เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ไม่น้อยสำหรับ เอมิล สมิธ โรว์ แนวรุกวันเดอร์คิดส์ของ อาร์เซน่อล ที่ฟอร์มการเล่นยังไม่กระแทกตา แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษ มากพอ ทำให้ดาวเตะวัย 21 ปี ไม่มีชื่อติดทัพ “สิงโตคำราม” ที่จะทำศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ไอ ที่จะเปิดสนามเวมบลีย์ รับการมาเยือนของ แอลเบเนีย วันศุกร์ที่ 12 พ.ย. และบุกไปเยือน ซาน มาริโน ในวันจันทร์ที่ 15 พ.ย. นี้
แต่กับผลงานที่เล่นให้กับทัพ “ไอ้ปืนใหญ่” ในช่วงเวลานี้บอกได้เลยว่า เจ้าของเสื้อหมายเลข 10 รายนี้ ไม่เป็นสองรองใครแน่นอน เพราะถึงเวลานี้ สมิธ โรว์ ทำไปแล้ว 4 ประตูจาก 7 เกมหลังสุด ซึ่งนั่นก็มากพอที่เทียบเท่ากับผลงานเมื่อฤดูกาลที่แล้วทั้งซีซั่น
เหตุใดทำไม เอมิล สมิธ โรว์ ถึงสามารถพัฒนาตัวเองได้แบบก้าวกระโดด จนก้าวมาเป็นคีย์แมนของทีม วันนี้ UfaArena จะพามาหาคำตอบกัน
เขยิบเข้ามาเล่นบอลในกรอบเขตโทษมากขึ้น
ในเวลานี้ ดาวเตะที่ก้าวขึ้นมาจาก อคาเดมี่ของสโมสร มีส่วนร่วมกับทีมของ มิเกล อาร์เตต้า อย่างเต็มเปี่ยม และนับเป็นแกนหลักสำคัญอย่างเต็มตัวในฤดูกาลนี้ เขาพัฒนาตัวเองแบบก้าวกระโดดจากฤดูกาลก่อน ซึ่งจาก 10 นัดแรกใน พรีเมียร์ลีก ด้วยความช่วยเหลือจาก อาร์เต้า และทีมสต๊าฟโค้ช สมิธ โรว์ได้พัฒนาจังหวะการวิ่งของตัวเองในสนาม และใช้ความสามารถเฉพาะตัวที่มี กล้าที่จะเล่นมากขึ้น เพื่อเข้าไปอยู่ในกรอบเขตโทษ
ฟอร์มดังกล่าวนั้นสามารถเห็นได้ชัดๆ จากเกมทึ่เขายิงใส่ เลสเตอร์ ซิตี้ ,ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส หรือ วิมเบิลดัน โดยจุดเริ่มต้นนั้นของประตูนั้นเริ่มจากการขึ้นเกมริมเส้น ส่วนตัวของ สมิธ โรว์ จะเขยิบตัวเข้ามาในกรอบเขตโทษมากขึ้น เพื่อรอจังหวะที่เพื่อนร่วมทีมจะจ่ายบอลตัดเข้ามากลางให้ ซึ่งดาวเตะวัย 21 ปี ในเวลานี้เล่นบอลน้อยจังหวะลงกว่าเดิม แต่ประสิทธิภาพนั้นมากขึ้นจากการที่เขาหาช่องว่างก่อนจะยิงประตูจากสัมผัสแรก จนทำให้เขามีค่าเฉลี่ยทำประตูไม่ต่างจากเพลย์เมคเกอร์จากสโมสรอื่นทั้ง แจ็ค กรีลิช ,เมสัน เมาทื หรือ บรูโน่ แฟร์นานเดส ที่มีค่าเฉลี่ยยิงได้ 1 ประตูต่อการลงสนาม 3.5 นัด
พัฒนาการเลี้ยงบอลแบบยกระดับ
หากเกมไหนที่ สมิธ โรว ต้องเขยิบไปเล่นริมเส้นแทนที่ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง เขาก็แสดงให้เห็นว่าพัฒน่าผลงานได้ดีขึ้นมาแบบก้าวกระโดดเช่นกัน สถิติโดยรวมนั้นแสดงให้เห็นว่า สามารถเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งได้มากกว่าฤดูกาลที่แล้วถึง 4 เท่าเลยทีเดียว
นั่นจึงอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ฤดูกาลนี้เปอร์เซนต์การจ่ายบอลของเขาลดลง แต่กลับกลายเป็นว่าประสิทธิภาพนั้นมากขึ้นกว่าเดิม เพราะจากสถิติที่ออกมาแอสซิสต์แต่ละครั้งความแม่นยำเพิ่มจาก 83.6 เปอร์เซนต์ เป็น 89.1 เปอร์เซนต์สูงที่สุดในบรรดานักเตะ “ไอ้ปืนใหญ่ “ รายอื่นๆในฤดูกาลนี้
ซึ่งนั่นคือระดับที่ใกล้เคียงกับ กรีลิช ,โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หรือแม้กระทั่ง ราฮีม สเตอร์ลิง ซูเปอร์สตาร์จากยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีกที่สร้างผลงานมาตรฐานในระดับนี้เอาไว้มาโดยตลอด
เก็บตัวช่วงปรีซีซั่นกับทีมแบบเต็มสูบ
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ สมิธโรว์ นั้นพัฒนาขึ้น นั่นอาจเป็นเพราะเขาได้อยู่กับทีมชุดนี้มาตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น และเก็บตัวมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่างจาก 2 ฤดูกาลก่อนหน้านี้ ทั้งในช่วงซัมเมอร์ปี 2019 ที่ต้องโชคร้ายได้รับบาดเจ็บโคนขาหนีบ ขณะเดียวกันฤดูกาลที่แล้วก็มาได้รับบาดเจ็บจากเกมอุ่นเครื่องกับ ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์สด้วย
แต่กับฤดูกาลนี้เมื่อสภาพร่างกายฟิตต็มร้อย เนื่องจากไม่ต้องเดินทางไปทำศึกยูโร 2020 เมื่อช่วงกลางปี พร้อมทำให้เขาได้เก็บตัวกับทีมที่โปรตุเกส และได้ลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ก่อนที่ฤดูกาลจะเปิดฉากขึ้น ซึ่งแม้ในช่วง 3 นัดแรกที่ทีมแพ้รวด สมิธ โรว์ ยังคงมุี่งมั่นฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ และตอบแทนความไว้วางใจของ อาร์เตต้า ออกมาด้วยผลงานในสนาม
ซึ่งนอกจากการฝึกซ้อมแล้ว เขายังเคร่งครัดกับระบบการโภชนาด้วย ที่รับประทานอาหารตามแบบแผนที่สโมสรวางเอาไว้ และไม่เข้าร่วมปาร์ตี้ใดๆ จนทีมแพทย์ของอาร์เซน่อลนั้นถึงกับออกปากชมว่านี่คือนักเตะที่สภาพร่างกายสมบูรณ์แบบที่สุด
หมายเลข10กับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง
นับตั้งแต่ยุคพรีเมียร์ลีกเป็นต้นมา ดาวดังของ อาร์เซน่อล หลายคนต่างเคยสวมใส่หมายเลข 10 ลงสนามไม่ว่าจะเป็น เดนนิส เบิร์กแคมป์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, แจ็ค วิลเชียร์ และ เมซุต โอซิล
การที่ เอมิล สมิธ โรว์ ในวัย 21 ปีหาญกล้าใส่หมายเลขนี้ย่อมบ่งบอกถึงคุณสมบัติพิเศษที่ มิเกล อาร์เตต้า ยอมรับและกุนซือชาวสแปนิชก็เปิดเผยลูกทีมเป็นร้องขอหมายเลขนี้เอง
“เขาขอหมายเลข 10 เองเลย นั่นแสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานและความมุ่งมั่น ผมชอบนักเตะที่พร้อมทำมากกว่าในสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้หากว่าพวกเขาเชื่อว่าทำได้ ไม่มีข้อจำกัดกับมัน ตอนที่เขาถามผมและสโมมสรว่าเขาอยากได้หมายเลขนี้ ผมก็ตอบตกลง เอาเลย”
ขณะที่สมิธ โรว์ กล่าวถึงการเลือกหมายเลข 10 ของตัวเองว่า “ทุกคนรู้ว่าหมายเลข 10 คือเสื้อที่ยิ่งใหญ่และเป็นตำแหน่งที่สำคัญมากด้วย มันพิเศษจริงๆ ผมไม่สามารถอธิบายความรู้สึกได้หรอกนะ ผมไม่รู้จะหาคำใดมาอธิบายได้ถูกต้องในตอนนี้ แต่เอาเป็นว่าผมมีความสุขมากๆ”
DaboyG
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :อนาคตอีกไกล! อาร์เตต้า ปลอบ สมิธ โรว์ ไม่ต้องเสียใจที่หลุดทัพสิงโต
