วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ : 9 เรื่องแปลกลี้ลับในวงการลูกหนัง

วิทยาศาสตร์

ต่อให้สังคมและเทคโนโลยีก้าวหน้าไปมากแค่ไหน แต่ถึงอย่างนั้นกลับมาบางอย่างที่ไม่สามารถใช้วิทยาศาสตร์มาอธิบายเป็นเหตุผลได้

และในวงการฟุตบอลก็เต็มไปด้วยเรื่องราวที่หลายคนไม่สามารถหาคำตอบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้นและประหลาดเหลือเชื่อว่าเกิดขึ้นจริง ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ในสนามหรือนอกสนาม

ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จะพาไปพบกับ 9 เหตุการณ์สุดลี้ลับในวงการลูกหนังที่วิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถหาคำตอบมาอธิบายได้ผ่านบทความนี้

 

ปาร์ตี้คริสมาสต์ของ เดฟ บาสเซ็ตต์

ในช่วงคริสมาสต์ปี 1990 น้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนขึ้นในดิวิชั่น 1 เดิม อย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ฟอร์มแผ่วมากจนหล่นไปอยู่โซนท้ายตาราง แต่ทว่าหลังขึ้นขิ้นปีใหม่เป็นต้นมา พวกเขากลับคว้าชัยชนะได้ 7 นัดติดในลีกจนทำให้อยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุดแดนผู้ดีได้สบายๆ ในฤดูกาลต่อมาเหตุการณ์ลักษณะก็เกิดขึ้นคล้ายๆกัน เมื่อทีมดาบคู่คว้าชัยได้แค่ 5 นัดในลีกเท่านั้น แต่เมื่อพ้นช่วงคริสมาสต์ไป กลับชนะถึง 11 เกม

 ด้วยเหตุนี้ ผู้จัดการทีม เดฟ บาสเซ็ตต์ จึงจัดปาร์ตี้คริสมาสต์ก่อนกำหนดตั้งแต่เปิดฤดูกาล 1992-93 แถมเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปได้ 2-1 จากการเหมาของ ไบรอัน ดีน (ผู้ยิงประตูแรกในพรีเมียร์ลีก) ซึ่งพวกเขาจบปีนั้นในโซนกลางตาราง พร้อมกับทะลุไปเล่นรอบตัดเชือกในเอฟเอ คัพ ด้วย

ทว่าในปีต่อมา บาสเซ็ตต์ ตัดสินใจไม่จัดปาร์ตี้ฉลองแบบปีที่แล้ว และจู่ๆทีม ‘ดาบคู่’ ก็ทำผลงานได้ย่ำแย่จนตกชั้นไปอย่างไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกี่ยวข้องกับปาร์ตี้นั้น ก่อนจะกลับขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกได้อีกครั้งใน 12 ปีต่อมา

 

เรียวอิจิ มาเอดะกับประตูต้องสาป

เรียวอิจิ มาเอดะ เป็นกองหน้าเพชรฆาตที่มีมากกว่าลีลาการทำประตูในกรอบเขตโทษ เพราะใน 6 ฤดูกาลติดต่อกัน ระหว่างปี 2007-2012 ทีมที่โดนเขายิงได้ในฤดูกาลนั้นเป็นทีมแรก ทีมเหล่านั้นจะต้องตกชั้นร่วงจากเจลีกไปในท้ายที่สุด

อดีตแข้งทีมชาติญี่ปุ่น ที่ช่วงนั้นเล่นให้กับ จูบิโล่ อิวาตะ ได้ส่ง เวนท์ฟอเรท โกฟุ, โตเกียว เวอร์ดี้, เจฟ ยูไนเต็ด ชิบะ, เกียวโต ซันก้า, มาเตดิโอ ยามางาตะ และ กัมบะ โอซาก้า ลงไปเล่นลีกรองของแดนปลาดิบ เจทู ได้อย่างน่าประหลาดและอธิบายไม่ได้ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ 

เรื่องราวสุดลี้ลับนี้สิ้นสุดลงในปี 2013 เพราะ อูราวะ เร้ด ไดมอนส์ ทีมที่โดนมาเอดะยิงสามารถอยู่รอดและจบอันดับ 6 ในลีกได้ แต่เป็นฝ่ายจูบิโล่เองที่ตกชั้นในปีนั้น 

 

เรื่องเศร้าของเหล่าสกายบลูส์

โคเวนทรี มีสถิติที่เหลือเชื่อมากๆและคงเป็นสถิติที่พวกเขาไม่ต้องการมันเท่าไหร่ เพราะนับตั้งแต่ปี 1970 พวกเขาไม่เคยจบอันดับท็อปซิกซ์ในลีกได้เลย จนกระทั่งในฤดูกาล 2017-18 หรือเป็นเวลา 47 ปีด้วยกัน ซึ่งในช่วงนั้น ทีม ‘สกายบลูส์’ ต้องตกชั้นไปถึง 2 ครั้ง และจบฤดูกาลด้วยอันดับที่สูงกว่าที่ 10 แค่ 4 ครั้งเท่านั้น คือในปี 1977-78 (ที่ 7), 1988-89 (ที่ 7), 2005-06 (ที่ 8) และ 2015-16 (ที่ 8)

โคเวนทรี่ ได้ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก และหล่นไปไกลถึงลีกวัน โดยปัญหาด้านการเงินเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ แต่ในฤดูกาล 2015-16 พวกเขาเกือบทำลายสถิตินี้ได้สำเร็จ หลังคว้าอันดับ 4 จากการลงเล่นไป 27 นัด ทว่า 14 เกมต่อมา เขาชนะแค่ 2 เท่านั้น ส่งผลให้รั้งอันดับกลางตารางเท่านั้น แต่ชัยชนะ 4 เกมจาก 5 นัดสุดท้ายก็ทำให้ ‘สกายบลูส์’ จบที่ 8 ซึ่งเป็นอันดับเท่าที่พวกเขาเคยทำได้ในแชมเปี้ยนส์ชิพปี 2005-06

ท้ายที่สุด พวกเขาก็ทำลายสถิตินี้เสียทีในฤดูกาล 2017-18 หลังคว้าอันดับ 6 มาครอง แม้จะอยู่ในลีกทูก็ตาม และได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นด้วยการเพลย์ออฟอีกด้วย

คำสาปแช่งของกัตมานน์

เบล่า กัตมานน์ พาทีมคว้าแชมป์ 5 รายการ กับ ตลอด 3 ฤดูกาลที่เขาทำหน้าที่กุนซือในทีมเบนฟิก้า ดังนั้นหลังจากที่เจ้าตัวคุมทีมเอาชนะ เรอัล มาดริด ได้ในนัดชิงยูโรเปี้ยน คัพ ในปี 1962 นายใหญ่ชาวฮังกาเรียนจึงขอเพิ่มค่าเหนื่อยจากสโมสรซักหน่อย

แต่เมื่อบอร์ดบริหารปฏิเสธคำขอนั้น กัตมานน์ก็ลาออกมาพร้อมกับพ่นวาทะอันโด่งดังออกมาว่า “ไม่มีทางที่เบนฟิก้าจะกลายเป็นแชมป์ยุโรปได้ใน 100 ปีนับตั้งแต่วันนี้”

หลังจาก กัตมานน์ ได้มอบคำสาปแช่งให้ยอดทีมแดนฝอยทอง จนถึงปัจจุบัน พวกเขาก็แพ้ในนัดชิงของฟุตบอลยุโรปถึง 8 ครั้ง โดยแบ่งเป็นยูโรเปี้ยน คัพ 5 ครั้ง (1963, 1965, 1968, 1988, 1990) และอีก 3 ครั้ง ในยูฟ่า คัพ/ยูโรป้า ลีก (1983, 2013 และ 2014)

 

ลูกยิงนำโชคของอิเนียสต้า

อันเดรส อิเนียสต้า มักจะทำประตูสำคัญๆในตลอดอาชีพค้าแข้งของเขาอยู่ตลอด ซึ่งไม่ใช่แค่นัดชิงฟุตบอลโลกปี 2010 ระหว่าง สเปน กับ ฮอลแลนด์ เท่านั้นที่เขาทำได้ ลูกยิงใส่เชลซีในแชมเปี้ยนส์ลีกรอบตัดเชือกปี 2009 ก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยกองกลางร่างเล็กทำประตูได้ทั้งหมดในอาชีพค้าแข้ง 79 ประตู แบ่งเป็นระดับสโมสร 66 ประตู กับในทีมชาติอีก 13 ประตู และที่เหลือเชื่อมากๆคือ อีเนียสต้าไม่เคยพ่ายแพ้เลย ยามที่เขาทำประตูได้ หากจะมีก็คงเป็นตอนที่เขายิงให้กับบาร์เซโลน่าชุดสำรองที่พ่ายไป 2-1 ในปี 2003 

สถิตินี้คล้ายๆกับ เจมส์ มิลเนอร์ กองกลางสารพัดประโยชน์ของลิเวอร์พูล ที่ไม่เคยแพ้ในพรีเมียร์ลีกเลยในเกมที่เขาทำประตูได้ (ทั้งหมด 55 ประตู) ซึ่งเป็นสถิติที่ยาวนานที่ในประวัติศาสตร์ของลีก

 

ซลาตัน ผู้ดวงกุดในบอลยุโรป

เมื่อเดือนกันยายนปี 2017 ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เอาชนะ ดินาโม เคียฟ ไป 4-1 ในแชมเปี้ยนส์ลีก โดยหนึ่งในคนที่ทำประตูให้ทีมจากฝรั่งเศสก็คือ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าตัวเก่งของทีม และนั่นทำให้เขากลายเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงประตูจาก 6 สโมสรที่แตกต่างกันในรายการนี้ได้ (หลังยิงให้ อาแจ็กซ์, อินเตอร์, บาร์เซโลน่า, มิลาน และ ยูเวนตุส ซึ่งทั้งหมดเคยคว้าแชมป์ยุโรปมาก่อน)

และแม้จะยิงประตูไปมากมายใน UCL หัวหอกร่างยักษ์ชาวสวิดีช ก็ไม่เคยได้สัมผัสถ้วยแชมป์รายการนี้เลย เนื่องจากเขามักจะอยู่ผิดที่ผิดเวลาเสมอ ซึ่งวิทยาศาสตร์ก็อธิบายไม่ได้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้นตลอด

 ไม่ว่าจะเป็นตอนที่บาร์เซโลน่าคว้าแชมป์นี้ในปี 2009 เขาก็ยังอยู่อินเตอร์ มิลาน แต่พอลาอิตาลีในปีต่อมา งูใหญ่ก็คว้าแชมป์ยุโรปได้เป็นครั้งแรกในรอบ 45 ปี และพอเขาบอกลาทีมจากแคว้นกาตาลุนญ่าไปเล่นกับ เอซี มิลาน แบบยืมตัว บาร์ซ่าก็ดันคว้าแชมป์ในรายการนี้ได้อีก

 

เบล ผู้อาภัพกับสเปอร์ส (ในช่วงแรก)

แฟนบอล ‘ไก่เดือยทอง’ จดจำช่วงเวลาที่ แกเร็ธ เบล ค้าแข้งในถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลน ได้ขึ้นใจ หลังแข้งชาวเวลส์ยิงไป 56 ประตูตลอด 6 ฤดูกาลที่ค้าแข้งในถิ่นลอนดอนเหนือ รวมไปถึงเหตุการณ์ที่เขากดแฮตทริกใส่อินเตอร์ มิลาน และ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีจอง PFA ได้ถึง 2 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม ช่วงแรกของ เบล กับ สเปอร์ส ไม่ได้สวยหรูอย่างที่หลายคนจดจำได้ เพราะตลอด 24 เกมแรกที่ปีกวานรลงเล่นให้ทีม สเปอร์สไม่เคยพบกับชัยชนะเลย 

อดีตผู้อำนวยการฟุตบอลของสโมสร ดาเมี่ยน โคโมลี่ อ้างว่า แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ กุนซือของทีมในตอนนั้น พยายามหาทางเขี่ย เบล ให้พ้นทีม ซึ่งผู้จัดการชาวอังกฤษก็ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ทันควัน (ใครจะบอกว่าพูดล่ะ) แต่ค่าตัวกว่า 85 ล้านปอนด์, แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 4 สมัย, ลาลีก้าและ โคปา เดล เรย์ อย่างละสมัย ทำให้ช่วงที่เขามีชีวิตค้าแข้งที่ย่ำแย่กับสเปอร์สในช่วงแรกดูเป็นเรื่องประหลาดที่อธิบายด้วยเหตุทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้เลย

 

แต่ร็อดเวลล์อาภัพกว่า

ลืมเรื่องเบลไปซะ เพราะแจ็ค ร็อดเวลล์ ที่ลงเล่นพรีเมียร์ลีกกว่า 39 นัด และตลอด 37 นัดที่ลงเล่นให้ซันเดอร์แลนด์ เขาไม่ได้ลิ้มรสชาติของผู้ชนะเลย  จนกระทั่งทีม ‘แมวดำ’ ถล่มคริสตัล พาเลซไป 4-0 ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2017 ที่เขาได้ลงสนามในครึ่งหลัง โดยครั้งสุดท้ายที่แข้งชาวอังกฤษได้ฉลองชัยต้องไปย้อนไปกว่า 1,370 วันก่อน ซึ่งในตอนนั้นเขาค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้อยู่ (พฤษภาคมปี 2013) ทำให้ กองกลางชาวอังกฤษ ครองสถิติไม่ใช่ชนะใครลีกนานที่สุดจนถึงปัจจุบัน (39 นัด)

ส่วนสถิติก่อนหน้านี้ตกเป็น 2 แข้งจากดาร์บี้ เค้าท์ตี้ ดาร์เรน มัวร์ และ เคนนี่ มิลเลอร์ ร่วมด้วย อดีตแบ็คขวาสเปอร์สอย่าง อลัน ฮัตตัน ที่สะกดคำว่าชนะในลีกไม่เป็น 29 นัดติดต่อกัน

 

กบของอารูบินญ่า

ในปี 1937 ทีมเล็กในบราซิลอย่าง อันดาไร ถูกยอดทีมในประเทศอย่าง วาสโก ดา กาม่า ถล่มยับจนจำเลขที่บ้านไม่ถูก 12-0 นั่นเป็นเหตุให้ อารูบินญ่า นายทวารของอันดาไร ได้ภาวนาขอให้วาสโกไม่คว้าแชมป์ใดๆอีกเป็นเวลานาน 12 ปี ซึ่งเท่ากับจำนวนที่เขาต้องก้มไปเก็บลูกบอลจากก้นตาข่ายของเกมวันนั้น

มีเรื่องเล่าว่า อารูบินญ่าได้นำกบไปฝังไว้ใต้สนาม เซา จูนูอาริโอ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เป็นวิทยาศาสตร์เลย แต่ดูเหมือนว่ามันได้ผลเกินคาด เมื่ออีก 10 ปีต่อมา วาสโกไม่สามารถคว้าแชมป์อะไรได้เลย ดังนั้นพวกเขาจึงทำการขุดสนามขึ้นมาใหม่และเพื่อลบคำสาปของกบตัวนั้นออกไปจากสโมสร ซึ่งปรากฏว่าได้ผลเช่นกัน เพราะในฤดูกาลต่อมา พวกเขาก็กลับมาคว้าแชมป์ระดับประเทศได้อีกครั้ง 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

คันโตน่า
เจ๋งไม่แพ้เตะบอล : คันโตน่ากับ 7 บทบาทการแสดงสุดยอดเยี่ยม