลูกในลีก หรือคิดเป็น 41 เปอร์เซนต์ที่ทีมทำได้ทั้งหมดเลยในฤดูกาลที่แล้ว

   

 

เซร์คิโอ้ อเกวโร่ | แมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

 

ผลงานฤดูกาลก่อน : 16 ลูก (0.99 ลูกต่อ 90 นาที)
ลงเล่น : 1,456 นาที
ค่า xG : 14.63 (0.9 ลูกต่อ 90 นาที)

 

ชื่อของ เซร์คิโอ้ อเกวโร่ มักจะติดอันดับลุ้นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกแทบทุกฤดูกาล นับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งในอังกฤษกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ปัญหาด้านความฟิตและอาการบาดเจ็บเป็นคำถามใหญ่ว่าเขาจะคว้ารางวัลนี้ได้ซักหนหรือไม่

 

หากสามารถสลัดปัญหาการบาดเจ็บได้ก็ย่อมมีหวัง เพราะตัวเลขสถิติต่างๆใน 90 นาทีของ กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ถือว่าน่าประทับใจมาก โดยมีค่าเฉลี่ยยิงประตู 0.99 ลูกต่อ 90 นาที แต่ด้วยวัย 32 ปี อาจทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สลับใช้งานร่วมกับ กาเบรียล เฆซุส ในฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ตาม นั่นก็ไม่ได้ลดความอันตรายของกุนยามลงสนามแต่อย่างใด

 

 

ติโม แวร์เนอร์ | เชลซี

 

 

ผลงานฤดูกาลก่อน : 28 ลูก (0.9 ลูกต่อ 90 นาที)
ลงเล่น : 2,807 นาที
ค่า xG : 21.25 (0.68 ลูกต่อ 90 นาที)

 

การย้ายจาก บุนเดสลีก้า มาล่าตาข่ายใน พรีเมียร์ลีก อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลการลุ้นดาวซัลโวลีกของ ติโม แวร์เนอร์ แต่การที่มีเพียง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยิงประตูเหนือเขาแค่คนเดียวในลีกสูงสุดเมืองเบียร์ ก็ทำให้แข้งป้ายแดงเชลซีก็เข้าข่ายผู้ท้าชิงรางวัลนี้ไม่น้อย

 

อดีตหอกแอร์เบ ไลป์ซิก น่าจะเป็นคนสังหารจุดโทษเบอร์หนึ่งในทีมของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ซึ่งน่าจะช่วยสร้างความมั่นใจและการปรับตัวได้มากขึ้นหากทำประตูได้ แต่ยิงได้  28 ตุงเท่ากับในบุนเดสลีก้าฤดูกาลก่อน ก็เป็นสิ่งที่หลายคนตั้งคำถามเช่นกันว่า แวร์เนอร์ จะรักษาฟอร์มการเล่นที่สูงกว่ามาตรฐานทั่วไปได้หรือไม่

  

 

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง | แมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

 

ผลงานฤดูกาลก่อน : 20 ลูก (0.68 ลูกต่อ 90 นาที)
ลงเล่น : 2,660 นาที
ค่า xG : 18.84 (0.64 ลูกต่อ 90 นาที)

 

ภายใต้การดูแลของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง พัฒนาฝีเท้าได้อย่างก้าวกระโดดจนกลายเป็นตัวรุกสุดอันตรายเบอร์ต้นๆในลีก แม้จะแอบมีช็อตหมูหกบ้าง แต่ผลงานโดยรวมในช่วง 3 ฤดูกาลหลังสุดก็ทำได้ยอดเยี่ยมแบบไม่มีข้อโต้แย้ง

 

อีกทั้ง กุนซือชาวสแปนิช ยังเชื่อมั่นในตัวรุกชาวอังกฤษไม่น้อย เนื่องจากฟอร์มการเล่นที่สม่ำเสมอ ซึ่งการยิงประตูให้ทะลุ 20 ลูกที่เคยทำได้ในฤดูกาลก่อนถือเป็นความท้าทายที่ยากใช้ได้ แต่นั่นก็คงไม่เพียงในการลุ้นคว้าดาวซัลโว ยกเว้นว่าดาวเตะเรือใบจะรัวตาข่ายได้ถึง 25 ลูกขึ้นไป

 

 

ซาดิโอ มาเน่ | ลิเวอร์พูล

 

 

ผลงานฤดูกาลก่อน : 18 ลูก (0.58 ลูกต่อ 90 นาที)
ลงเล่น : 2,753 นาที
ค่า xG : 13.67 (0.45 ลูกต่อ 90 นาที)

 

ความสำคัญของ ซาดิโอ มาเน่ ในลิเวอร์พูล แสดงผลลัพธ์ออกมามากที่สุดในฤดูกาลก่อน แม้จะยิงประตูได้น้อยลง แต่ 18 ประตูที่ทำได้ในลีก ก็ช่วยให้ หงส์แดงคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปีได้สำเร็จ และการแข่งขันกันทำประตูกับ ซาลาห์ ย่อมส่งผลดีต่อทีมในการป้องกันแชมป์ด้วย

 

แต่การที่ ดาวเตะชาวเซเนกัล ไม่ใช่มือสังหารจุดโทษเบอร์หนึ่งของทีม ทำให้การคว้าดาวซัลโวเป็นเรื่องยากพอสมควร อีกทั้งการเล่นแบบเน้นทำเพื่อทีมเป็นหลัก ไม่เห็นแก่ตัวยิ่งทำให้ มาเน่ มีโอกาสคว้ารองเท้าทองคำเป็นหนที่ 2 น้อยลงไปอีก

   

 

เจมี่ วาร์ดี้ | เลสเตอร์ ซิตี้

 

 

ผลงานฤดูกาลก่อน : 23 ลูก (0.68 ลูกต่อ 90 นาที)
ลงเล่น : 3,034 นาที
ค่า xG : 19.53 (0.58 ลูกต่อ 90 นาที)

 

แม้จะมีดาวยิงฝีเท้ายอดมากมายในช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ เจมี่ วาร์ดี้ ตัดสินเลิกเล่นทีมชาติอังกฤษ และทุ่มเทให้กับสโมสรเพียงอย่างเดียว กลับทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจนซัดไป 23 ประตู คว้าดาวซัลโวฤดูกาลก่อนไปครอง

 

แข้งวัย 33 ปี ยังคงเป็นดาวยิงเบอร์หนึ่งของ เลสเตอร์ ต่อไป แต่เหตุผลที่เขาอาจไม่ยิงกระจายในปีนี้เหมือนปีก่อนมาจากอายุของเขาล้วนๆ ซึ่งเป็นเรื่องยากในการคว้าดาวซัลโว 2 สมัยติดในวัยนี้ แต่ก็อย่ามองข้ามกาชื่อ วาร์ดี้ ทิ้งไป เพราะเขาอาจสร้างเซอร์ไพรส์เหมือนในฤดูกาลก่อนก็เป็นได้

 

 

กาเบรียล เฆซุส | แมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

 

ผลงานฤดูกาลก่อน : 14 ลูก (0.62 ลูกต่อ 90 นาที)
ลงเล่น : 2,027 นาที
ค่า xG : 18.49 (0.82 ลูกต่อ 90 นาที)

 

ขณะที่ เซร์คิโอ้ อเกวโร่ ยังค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แนวโน้มที่ กาเบรียล เฆซุส จะคว้าดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก ย่อมมีไม่มากนัก แต่เขาก็ยังอยู่ในลิสต์นี้เมื่อหลายคนคาดว่า เขาน่าจะกลายเป็นตัวหลักของ กวาร์ดิโอล่า ในแดนหน้ามากขึ้น ในฤดูกาล 2020-21

 

ถ้า กุนไม่พร้อม เฆซุส ก็อาจได้ลงไปค้ำในแดนหน้า และต้องทำประตูให้ได้เพื่อหลีกเลี่ยงการกลับไปอยู่บนม้านั่งสำรองอีก เพราะนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในลีกผู้ดี Opta ได้บันทึกว่าเขามีสถิติยิงตรงกรอบและยิงในจังหวะสำคัญมากกว่าใคร 92 ครั้ง แต่มีค่าเฉลี่ยการเปลี่ยนเป็นประตูเพียง 37% จากค่าเฉลี่ยกลางของลีกที่ 42%

 

 

อองโทนี่ มาร์กซิยาล | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

 

ผลงานฤดูกาลก่อน : 17 ลูก (0.58 ลูกต่อ 90 นาที)
ลงเล่น : 2,638 นาที
ค่า xG : 12.1 (0.41 ลูกต่อ 90 นาที)

 

ช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2019-20 หลายคนได้เห็น อองโทนี่ มาร์กซิยาล ตัวจริงกลับมามีชีวิตชีวาในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อีกครั้ง ไม่เพียงแต่ทำประตูได้สม่ำเสมอ แต่ยังส่งลูกบอลไปซุกก้นตาข่ายด้วยลีลาการยิงสุดเหนือชั้นหลายครั้ง ทั้งการชิบข้ามตัวนายทวารคู่แข่ง หรือ ปั่นโค้งๆเข้าสามเหลี่ยม

 

ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ หอกเฟรนช์แมน กลับมาคืนฟอร์มได้ เกิดจากการมาของ บรูโน่ แฟร์นานเดส ตั้งแต่เดือนมกราคมจนทำให้เขายิงประตูได้ 17 ลูก มากที่สุดที่เคยทำได้ในหนึ่งฤดูกาล ซึ่งถ้าเพลย์เมกเกอร์ชาวโปรตุเกส ยังรักษาฟอร์มเก่งได้ก็จะส่งผลต่อการยิงประตูของ มาร์กซิยาล เช่นกัน