ศิลปินลูกหนัง 10 ผลงานเพลงจากแข้งดัง

 

เมื่อไม่นานมานี้ เมมฟิส เดปาย แนวรุกชาวฮอลแลนด์ออกมาเปิดใจว่าอยากผันตัวไปเข้าวงการเพลงหลังแขวนสตั๊ด ซึ่งบรรดาแฟนบอลก็รู้จักกันดีว่าแข้งรายนี้มีผลงานเพลงมากมายที่ถูกปล่อยออกมาทางช่องยูทูปของตัวเองที่ชื่อ Memphis Depay โดยแนวเพลงที่เจ้าตัวชื่นชอบเป็นพิเศษก็คือแนวเพลงแร๊ป พร้อมทั้งมีเพลงดังอย่าง No Love ที่มียอดวิวสูงถึง 12ล้านวิว

 

อย่างไรก็ตาม เดปาย ไม่ใช่นักเตะคนแรกที่มีผลงานในวงการดนตรี ยังมียอดนักเตะอีกมากมายที่มีเพลงให้เราได้ฟังกัน วันนี้ทาง UFA ARENA จะพาไปฟัง 10เพลงดังจากยอดนักเตะจะเพราะถูกใจกันแค่ไหนบ้าง

 

จอห์น บรานส์-World In Motion

 

 

แม้จะไม่ใช่ผลงานเพลงของเจ้าตัวโดยตรง แต่ก็เป็นการถูกดึงไปร่วมโปรเจคของทีมชาติอังกฤษ ที่ตั้งใจทำเพลงขึ้นมาเพื่อเชียร์ทัพสิงโตคำรามในการลุยศึกฟุตบอลโลกปี 1990 ในชื่อเพลงว่า World In Motion โดยวง New Orderวงร๊อคชื่อดังในช่วงยุค 80 ที่ยังคงโด่งดังมาจนถึงยุคปัจจุบัน ถูกดึงเข้ามาทำเพลงเชียร์ครั้งนี้ ซึ่งเพลงดังกล่าวมีท่อนแร๊ปที่จะให้นักเตะในทีมชาติมามีส่วนร่วมโดยมี พอล แกสคอยน์ , คริส วอดเดิล , ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์ รวมถึงตัว จอห์น บรานส์ เองที่สุดท้ายเจ้าตัวก็เอาชนะเพื่อนร่วมทีมมาร้องในท่อนแร๊ปของเพลงดังกล่าว น่าเสียดายที่เพลง World In Motion ไม่สามารถส่งทัพสิงโตคำรามทะลุไปถึงการเป็นแชมป์โลกได้

 

 

 

โยฮัน ครัฟฟ์ -Oei, Oei, Oei Dat Was Me Weer Een Loei

 

แข้งอัจฉริยะที่ถูกเรียกว่าเป็นนักเตะเทวดานอกจากจะเล่นฟุตบอลได้ในระดับเทพแล้ว เขายังมีความสามารถด้านการร้องเพลงอีกด้วย ซึ่งเจ้าตัวเคยออกเพลงในสมัยเริ่มค้าแข้งบนทีมชุดใหญ่ของอาแจ็กซ์ กับการปล่อยเพลงแรกอย่าง Oei, Oei, Oei Dat Was Me Weer Een Loei เมื่อปี 1969 ที่ถือเป็นผลงานเพลงเดี่ยวชิ้นแรกของเขา นอกจากนี้ยังมีเพลง Alle Stoppen Ineens Naar De Knoppen ที่อยู่ในอัลบั้มเดียวกันอีกด้วย หลังจากนั้นเพลง Oei, Oei Dat Was Me Weer Een Loei  ก็ได้ถูกนำมารวมอยู่ในอัลบั้มชื่อ Kult Fussball ที่ถูกนำมาวางขายในปี 1998

 

 

 

ฟรันทซ์ เบ็คเคินเบาเออร์ -Gute Freunde kann niemand trennen

 

ปราการหลังทีมชาติเยอรมันที่ได้ชื่อว่าเป็นจักรพรรดิ์ลูกหนัง ที่ประสบความสำเร็จทั้งในฐานะนักเตะ และผู้จัดการทีม จากการพาทีมชาติเยอรมันตะวันตก คว้าแชมป์โลกในฐานะนักเตะในปี 1974 และ ในฐานะผู้จัดการทีมเมื่อปี 1990 ซึ่งนอกจากฝีมือด้านฟุตบอลเขายังมีความสามารถด้านดนตรี กับการมีเพลงเป็นของตัวเองซึ่งได้ปล่อยออกมาในชื่อ Gute Freunde Kann Nemand Trennen เมื่อปี 1966 แถมยังขึ้นไปติดชาร์ตเพลงอันดับ 33 และในปีถัดมาก็ได้ปล่อยเพลง Du Bist Das Gluck มาอีกหนึ่งเพลงเป็นเพลงส่งท้าย

 

 

 

เควิน คีแกน -Head Over Heels in Love

 

 

ดาวเตะทีมชาติอังกฤษผ่านการเดินทางค้าแข้งมาอย่างโชกโชน นอกจากจะเตะบอลเก่งแล้วยังมีพรสวรรค์ด้านการร้องเพลง ในสมัยค้าแข้งกับฮัมบูร์ก คีแกนได้ปล่อยผลงานเพลงชื่อว่า Head Over Heels in Love เมื่อปี 1979 ซึ่งเป็นอัลบั้มแรกของเจ้าตัว นอกจากนี้ยังมีเพลง Move On Down รวมอยู่ในอัลบั้มนี้ด้วย แม้ว่าเพลง Head Over Heels in Love จะติดอันดับแค่ 31 ในชาร์ตของประเทศอังกฤษ แต่ในประเทศเยอรมันเพลงนี้ทะยานขึ้นไปคิดอันดับ 10เลยทีเดียว หลังจากนั้นเมื่อได้กลับมาค้าแข้งที่ประเทศอังกฤษอีกครั้งกับ เซาธ์แฮมป์ตันในปี 1980 คีแกนก็จัดการปล่อยเพลง England เพื่อเป็นการทักทายแฟนบอลในบ้านเกิดน่าเสียดายที่เพลงนี้ไม่ปังเหมือนอัลบั้มชุดก่อน

 

 

รุด กุลลิท -Not the dancing kind

 

 

ตำนานแดนกังหันที่ถูกจดจำในฐานะสามทหารเสือชาวดัตช์ แต่ในช่วงที่เริ่มต้นการเป็นนักเตะอาชีพกับ เฟเยนูร์ด ซึ่งในเวลานั้นเขาได้มีโอกาสเล่นร่วมกับ ยอดแข้งอย่าง โยฮัน ครัฟฟ์ ที่อยู่ในบั้นปลายอาชีพค้าแข้ง จนในปี 1984 กุลลิทก็ได้ปล่อยผลงานเพลงชื่อว่า Not The Dancing Kind ที่เป็นแนวเพลงเร้กเก้ จังหวะสนุกสนาน หลังจากนั้นในปี 1987 เจ้าตัวก็ได้ไปมีผลงานร่วมกับศิลปิน เร้กเก้จากจาไมก้าในเพลง Captain Dread  ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เขาได้ย้ายไปอยู่เอซี มิลาน และถือเป็นการจารึกตำนานของตัวเองจนเป็นที่จดจำของโลกลูกหนัง

 

 

 

เอียน ไรท์ -Do The Right Thing

 

 

ตำนานดาวยิงอาร์เซน่อลนอกจากจะทำผลงานในวงการลูกหนังจนถูกยกเป็นตำนานแล้ว ไรท์ยังเคยมีผลงานเพลงที่ถูกปล่อยออกมาเมื่อปี 1993 ในชื่อเพลง Do The Right Thing ที่เป็นเพลงแดนซ์จังหวะสนุกสนานตามสไตล์ยุค 90 อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นนักเตะฝีเท้าดี แต่ในเรื่องเพลงเจ้าตัวดูจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไรนักจากการที่เพลงของเขาติดชาร์ตของแดนผู้ดีแค่อันดับที่ 43เท่านั้น และหลังจากนั้น ไรท์ก็มุ่งเอาดีด้านฟุตบอลและไม่ได้ไปแตะวงการเพลงอีกเลย

 

 

เกล็น ฮอดเดิ้ล และ คริส วอดเดิล -Diamond Lights

 

 

นอกจากจะเป็นคู่หูกันในทีมสเปอร์สแล้ว ทั้งคู่ยังเคยเป็นดูโอในการออกเพลงในนามศิลปิน Glen and Chris กับผลงานเพลงที่มีชื่อว่า Diamond Lights โดยปล่อยออกมาในปี 1987 ซึ่งก็เป็นช่วงที่ทั้ง เกล็น และ คริส ได้มาค้าแข้งอยู่ร่วมกันในทัพไกก่เดือยทอง แถมผลงานดังกล่าวทะยานไปติดชาร์ตเพลงที่อันดับ 12ของประเทศอังกฤษ นอกจากนี้ยังมีเพลง It’s Goodbye ที่ถูกปล่อยออกมาในปีเดียวกัน น่าเสียดายที่ทั้งคู่ไม่ได้ทำเพลงออกมาอีกหลังจากนั้น

 

 

พอล แกสคอยน์ -Fog on the tyne

 

 

แม้จะพลาดในการแย่งตำแหน่งแร็ปเปอร์ในเพลง World In Motion ที่ถูกนำไปเป็นเพลงเชียร์ทีมชาติอังกฤษ แกซซ่า ก็ได้หยิบเพลง Fog on the tyne ของวง Lindisfarne ‎กลับมาทำใหม่ร่วมกับวงต้นฉบับในทำนองใหม่ในปีเดียวกัน ซึ่งแม้จะเป็นเพลงที่ถูกนำมาทำใหม่แต่ก็ทะยานขึ้นไปอยู่อันดับ 2ของชาร์ตเพลงแดนผู้ดี เรียกว่าเป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จไม่แพ้ผลงานในสนาม นอกจากนี้ยังมีเพลง gordie boys ที่ถูกปล่อยออกมาพร้อมกันอีกด้วย

 

 

คลินท์ เดมป์ซี่ย์ -Don’t Tread 

 

 

ยอดแนวรุกชาวสหรัฐ อเมริกา เป็นที่รู้จักกันดีว่านอกจากฟุตบอลที่เขาทำได้ดีแล้ว ยังมีเรื่อง แร็ปที่เขาทำได้ดีอีกด้วย โดยมีชื่อในวงการว่า Deuce ซึ่งก่อนที่เขาจะย้ายมาสร้างชื่อบนเวทีพรีเมียร์ลีกกับฟูแล่ม เจ้าตัวได้ถูกดึงไปทำเพลงในโปรเจคของไนกี้ ที่เป็นการไปร่วมกับXO และ Big Hawk ที่เป็นแร็ปเปอร์สัญชาติมะกัน และได้ลงในช่องยูทูปของเมเจอร์ลีก หลังจากนั้นในปี 2014 เจ้าตัวก็ได้มาจับงานเพลงอีกครั้งในชื่อ The Redux ที่ทำร่วมกับ XO ที่เคยร่วมงานกันก่อนหน้านี้ พร้อมปล่อยเพลง It’s Poppin แม้จะไม่ได้เป็นที่รู้จักเท่าเพลงแรกก็ตาม

 

 

เฆเซ่ โรดริเกวซ-Yo Sabia

 

 

ปีกตัวรุกเด็กปั้นจากอคาเดมี่ของเรอัล มาดริด ซึ่งปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับ สปอร์ตติ้ง ลิสบอน ในสัญญายืมตัวจากปารีส แซงต์-แชร์กแมง มีชื่อเสียงในวงการเพลงในฐานะแร็ปเปอร์ที่ใช้ชื่อว่า Jey M ที่มีผลงานเพลงมากถึง 8เพลง เรียกว่ามากที่สุดในบรรดานักฟุตบอลในลิสต์นี้ ซึ่งเพลงที่ดังที่สุดของเขาก็คือเพลง Yo Sabia ที่ปล่อยออกมาเมื่อปี 2015 โดยมีผู้เข้าชมในyoutubeไปแล้วกว่า 31ล้านวิว

 

 

ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน -ซัลโว

 

 

ตำนานดาวยิงทีมชาติไทยที่ถูกเรียกว่า เพชรฆาตหน้าหยก จากหน้าตาอันหล่อเหลาบวกกับฝีเท้าอันเฉียบคม ที่นอกจากจะเป็นหนึ่งในตำนานลูกหนังบ้านเราแล้ว ยังมีผลงานเพลงหนึ่งชุดที่ทำร่วมกับค่ายนิธิทัศน์เมื่อปี พ.ศ. 2536 ในชื่อชุด ซัลโว ที่มีเพลงอยู่ในชุดนั้นถึง 10เพลง ได้แก่เพลง ซัลโว , ปางตาย , อย่างงี้ต้องสาบาน , ให้โอกาส , เสียวหัวใจ , จุกอก , ยืนยัน , สถานการณ์จำเป็น , ฉันเองก็เสียใจ และ ทางใครทางมัน ซึ่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งมุมของยอดนักเตะแดนสยามของเรา