อันโตนิโอ วาเลนเซีย กลายเป็นนักเตะดังรายล่าสุดที่ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการในซัมเมอร์นี้ ด้วยวัย 35 ปี ผ่านทางทวิตเตอร์ของตนเอง
ตลอด 18 ปีในอาชีพค้าแข้ง ดาวเตะทีมชาติเอกวาดอร์ ได้ลงเล่นให้สโมสรมากมาย แต่ช่วงเวลาที่ทำให้หลายคนจดจำชื่อของเขาได้ และเป็นช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด คือ การเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยย้ายมาจาก วีแกน ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์ ในปี 2009
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา วาเลนเซีย กลายเป็นนักเตะตัวหลักของทีม และพาทีมคว้าแชมป์มากมายตลอด 10 ปี กับ ‘ปีศาจแดง’ โดยลงเล่นทั้งหมด 339 นัด ยิงไป 25 ประตู พร้อมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, ลีก คัพ 2 สมัย และ เอฟเอ คัพ กับ ยูโรป้า ลีก อย่างละสมัย
วาเลนเซีย ลา ยูไนเต็ด ในปี 2019 เพื่อย้ายไปเล่นกับ กีโต้ สโมสรในบ้านเกิดช่วงบั้นปลายอาชีพ ก่อนปิดฉากอาชีพกับ เกเรตาโร่ สโมสรจาก เม็กซิโก ในปี 2021 ด้วยวัย 35 ปี
แม้เจ้าตัวได้ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลอย่างเป็นทางการ แต่ความทรงจำที่ วาเลนเซีย สร้างไว้ ณ ‘โรงละครแห่งความฝัน’ ยังไม่หายไปจากใจของแฟนแน่นอน UFA ARENA จึงขออาสาพาไปรำลึกถึง 5 ช่วงเวลาที่ดีสุด และน่าจดจำของ ปีกสารพัดประโยชน์จอมขยัน รายนี้
เจ็บหนักก็ไม่หวั่น
แม้ลีลาการเล่นจะไม่ต่างจากปีกหลงยุคที่กระชากไปสุดเส้น เน้นเปิดเข้ามากรอบเขตโทษ แต่ปีแรกของ วาเลนเซีย ใน โอลด์ แทร็ฟอร์ด ก็ถือว่าฟอร์มสอบผ่าน ด้วยการยิงไป 7 ประตู กับ 13 แอสซิสต์ จาก 49 นัดในทุกรายการ
ทว่าฤดูกาลที่ 2 กับ ปีศาจแดง ปีกชาวเอกวาดอร์ กลับต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บที่รุนแรงที่สุดในอาชีพค้าแข้งของเขา จากเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดเปิดสนามฤดูกาล 2010-11 ที่เข้าปะทะกับ เคิร์ก บรอดฟุต แข้งเรนเจอร์ส จนข้อเท้าซ้ายหัก
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เผยในตอนนั้นว่า อาการบาดเจ็บของ วาเลนเซีย คล้าย ๆ กับที่ อลัน สมิธ เคยเจอในปี 2006 ซึ่งส่งผลให้ ‘สมัธเจอร์ส’ ไม่สามารถกลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีเช่นเดิมอีกเลย
วาเลนเซีย หายหน้าจากทีมไป 6 เดือนก่อนจะกลับมาเล่นได้อีกครั้ง ในเกม เอฟเอ คัพ รอบ 6 พบกับ อาร์เซน่อล ในเดือนมีนาคม ปี 2011
ถึงอาการบาดเจ็บหนักหนาแค่ไหน ดาวเตะทีมชาติเอกวาดอร์ ก็กลับมาลงสนามเล่นเหมือนไม่มีอะไรเคยเกิดขึ้นกับเขา และกลับมายึดตำแหน่งตัวจริงของทีมในเวลาต่อมา ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่า วาเลนเซีย มีจิตใจที่แข็งแกร่งไม่แพ่ร่างกายของเขาเลย
ช่วงพีกสุดกับปีศาจแดง
ตลอด 10 ปีของ วาเลนเซีย กับ แมนฯยูไนเต็ด คงไม่มีฤดูกาลไหนที่เขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมไปกว่า ฤดูกาล 2011-12 อีกแล้ว
ปีกจอมพลัง เป็นหนึ่งในนักเตะปีศาจแดง ฤดูกาลนั้นที่ทำผลงานได้สม่ำเสมอตลอดปี พร้อมทำไป 6 ประตู กับ 16 แอสซิสต์ จาก 38 นัดในทุกรายการ
นั่นทำให้คนที่แฟนผีเรียกกันว่า ‘โตโน่’ คว้ารางวัล เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ หรือผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีครอง จากฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม เช่นเดียวกับคว้ารางวัลแข้งยอดเยี่ยมของฤดูกาล จากผลโหวตของแฟน ๆ
นอกจากนี้ ผลงานดังกล่าวยังทำให้ วาเลนเซีย เปลี่ยนจากเบอร์ 25 มาเป็นหมายเลข 7 เบอร์เอกลักษณ์ของสโมสร ที่สวมใส่โดยแข้งระดับโลกมากมาย ทั้ง จอร์จ เบสต์, ไบรอัน ร็อบสัน, เอริค คันโตน่า, เดวิด เบ็คแฮม และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้
น่าเสียดายที่เขาแบกรับความคาดหวังกับบทบาทเบอร์ 7 ไม่ไหว จนส่งผลให้ฟอร์มตกชัดเจนในฤดูกาล 2012-13 ก่อนขอกลับไปสวมเสื้อเบอร์ 25 เบอร์เก่าตามเดิม
ประสบการณ์นัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก
หนึ่งในช่วงเวลาที่น่าจดจำของ วาเลนเซีย กับการค้าแข้งให้ แมนฯยูไนเต็ด ย่อมหนีไม่พ้นกับลงเล่นเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ ในปี 2011 ซึ่งเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตของเจ้าตัว
อย่างที่เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ปีกชาวเอกวาดอร์ เจ็บหนักช่วงต้นฤดูกาล และไม่มีส่วนร่วมกับทีมในรอบแบ่งกลุ่มของการแข่งขันเลย
อย่างไรก็ตาม วาเลนเซีย หายกลับมาทันเวลาพอดีในช่วงที่เกมรอบน็อคเอ้าท์ และพลาดแค่เกมเลกแรกที่พบกับ โอลิมปิก มาร์กเซย ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น
โดยในเกมรอบตัดเชือก วาเลนเซีย โชว์ฟอร์มเด่นไม่แพ้ใคร ด้วยการยิง 1 จ่าย 1 ในการพบกับ ชาลเก้ เลกสอง และช่วยให้ ‘ปีศาจแดง’ เอาชนะไปแบบถล่มถลายด้วยสกอร์รวม 6-1 ผ่านเข้าไปเล่นรอบชิงกับ บาร์เซโลน่า ณ สนามเวมบลี่ย์
น่าเสียดายที่ บาร์ซ่า ในมือของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แข็งแกร่งเกินกว่าที่ ยูไนเต็ด ต้านทานไหว และเอาชนะไป 3-1 คว้าแชมป์ยุโรป ครั้งที่ 2 ในรอบ 3 ปี
บทบาทกัปตันทีม
ช่วงซัมเมอร์ปี 2018 วาเลนเซีย ได้รับการแต่งตั้งจากสโมสรให้เป็นกัปตันทีมคนใหม่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ โชเซ่ มูรินโญ่ กำลังกุมบังเหียนทีมอยู่
ก่อนหน้านี้ ไมเคิ่ล คาร์ริค เป็นคนรับผิดชอบหน้าที่ดังกล่าว แต่ วาเลนเซีย ก็เคยสวมปลอกแขนกัปตันมาแล้วในฤดูกาล 2017-18 ในช่วงที่ อดีตกองกลางชาวอังกฤษ ไม่ได้ลงสนาม ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของเขาใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วย
นอกจากนี้ แข้งชาวเอกวาดอร์ ยังเป็นกัปตันในเกมนัดชิงชนะเลิศ ยูโรป้า ลีก ปี 2017 ที่เอาชนะ อาแจ็กซ์ 2-0 และเป็นแชมป์ยุโรปครั้งแรกของเขากับ ยูไนเต็ด
เขาเคยทำหน้าที่เป็นรองกัปตันทีม หรือ กับตันทีมอันดับที่ 3 ของสโมสรมานานหลายปี แต่ตอนที่ได้รับบทบาทเป็นกัปตันทีมของ แมนฯยูไนเต็ด คือช่วงเวลาที่ วาเลนเซีย ไม่มีทางลืมแน่นอน
แชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย
แมนยูไนเต็ด กำลังดิ้นรนกลับมาคว้าแชมป์ลีกให้ได้ หลังหมดยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แต่ วาเลนเซีย ก็มีโอกาสได้สัมผัสและจดจำช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ปีกชาวเอกวาดอร์ เป็นส่วนหนึ่งของ ยูไนเต็ด ชุดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก หรือแชมป์ลีกสมัยที่ 19 ในฤดูกาล 2010-11 กลายเป็นสโมสรที่คว้าแชมป์ลีกมากที่สุดในอังกฤษ แซงหน้า ลิเวอร์พูล ที่ทำได้ 18 สมัย ณ เวลานั้น
แม้เจ็บหนักจนหายไปร่วม 6 เดือนอย่างที่กล่าวไปข้างต้น แต่ วาเลนเซีย ก็ค่อย ๆ ทำผลงานจนกลับมาเป็นตัวหลักเบอร์ต้น ๆ ที่ ‘เฟอร์กี้’ ไว้วางใจอีกครั้ง
และจากนั้น วาเลนเซีย ก็คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 2 ของตนเองในปี 2013 ซึ่งเป็นฤดูกาลสุดท้ายของ บรมกุนซือชาวสก็อต ในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก่อนวางมือจากการคุมทีมไปตลอดกาล
