ศึกสายเลือด! ย้อนรอยเกมไทยดาร์บี้ในลีกแดนปลาดิบ

ไทย

ศึก เจลีก ญี่ปุ่น นัดสำคัญ “ไทย ดาร์บี้” ระหว่าง โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ซึ่งนำทัพมาโดย ธีราทร บุญมาทัน เตรียมเปิดบ้านพบกับ คอนซาเล่ ซัปโปโร ของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่เพิ่งหายกลับมาจากอาการบาดเจ็บ นี่ถือเป็นเกมที่แฟนบอลต่างตั้งตารอคอยการเผชิญหน้าของสองผู้เล่นตัวหลักทีมชาติไทย

โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีนักเตะไทย ถึง 4 คน ที่ได้ไปโลดแล่นบนลีกสูงสุดแดนปลาดิบ เริ่มตั้งแต่ ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน, ธีรศิลป์ แดงดา และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ซึ่งทั้งหมดเคยเผชิญหน้ากันใน เจลีก มาแล้ว

ดังนั้นวันนี้ UFA ARENA จะขอพาไปย้อนดู 5 เกม “ไทย ดาร์บี้” สุดมันส์ ในศึก เจลีก ญี่ปุ่น เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อนที่ ธีราทร บุญมาทัน จะต้องดวลกับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ อีกครั้งวันเสาร์นี้

 

ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า 1-0 คอนซาโดเล่ ซัปโปโร | ซีซั่น 2018

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 ทีมดังศึก เจลีก ญี่ปุ่น อย่าง ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า ตัดสินใจคว้าตัวศูนย์หน้าเบอร์หนึ่งทีมชาติไทย อย่าง ธีรศิลป์ แดงดา จาก เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปค้าแข้งลีกอาชีพแดนปลาดิบ ด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล และโปรแกรมนัดเปิดซีซั่นดังกล่าว เจ้าตัวต้องพาต้นสังกัดใหม่ลงสนามเจอกับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ซึ่งมี ชนาธิป สรงกระสินธ์ ก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักของทีมแบบเต็มตัวเรียบร้อยแล้ว

เกมที่สนาม เอดิออน สเตเดี้ยม เริ่มต้นด้วยการออกสตาร์ทเป็นตัวจริงของทั้งสองนักเตะไทย และนัดแรกอย่างเป็นทางการของ “เทพมุ้ย” บนลีกสูงสุดญี่ปุ่น ก่อนเจ้าตัวจะใช้เวลาแค่เพียง 28 นาที เท่านั้น สำหรับการทำประตูแรกกับ ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า จากจังหวะลอยตัวขึ้นโหม่งลูกเปิดของ โยชิฟูมิ คาชิวะ ผ่านมือ กู ซัง ยุน ผู้รักษาประตู คอนโดซาเล่ ซัปโปโร เข้าไปแบบสวยงาม

ขณะที่ทางฝั่ง ชนาธิป เป็นเกมที่เขาไม่สามารถโชว์ฟอร์มที่น่าประทับใจได้ มีลุ้นทำประตูหนึ่งครั้งจากหวะโหม่ง แต่บอลไม่ผ่านมือ ทาคุโตะ ฮายาชิ ก่อนโดนเปลี่ยนตัวออกจากสนามนาทีที่ 71 ท้ายที่สุดเกมนัดดังกล่าวจบลงด้วยสามคะแนนของ ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า และ ธีรศิลป์ กลายเป็นฮีโร่พาทีมคว้าชัยชนะเกมประเดิมสนามศึก เจลีก ซีซั่น 2018 ได้สำเร็จ

– ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า | ธีรศิลป์ แดงดา – ลงเล่น 83 นาที : ยิง 1 ประตู

– คอนซาโดเล่ ซัปโปโร | ชนาธิป สรงกระสินธ์ – ลงเล่น 71 นาที

 

วิสเซล โกเบ 4-0 คอนซาโดเล่ ซัปโปโร | ซีซั่น 2018

ถือเป็นการเจอกันครั้งแรกของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ กับ ธีราทร บุญมาทัน ในศึก เจลีก หลังแบ็คซ้ายทีมชาติไทย โดนดึงจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด มาอยู่กับ วิสเซล โกเบ แบบยืมตัวช่วงก่อนออกสตาร์ทฤดูกาล 2018 และเกมนัดดังกล่าวทั้งสองคนถูกส่งลงสนามเป็นตัวจริงอย่างที่แฟนบอลคาดหวังไว้

ภาพรวมเกมนี้เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น วิสเซล โกเบ ทำผลงานได้ดีกว่าและเอาชนะ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ไปแบบขาดลอย 4-0 จากการยิงของ เวลลิงตัน และ คาสุมา วาตานาเบะ คนละสองประตู ส่วนผลงานของ ธีราทร ถือว่ายอดเยี่ยมทั้งเกมรับและเกมรุก นอกนั้นเขายังเป็นคนตัดบอลจากผู้เล่น ซัปโปโร ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นการทำประตูที่สองของ โกเบ ในเกมนี้

ส่วน ชนาธิป มีลุ้นทำประตูในนัดนี้เช่นกันช่วงครึ่งหลัง จากจังหวะลองยิงไกลนอกกรอบ แต่บอลไม่เข้าเป้า ท้ายที่สุดเกมจบลงด้วยชัยชนะของเจ้าบ้าน วิสเซล โกเบ ขณะที่นักเตะไทย อยู่ในสนามจนครบ 90 นาที ทั้งสองคน

– วิสเซล โกเบ | ธีราทร บุญมาทัน – ลงเล่น 90 นาที

– คอนซาโดเล่ ซัปโปโร | ชนาธิป สรงกระสินธ์ – ลงเล่น 90 นาที

 

โออิตะ ทรินิตะ 2-1 คอนซาโดเล่ ซัปโปโร | ซีซั่น 2019

ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ คือ 1 ใน 3 นักเตะไทย ที่มีโอกาสได้ย้ายไปเล่นบนลีกสูงสุดของญี่ปุ่น เมื่อฤดูกาล 2019 กับ โออิตะ ทรินิตะ สโมสรน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาจาก เจลีก 2 ด้วยสัญญายืมตัว 1 ซีซั่น และสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมได้อย่างต่อเนื่อง

ย้อนไปเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2019 ต้นสังกัดของ “เจ้านิว” ต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ทว่าเกมนัดดังกล่าว ฐิติพันธ์ เริ่มต้นด้วยการออกสตาร์ทเป็นแค่เพียงตัวสำรอง ส่วน ชนาธิป ลงสนามตัวจริงให้กับทีมเยือน พร้อมกับทำผลงานยอดเยี่ยมเป็นคนทำแอสซิสต์ให้กับ โคซุเกะ ชิราอิ ยิงประตูขึ้นนำในนาทีที่ 20

อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น โออิตะ ทรินิตะ เร่งเครื่องยิงแซงจากฝีเท้า อาโดะ โอนาอิวุ เหมาคนเดียวสองลูก กระทั่งช่วงท้ายเกมนาทีที่ 77 ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองแทนที่ คาซูกิ โคซูกะ ก่อนมีส่วนสำคัญช่วยทีมรักษาสกอร์นำ 2-1 จนจบ 90 นาที ได้สำเร็จ ส่วนทางฝั่ง ชนาธิป แม้จะมีชื่อทำแอสซิสต์ ทว่านี่เป็นอีกครั้งซึ่งเขาต้องปราชัยในการลงเล่นเกมเจอกับสโมสรที่มีนักเตะไทย ร่วมทีม

– โออิตะ ทรินิตะ | ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ – ลงเล่น 13 นาที

– คอนซาโดเล่ ซัปโปโร | ชนาธิป สรงกระสินธ์ – ลงเล่น 90 นาที : แอสซิสต์ 1 ประตู

 

โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส 4-2 คอนซาโดเล่ ซัปโปโร | ซีซั่น 2019

เป็นอีกเกมที่สองนักเตะไทย อย่าง ธีราทร บุญมาทัน ต้องโคจรมาพบกับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ในศึก เจลีก ญี่ปุ่น เมื่อซีซั่น 2019 และถือเป็นอีกหนึ่งเกมสุดมันส์แห่งฤดูกาล แถมมีความสำคัญกับ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส เพราะมันมีส่วนทำให้พวกเขาก้าวไปถึงแชมป์เมื่อสิ้นสุดซีซั่น

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2019 โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ทีมอันดับ 3 ของลีก ณ เวลานั้น ต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร อันดับ 7 ของตาราง นัดดังกล่าวทั้ง ธีราทร และ ชนาธิป ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งคู่ และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม

แมตช์นั่นจบลงด้วยชัยชนะของ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส 4-2 จากการยิงของ เอริค 2 ประตู, เทรุฮิโตะ นาคางาวะ และ มาร์กอส จูเนียร์ อีกคนละ 1 ประตู ส่วนผู้มาเยือนได้จาก เจย์ โบธรอยด์ และ มูซาชิ ซูซูกิ คนละ 1 ประตู

อย่างไรก็ตามแม้ทีมจะแพ้แบบขาดลอย แต่ ชนาธิป ถือว่ามีส่วนกับการทำประตูที่สองของ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร เพราะเจ้าตัวเป็นคนยกบอลสุดสวยเข้าไปในกรอบเขตโทษให้กับ ทาคูมะ อราโนะ ก่อนจ่ายต่อไปถึง มูซาชิ ซูซูกิ ยิงประตูไล่ขึ้นมา 4-2

การเก็บสามคะแนนเกมนี้ ส่งผลให้ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ขยับขึ้นไปอยู่ตำแหน่งรองจ่าฝูงหลังจบเกมนัดที่ 31 ของซีซั่น  ก่อนท้ายที่สุดพวกเขาสามารถแซงทีมอย่าง เอฟซี โตเกียว คว้าแชมป์ เจลีก สมัยที่ 4 อย่างยิ่งใหญ่ ส่วน ธีราทร กลายเป็นนักเตะไทย คนแรกที่คว้าแชมป์ลีกแดนอาทิตย์อุทัย ได้สำเร็จ

– โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส | ธีราทร บุญมาทัน – ลงเล่น 90 นาที

– คอนซาโดเล่ ซัปโปโร | ชนาธิป สรงกระสินธ์ – ลงเล่น 74 นาที

 

คอนซาโดเล่ ซัปโปโร 1-3 โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส | ซีซั่น 2021

นี่คือเกม “ไทย ดาร์บี้” นัดล่าสุดที่เกิดขึ้นในศึก เจลีก เมื่อช่วงต้นฤดูกาล 2021 ที่ผ่านมา การเจอกันระหว่าง คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ซึ่งนำทัพมาโดย ชนาธิป สรงกระสินธ์ เปิดบ้านพบ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ของ ธีราทร บุญมาทัน ซึ่งนัดนี้เจ้าตัวออกสตาร์ทเป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น

แมตช์ดังกล่าว ชนาธิป ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และเขาเกือบมีชื่อทำแอสซิสต์ จากจังหวะพาบอลเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนจ่ายมาให้ตัวที่วิ่งตีคู่มาอย่าง แอนเดอร์สัน โลเปซ ซัดโล่งๆ หน้าปากประตู แต่เจ้าตัวยิงหลุดกรอบออกไปแบบไม่น่าเชื่อ อย่างไรก็ตามช่วงครึ่งหลังหัวหอกชาวบราซิล แก้ตัวสำเร็จ เพราะเขาเป็นคนยิงขึ้นนำ 1-0 ให้ทีมในนัดนี้

อย่างไรก็ตามช่วงท้ายเกม โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส มาแซงนำเป็น 3-1 พร้อมกับการถูกส่งลงสนามของ ธีราทร ซึ่งเขาเกือบมีชื่อทำแอสซิสต์ในเกมนี้ จากจังหวะพาบอลหนีแนวรับ ซัปโปโร เข้ามานในกรอบเขตโทษ ก่อนจ่ายสุดสวยให้กับ เอลแบร์ ส่งบอลเข้าก้นตาข่ายไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินเช็ค VAR และเป่าเป็นลูกแฮนด์บอล “เจ้าอุ้ม” ไปก่อน

ทว่าท้ายที่สุด ธีราทร บุญมาทัน สามารถพา โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส บุกมาคว้า 3 แต้ม ถึงถิ่นของ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ได้สำเร็จ ซึ่งทีมของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ มีโอกาสได้ล้างแค้นในเกมที่ทั้งสองทีมกำลังจะเจอกันอีกครั้งในวันเสาร์นี้

– คอนซาโดเล่ ซัปโปโร | ชนาธิป สรงกระสินธ์ – ลงเล่น 90 นาที

– โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส | ธีราทร บุญมาทัน – ลงเล่น 10 นาที