ลุ้นทริปเปิ้ลแชมป์ครั้งที่สาม! 10 ปัจจัย ‘ต่างดาว’ ทวงคืนความยิ่งใหญ่

บาร์เซโลน่า เพิ่งทะลุเข้าสู่รอบตัดเชือกศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ หลังจากที่พวกเขาสามารถเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วยสกอร์รวมสองนัด 4 – 0 นอกจากนี้พวกเขายังสามารถผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอล โกปา เดล เรย์ ได้สำเร็จอีกด้วย ขณะที่สถานการณ์ใน ลาลีก้า สเปน โอกาสคว้าแชมป์ของพวกเขาค่อนข้างสดใสพอสมควร

 

ขุนพล “อาซูลกราน่า” มีโอกาสที่จะสร้างความยิ่งใหญ่ได้สำเร็จมากที่สุดในช่วง 2 – 3 ปี ที่ผ่านมา ด้วยการคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้เหมือนกับครั้งสุดท้ายที่สโมสรแห่งนี้ทำได้ในยุคของกุนซืออย่าง  หลุยส์ เอ็นริเก้ เมื่อปี 2015

 

โดยวันนี้ UFA Arena จะพาไปดูกันว่า 10 ปัจจัยใจสำคัญที่ทำให้ บาร์เซโลน่า กลับมาสร้างความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้งในซีซั่นนี้ มีผลมาจากอะไรกันบ้าง เราจะขอพาผู้อ่านทุกคนไปไล่ดูกันเลย

 

บรรยากาศในทีมเหมือนปี 2015

 

ความยอดเยี่ยมของบรรยากาศในห้องแต่งตัวของ บาร์เซโลน่า มันกำลังให้ความรู้สึกเดียวกับ 4 ปี ที่แล้ว เมื่อตอนที่พวกเขาสามารถสร้างความยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าทริปเปิ้ลแชมป์สำคัญได้สำเร็จทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, ลาลีก้า สเปน และ โกปา เดลเรย์ ในยุคของกุนซืออย่าง หลุยส์ เอ็นริเก้ ซึ่งนักเตะภายในทีมหลายคนต่างแฮปปี้กับผลงานของสโมสรและไม่มีความกดดันใดๆ หรือข่าวคราวอะไรที่ส่งผลในทางลบกับทีม ซึ่งมันเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้พวกเขาเป็นทีมที่แข็งแกร่ง

 

 

โจมตีด้วยเกมรุกตัวเก่ง 3 คน

 

ทั้ง อุสมาน เดมเบเล่ หรือ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการถูกส่งลงสนามมาเล่นร่วมกับ หลุยส์ ซัวเรซ และ ลิโอเนล เมสซี่ ซึ่งนั้นมันทำให้พวกเขาถล่มประตูร่วมกันไปถึง 93 ลูก ขณะที่ย้อนกลับไปในปี 2015 พวกเขามีนักเตะอย่าง เนย์มาร์ ที่ช่วยเติมเต็มเกมรุกให้กับ “ต่างดาว” ได้อย่างลงตัวและมีบทบาทสำคัญกับร่วมกับ ซัวเรซ และ เมสซี่ ในการไล่ล่าความสำเร็จให้กับทีมภายใต้ฉายาแนวรุก “MSN”

 

 

ลิโอเนล เมสซี่ สุดยอดแข้งเทพ

 

ซีซั่นนี้ถิอเป็นอีกครั้งที่ดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ กลับมาระเบิดฟอร์มเก่งได้อีกครั้งและมีบทบาทสำคัญกับทีมแทบจะทุกเกมที่ลงสนามไม่ว่าจะในลีกหรือบอลถ้วย ซึ่งนั้นทำให้เขามีโอกาสที่จะเป็นตัวเต็งในการลุ้นคว้ารางวัลร้องเท้าทองคำเป็นครั้งที่หกของตัวเอง รวมไปถึงมีลุ้นอีกหนึ่งรางวัลใหญ่อย่าง ฟีฟ่า บัลลงดอร์ เป็นสมัยที่ 6 เช่นเดียวกัน ซึ่งผลงานในฤดูกาลนี้ของเขากับยอดทีมแห่งแคว้นคาตาลัน เจ้าตัวลงสนามไปแล้วทั้งหมด 42 นัด และซัดไปถึง 45 ประตู

 

 

เป้าหมายคว้าทริปเปิ้ลแชมป์สมัยที่ 3

 

บาร์เซโลน่า ยังคงเป็นทีมเดียวในสเปน ที่สามารถคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, ลาลีก้า สเปน และ โกปา เดลเรย์ มาครองได้ครบทุกถ้วย และยังเป็นทีมเดียวในยุโรปเวลานี้ที่สามรถทำเป้าหมายดังกล่าวได้สำเร็จถึง 2 ครั้ง เมื่อปี 2009 และ 2015 อย่างไรก็ตามซีซั่นนี้พวกเขาหวังที่จะบันทึกประวติศาสตร์ต่อไป ด้วยการคว้าทริปเปิ้ลแชมป์เป็นสมัยที่ 3 ของสโมสรให้ได้

 

 

ความสำเร็จใน ลาลีก้า สเปน ของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้

 

ผลงานของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ กับ บาร์เซโลน่า ในการพาทีมลงเล่นศึก ลาลีก้า สเปน เป็นเวลา 2 ปีแทบไม่ต้องมีข้อสงสัยอะไรในตัวเขาเลย ซึ่งซีซั่นนี้เป็นปีที่ยอดเยี่ยมของเขากับลูกทีม และมีโอกาสสูงมากที่กุนซือชาวสแปนิชรายนี้ จะสามารถพาทีมประสบความสำเร็จ บนลีกสูงสุดของแดนกระทิงดุได้อีกครั้ง 1 สมัย หลังจากซีซั่นที่ผ่านมาเขาพาทีมผงาดคว้าแชมป์เหนือคู่ปรับสำคัญอย่าง เรอัล มาดริด และ แอตเลติโก้ มาดริด มาแล้ว

 

 

หลุยส์ ซัวเรซ ระเบิดฟอร์ม

 

ย้อนกลับไปในครั้งที่ “ต่างดาว” ผงาดคว้าทริปเบิ้ลแชมป์ครั้งล่าสุดเมื่อซีซั่น 2014/2015 หลุยส์ ซัวเรซ ที่เพิ่งย้ายจาก “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล มาอยู่กับสโมสรในเวลานั้น คือกำลังสำคัญของทีมอย่างแท้จริง และเขาก็ส่วนสำคัญพาทีมประสบความสำเร็จทันที เช่นเดียวกับในซีซั่นนี้ที่ดาวยิงชาวอุรุกวัยกลับมาระเบิดฟอร์มเก่งได้อีกครั้ง และกลายเป็นครีย์แมนสำคัญของทีมในการไล่ล่าทริปเปิ้ลแชมป์สมัยที่ 3 ของ “อาซูลกราน่า”

 

 

การบริหารทีมที่ยอดเยี่ยมของสโมสร

 

ต้องยอมรับว่าซีซั่นนี้เป็นปีที่บอร์ดบริหารของสโมสร บาร์เซโลน่า ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม เราแทบจะไม่เห็นความขัดแย้งอะไรเลยที่เกิดขึ้นภายในทีม นอกจากนี้ในเรื่องของการเสริมทัพพวกเขายังทำงานกันได้อย่างดี ซึ่งผลงานที่ชัดเจนก็คือการคว้าตัว แฟรงกี้ เดอ ยอง หนี่งในดาวรุ่งที่ดีสุดในโลกเวลานี้ จาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม มาร่วมทีมในฤดูกาลหน้า รวมไปถึงการตัดสินใจต่อสัญญากับ จอร์ดี้ อัลบา และ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีของสโมสรเช่นกัน

 

 

สุดยอดนายทวารคู่หูดูโอ้

 

เป็นเรื่องน่าชื่นชมสำหรับผู้รักษาประตูของ บาร์เซโลน่า ในซีซั่นนี้ทั้งสองคนอย่าง ยัสเปอร์ ซิลเลิสเซิน และ มาร์ค-อันเดร แทร์ สเตเกิน นอกจากทั้งคู่จะโชว์ความเหนียวได้อย่างยอดเยี่ยมเวลาที่ได้รับโอกาสลงสนาม พวกเขายังทำงานร่วมกันได้ดีอีกด้วย เช่นเดียวกับเมื่อปี 2015 ที่พวกเขาคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้สำเร็จ “ต่างดาว” ก็มีคู่หูนายทวารที่ทำงานร่วมกันได้ดีเช่นกัน นั้นก็คือมือกาวชาวเยอรมันคนปัจจุบันของทีม กับ เคลาดิโอ บราโว อดีตผู้รักษาประตูของทีมชาวชิลีนั่นเอง

 

 

ซีซั่นที่ย่ำแย่ของ “ราชันชุดขาว”

 

สำหรับแฟนบอล เรอัล มาดริด พวกเขาต้องยอมรับว่านี้คือหนึ่งในซีซั่นที่น่าผิดหวังที่สุดในรอบหลายปี พวกเขาแทบจะหมดลุ้นทุกแชมป์ตั้งแต่เข้าเดือนมีนาคม ซึ่งสำหรับ บาร์เซโลน่า แล้วมันเป็นอะไรที่น่ายินดีสุดๆ เพราะ “โลส บลังโกส” คือคู่แข่งสำคัญในทุกถ้วยของพวกเขา และแน่นอนว่าหากคู่ปรับตัวฉกาจไม่สามารถต่อกรกับพวกเขาได้ นั้นก็เป็นโอกาสดีที่พวกเขาจะก้าวไปคว้าความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย

 

และแน่นอน… คริสเตียโน่ โรนัลโด้

 

การตัดสินใจย้ายออกจากถิ่น ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา และ ย้านไปอยู่กับ ยูเวนตุส ส่งผลกระทบสาหัสแก่ เรอัล มาดริด แบบไม่มีใครคาดคิด มันทำให้การแข่งขันระหว่าง “ราชันชุดขาว” และ บาร์เซโลน่า ห่างชั้นกันพอสมควรจากผลสกอร์สองนัดที่เจอกัน อย่างไรก็ตามอดีตต้นสังกัดและปัจจุบันของดาวยิงชาวโปรตุเกส อย่าง มาดริด และ ยูเวนตุส กลับโดนเล่นงานโดย อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในศึก ยูฟ่า แชมปี้ยนส์ลีก ซึ่งนั้นหมายความว่า ขุนพล “อาซูลกราน่า” หมดเสี้ยนหนามคู่แข่งสำคัญในถ้วยใบนี้ไปด้วยเช่นเดียวกัน