ลุ้นสนุกไม่แพ้ลีกใหญ่ : ส่องโปรแกรม 8 ตัวเต็งเลื่อนชั้นจากแชมเปี้ยนส์ชิพ

แม้อีเอฟแอล จะประกาศตัดจบฤดูกาลในลีก วัน และ ลีกทู ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ลีกรองแดนผู้ดีอย่าง เดอะ แชมเปี้ยนส์ชิพ ก็จะรีเทิร์นฟาดแข้งอีกครั้งในเวลาไล่เลี่ยกับพรีเมียร์ลีก หลังผ่านช่วงล็อคดาวน์จากโควิด-19

 

ในฤดูกาลล่าสุด แชมเปี้ยนส์ชิพ เหลือการแข่งขันอีก 9 นัดเท่านั้น แต่ก็มีหลายทีมด้วยการที่มีโอกาสคว้าตั๋วเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นลีกสูงสุดในฤดูกาลหน้าได้

 

ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จะพาดูโปรแกรมการแข่งขันที่เหลือของเหล่าสโมสรตัวเต็ง 8 อันดับแรกที่มีลุ้นเลื่อนชั้นจากแชมเปี้ยนส์ชิพในฤดูกาลนี้

 

 

ลีดส์ ยูไนเต็ด

โปรแกรมที่เหลือ : คาร์ดิฟฟ์ (เยือน), ฟูแล่ม (เหย้า), ลูตัน (เหย้า), แบล็คเบิร์น (เยือน), สโต๊ค (เหย้า), สวอนซี (เยือน), บาร์นสลี่ย์ (เหย้า), ดารบี้ (เยือน), ชาร์ลตัน (เหย้า)

นกยูงทองคือจ่าฝูงของลีกในตอนนี้ ด้วยการมีแต้มเหนือทีมอันดับ 3 ถึง 7 คะแนน และมีความมั่นใจไม่น้อยว่าพวกเขาจะรั้งอันดับของตัวเองไว้ได้จนจบฤดูกาล จากตารางแข่งขันที่เหลือ

 

ลูกทีมของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ถือเป็นเต็งหนึ่งของการเลื่อนชั้นด้วยซ้ำ เนื่องจากใน 9 นัดสุดท้าย คู่แข่งของพวกเขามีค่าเฉลี่ยอันดับอยู่ที่ 14.5 ในตาราง ซึ่งหมายความว่าสโมสรส่วนใหญ่เหล่านั้นอยู่ครึ่งตางรางนั่นเอง

 

ลีดส์ จะพบกับ 3 ทีมบ๋วยในรังของตัวเอง (ลูตัน, บาร์นสลี่ย์, ชาร์ลตัน) ส่วนเกมที่ยากที่สุดน่าจะเป็นการเปิดบ้านพบกับ ฟูแล่ม ทีมลุ้นเลื่อนชั้นด้วยกันในวันที่ 27 มิถุนายนนี้

 

 

เวสต์บรอม

 

 

โปรแกรมที่เหลือ : เบอร์มิงแฮม (เหย้า), เบรนท์ฟอร์ด (เยือน), เชฟฟิลด์ เว้นสเดย์ (เยือน), ฮัลล์ (เหย้า), ดาร์บี้ (เหย้า), แบล็คเบิร์น (เยือน), ฟูแล่ม (เหย้า), ฮัดเดอร์สฟิดล์ (เยือน), คิวพีอาร์ (เหย้า)

 

เวสต์บรอม ตามหลัง ลีดส์ ทีมอันดับในแชมเปี้ยนส์ชิพเพียงแต้มเดียวเท่านั้น และพวกเขาหวังว่าจะหลีกเลี่ยงการเล่นเพลย์ออฟด้วยการเลื่อนชั้นแบบอัตโนมัติด้วยการคว้าอันดับ 1 หรือ 2 ในตาราง

 

ในส่วนของคู่แข่งที่ต้องพบกัน เดอะ แบ็กกี้ส์ พบกับทีมทั้งในช่วงบนและล่างของตารางผสมกันไป แต่การพบกับทีมครึ่งล่างของลีกคงไม่ใช้งานยากของพวกเขาอย่างแน่นอน

 

โดยอันดับเฉลี่ยของคู่แข่ง 9 นัดสุดท้ายของ เวสต์บรอมคือ 12.4

 

 

ฟูแล่ม

 

โปรแกรมที่เหลือ : เบรนท์ฟอร์ด (เหย้า), ลีดส์ (เยือน), คิวพีอาร์ (เยือน), เบอร์มิงแฮม (เหย้า), น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (เยือน), คาร์ดิฟฟ์ (เหย้า), เวสต์บรอม (เยือน), เชฟฟิลด์ เว้นสเดย์ (เหย้า), วีแกน (เยือน)

 

ฟูแล่มคงต้องลุ้นเลื่อนกลับไปเล่นในพรีเมียร์ลีกเหนื่อยหน่อย เมื่อต้องเจอกับทีม 6 อันดับแรก ถึง 4 ทีม รวมถึงมีศึกดาร์บี้ลอนดอนฝั่งตะวันตกกับ คิวพีอาร์ ด้วย

 

ทีมของ สก็อตต์ ปาร์เกอร์ ตามหลัง เวสต์บรอม ทีมอันดับ 2 อยู่ 6 แต้ม และคงยุ่งยากยิ่งกว่านี้ หากพวกเขาไม่สามารถแซงหน้าคว้าอันดับ 2 เพื่อเลื่อนชั้นแบบอัตโนมัติมาได้ในท้ายที่สุด

 

ที่สำคัญอันดับเฉลี่ยคู่แข่ง 9 นัดสุดท้ายที่ 9.4 บ่งบอกชัดเจนว่าเรื่องยากๆคงรอทีมเจ้าสัวอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลแน่ๆ

 

 

เบรนท์ฟอร์ด

 

 

โปรแกรมที่เหลือ : ฟูแล่ม (เยือน), เวสต์บรอม (เหย้า), เร้ดดิ้ง (เยือน), วีแกน (เหย้า), ชาร์ลตัน (เหย้า), ดาร์บี้ (เยือน), เปรสตัน (เหย้า), สโต๊ค (เยือน), บาร์นสลี่ย (เหย้า)

 

ลูกทีมของ โธมัส แฟรงค์ ยังห่างไกลกลับการขึ้นไปเบียดแย่งตำแหน่งกับ ลีดส์ และ เวสต์บรอม พอสมควร ด้วยการมีแต้มห่างถึง 10 คะแนน แต่การโผล่ขึ้นมารั้งอันดับ 4 ได้ก็เป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์ใครหลายคนเช่นกัน

 

ทีมฉายา เดอะ บีส์ ต้องเจอกับ 6 คู่แข่งตารางบนถึง 3 ทีมด้วยกัน แต่อีก 6 นัดที่เหลือที่การเจอกับสโมสรจากครึ่งตารางล่างทั้งหมด และค่าเฉลี่ยอันดับคู่แข่งที่ 13.3 คงไม่ยากเกินไปที่ เบรนท์ฟอร์ด จะคว้าอันดับเพลย์ออฟมาครองได้

 

 

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

 

 

โปรแกรมที่เหลือ : เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ (เยือน), ฮัดเดอร์สฟิลด์ (เหย้า), บริสตอล ซิตี้ (เหย้า), ดาร์บี้ (เยือน), ฟูแล่ม (เหย้า), เปรสตัน (เยือน), สวอนซี (เหย้า), บาร์นสลี่ย (เยือน), สโต๊ค (เหย้า)

 

ฟอเรสต์มีแต้มห่างจากทีมอันดับ 2 ถึง 10 แต้ม และคงต้องภาวนาให้ทั้ง ลีดส์ และ เวสต์บรอม ฟอร์มสะดุด หลายๆเกม หากต้องการลื่อนชั้นแบบอัตโนมัติ

 

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายที่เป็นไปได้มากที่สุดของเจ้าป่าตอนนี้คือ การทำอันดับไปเล่นศึกเพลย์ออฟเลื่อนชั้น ซึ่งถ้าฟอร์มการเล่นของพวกเขายังทำได้ดีและสม่ำเสมอ ตั๋วเพลย์ออฟเลื่อนชั้นก็คงไม่หนีไปไหน

 

ส่วนเกมที่น่าจะยากสำหรับ ฟอเรสต์ มีทั้งการเปิดบ้านพบกับ ฟูแล่ม, บุกไปเยือน เปรสตัน และ ดวลอริร่วมเมืองอย่าง ดาร์บี้ โดยค่าเฉลี่ยอันดับของคู่แข่งอยู่ที่ 12.5

 

 

เปรสตัน

 

 

โปรแกรมที่เหลือ : ลูตัน (เยือน), คาร์ดิฟฟ์ (เหย้า), ดาร์บี้ (เหย้า), ฮัดเดอร์สฟิลด์ (เยือน), เชฟฟิดล์ เว้นสเดย์ (เยือน), น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (เหย้า), เบรนท์ฟอร์ด (เยือน), เบอร์มิ่งแฮม (เหย้า), บริสตอล ซิตี้ (เยือน)

 

เป้าหมายหลักของเปรสตันคือการติด 1 ใน 6 อันดับแรกของตารางให้ได้จนจบฤดูกาล แต่ช่วง 4 เกมสุดท้ายอาจชี้ชะตาว่าพวกเขาจะคว้าตั๋วไปเล่นเพลย์ออฟในฤดูกาลนี้ได้หรือไม่

 

แม้คู่แข่ง 9 นัดสุดท้ายจะมีค่าเฉลี่ยอันดับที่ 12.1 แต่ต้องอย่าลืมว่า บริสตอล ซิตี้ ทีมอันดับ 7 ไล่ตามพวกเขาแค่แต้มเดียว และพร้อมจะขึ้นมาแทนที่ เมื่อไหร่ที่ เปรสตัน พลาด และเกมสุดท้ายของฤดูกาลที่ทั้งคู่พบกัน อาจเป็นเกมตัดสินตั๋วลุยรอบเพลย์ออฟใบสุดท้าย ก็เป็นได้

 

 

บริสตอล ซิตี้

 

โปรแกรมที่เหลือ : แบล็คเบิร์น (เยือน), เชฟฟิลด์ เว้นสเดย์ (เหย้า), น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (เยือน), คาร์ดิฟฟ์ (เหย้า), ฮัลล์ (เหย้า), มิดเดิ้ลสโบรห์ (เยือน), สโต๊ค (เหย้า), สวอนซี (เยือน), เปรสตัน (เหย้า)

 

บริสตอล ซิตี้ ฟอร์มตกไม่ชนะใครเลยในช่วง 5 นัดสุดท้ายก่อนลีกระงับจากโควิด-19 เพราะฉะนั้น พวกเขาจำเป็นต้องเรียกฟอร์มเก่งกลับมาอีกครั้งในช่วงลีกคัมแบ็ค หากหวังจะทำอันดับไปเล่นเพลย์ออฟเลื่อนชั้นต่อไป

 

จากอันดับคู่แข่งเฉลี่ยที่ 12.5 หมายความว่า เดอะ โรบินส์ จะพบกับคู่แข่งจากครึ่งตารางล่างเป็นส่วนใหญ่ ปะปนด้วยทีมหนีตกชั้นด้วย แต่ 2 นัดที่พบกับ ฟอเรสต์ และ เปรสตัน คือเกมสำคัญที่ชี้ชะตาของพวกเขาในฤดูกาลนี้

 

 

มิลวอลล์

 

 

โปรแกรมที่เหลือ : ดาร์บี้ (เหย้า), บาร์นสลี่ย์ (เยือน), สวอนซี (เหย้า), ชาร์ลตัน (เยือน), มิดเดิ้ลสโบรห์ (เหย้า), ฮัลล์ (เยือน), แบล็คเบิร์น (เหย้า), คิวพีอาร์ (เหย้า), ฮัดเดอร์สฟิลด์ (เหย้า)

 

ถ้าเทียบกับ 7 ทีมที่เหลือ มิลวอลล์ คือทีมที่โปรแกรมการแข่งขัน 9 นัดที่เหลือง่ายกว่าใครๆ เนื่องจากจะพบกับ คู่แข่งที่มีอันดับต่ำกว่าตัวเองทั้งหมด โดยมีค่าเฉลี่ยอันดับคู่แข่งที่ 16.6

 

จริงอยู่ที่ลูกทีมของ แกรี่ โรเว็ตต์ อาจไม่ได้มีลุ้นถึงขั้นทำอันดับเลื่อนชั้นอัตโนมัติ แต่ด้วยระยะห่างเพียง 2 แต้มจาก เปรสตัน ทำให้มีโอกาสไม่น้อยที่ สิงโตลอนดอน จะผ่านเข้าไปเล่นในรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้นได้หลังจบฤดูกาล