ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ประธานสโมสรสปอร์ตติ้ง ลิสบอน ได้ออกมาเปรยว่าทางทีมกำลังพิจารณาเปลี่ยนชื่อสโมสรตามชื่อของยอด
แข้งอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เพื่อเป็นเกียรติในฐานะทีมที่ปั้นนักเตะรายนี้มา และกำลังอยู่ในระหว่างทำให้มันเป็นรูปเป็นร่าง
ซึ่งนี้ไม่ใช่ครั้วแรกที่ชื่อของนักฟุตบอลถูกนำมาตั้งเป็นชื่อของสนาม ในอดีตมีนักเตะระดับตำนานมากมายที่ได้รับเกียรตินำชื่อไปใช้
ในสนามแข่ง วันนี้ UFA ARENA จะขอพาไปชม 8นักฟุตบอลที่ถูกนำชื่อไปตั้งเป็นชื่อสนาม
อาลี ดาอี- อาลี ดาอีสเตเดี้ยม(สโมสรชาห์ดาลี อาร์เดบิล)
ยอดนักเตะชาวอิหร่านที่ไม่ได้เป็นแค่ตำนานของชาติเท่านั้น ยังเป็นตำนานของนักเตะชาวเอเชีย ที่ได้ไปค้าแข้งกับยอดทีมแห่ง
เมืองเบียร์อย่าง บาเยิร์น มิวนิคอีกด้วย แม้ว่าที่นี้จะไม่ใช่ที่ที่เขาโชว์ฟอร์มได้ดีนัก แต่หลังจากย้ายไปอยู่กับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน เขาก็
จารึกประวัติศาสตร์ไว้มากมาย กับการเป็นนักเตะอิหร่านคนแรกที่ยิงประตูในฟุตบอลแชมป์เปี้ยนลีก โดยซัด 2 ประตูใส่เชลซี และอีก
1 ประตูใส่เอซี มิลาน ซึ่งการได้ไปร่วมทีมในบุนเดสลีก้าของเขาก็เป็นการเปิดประตูให้นักเตะชาวอิหร่านอีกหลายคนได้มีโอกาสค้า
แข้งในลีคเยอรมันไม่ว่าจะเป็น เมห์ดี้ มาห์ดาวิเคีย ,วาฮิด ฮาชิเมียน ,อาลี คาริมี่
ด้วยผลงานในทีมชาติของเจ้าตัวกับทีมขาติที่กดไปถึง 109 ประตูจาก 149 นัด ทำให้ชื่อของเขาถูกนำไปใช้เป็นชื่อของสนามกีฬาใน
ประเทศอิหร่านที่มีความจุถึง 20,000ที่นั่ง ในนามว่าอาลีดาอี สเตเดี้ยม เพื่อเป็นเกียรติให้กับตำนานของชาติรายนี้ ซึ่งในปัจจุบัน
ชาห์ดาลี อาร์เดบิล ทีมในลีกอิหร่านเป็นผู้เช่าสนามแห่งนี้อยู่
จอร์จี้ อัสปารูฮอฟ – วีว่าคอม อารีน่า จอร์จี้ อัสปารูฮอฟ สเตเดี้ยม (เลฟสกี้ โซเฟีย)
ตำนานดาวเตะผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งฟุตบอลบัลแกเรียช่วงยุค 60-70 เขาเป็นนักเตะที่ถูกยกย่องว่าดีที่สุดในช่วงเวลานั้น และเคยไป
ได้ไกลถึงอันดับ 8ของรางวัล บัลลงดอร์เมื่อปี 1965 น่าเสียดายที่เส้นทางลูกหนังของเขาจบเร็วเกินไปจากเหตุการณ์อุบัติเหตุทาง
รถยนต์จนทำให้เขาเสียชีวิตด้วยวัยเพียง 28ปี
หลังจากเสียชีวิต สโมสรเลฟสกี้ โซเฟีย ที่เป็นทีมในบ้านเกิดและปลุกปั้นเขามาตั้งแต่เป็นเยาวชน ก็จัดการเปลี่ยนชื่อสนามเพื่อเป็น
เกียรติให้กับยอดดาวยิงของทีม โดยใช้ชื่อว่า วีว่าคอม อารีน่า จอร์จี้ อัสปารูฮอฟ สเตเดี้ยม ซึ่งยังคงใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน
เกออร์เก ฮาจี – สตาดิโอนุล เกออร์เก ฮาจี (ฟารูล คอนสเตนต้า)
ยอดแข้งผู้มีฉายาว่า ‘Comandante’ หรือผู้บัญชาการทัพ ที่แฟนบอลกาลาตาซารายตั้งให้ ดูจะไม่เกินไปเลยสำหรับ กองกลางตัวรุก
ผู้ยกระดับฟุตบอลในประเทศโรมาเนีย ซึ่งเจ้าตัวถือเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ได้ค้าแข้งให้กับทั้ง เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า สองคู่
ปรับแห่งลาลีกาสเปนด้วย นั่นทำให้เขาคือนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโรมาเนีย
ด้วยเกียรติประวติตลอดอาชีพค้าแข้งทำให้สโมสรในบ้านเกิดอย่าง ฟารูล คอนสเตนต้า ที่ปลุกปั้นเขามา ได้เปลี่ยนชื่อสนามให้เป็น
สตาดิโอนุล เกออร์เก ฮาจี แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น สตาดิโอนุล ฟารูล เพื่อความสะดวกในการเรียกมากขึ้น
ดิเอโก้ มาราโดน่า – เอสตาดิโอ ดิเอโก้ อาร์มานโด้ มาราโดน่า (อาร์เจนติโนส จูเนียร์ส)
ตำนานแข้งแห่งชาติฟ้าขาว และโลกฟุตบอล คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณกันมากมายสำหรับนักเตะนามว่า ดิเอโก้ มาราโดน่า ที่ผ่าน
การค้าแข้งและการคว้าความสำเร็จมาอย่างโชกโชน ซึ่งทีมที่เขาปักหลักประกาศความยิ่งใหญ่ก็คือ นาโปลี ยอดทีมจากกัลโช่ เซเรี
ยอา ที่ถือว่าเป็นลีกที่แข็งแกร่งที่สุดในเวลานั้น นอกจากนี้กับทีมชาติอาร์เจนติน่า เขาก็พาทีมเถลิงบัลลังก์แชมป์โลกปี 1986ได้ด้วย
หลังจากเจ้าตัวอำลาอาชีพค้าแข้งสโมสร อาร์เจนติโนส จูเนียร์ส ที่เป็นทีมที่เขาได้เริ่มต้นเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพเป็นทีมแรก ได้
เข้ามาติดต่อขอนำชื่อเขาไปตั้งเป็นชื่อสนามของตัวเอง เพื่อจารึกไว้ว่าครั้งนึงยอดแข้งของโลกเคยอยู่ที่นี้ โดยใช้ชื่อสนามว่า เอส
ตาดิโอ ดิเอโก้ อาร์มานโด้ มาราโดน่า ที่มีความจุราว 26,000ที่นั่ง
แฟแร็นตส์ ปุสกัส -ปุสกัส แฟแร็นตส์ (ปิดไปแล้ว)
หนึ่งในสุดยอดกองหน้าตลอดกาลของโลกลูกหนังที่โลดแล่นอยู่ในช่วงปี 40-60 ซึ่งเขาสร้างชื่อมากมายกับ เรอัล มาดริด และ ทีม
ชาติฮังการี ที่แม้จะถูกตราหน้าว่าเป็นกองหน้าตัวเล็กที่ถนัดยิงแค่เท้าข้างเดียว แต่เขาก็กดไปกว่า622ประตู จากการลงสนาม
629นัด ทั้งในระดับทีมชาติและสโมสร แถมที่เวทีลา ลีกา สเปน ปุสกัส ครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของลีกถึง 4 สมัย ช่วยทีมคว้า
แชมป์ 6 สมัย รวมถึงแชมป์ ยูโรเปียน คัพ อีก 3 สมัย ในปี 1960 เกมยูโรเปียน คัพ ปุสกาส ยิงคนเดียว 4 ประตูในนัดชิงชนะเลิศ พา
มาดริด ชนะ ไอทรัคต์ แฟรงค์เฟิร์ต 7-3
หลังจากที่เขาอำลาสนามไป ชื่อของเขาก็ถูกนำไปตั้งให้กับสนามกีฬาแห่งชาติที่ประเทศฮังการี ใช้ชื่อว่า ปุสกัส แฟแร็นตส์ สตาดิโอ
ที่มีความจุราวๆ 39,000ที่นั่ง แต่เคยรองรับคนเข้าไปมากถึง 104,000 ในเกมที่ วาซาส เปิดสนามเจอกับ ราปิด เวียนนา น่าเสียดาย
ที่ในปัจจุบันสนามนี้ถูกปิดตัวลงไปแล้ว นอกจากชื่อสนาม ปุสกัส ยังถูกนำไปเป็นชื่อของรางวัลลูกยิงสุดสวยที่จะมีประกาศทุกๆปีอีกด้วย
จูเซปเป้ เมอัซซ่า -จูเซปเป้ เมอัซซ่า(อินเตอร์ มิลาน)
ตำนานดาวยิงของอินเตอร์ มิลาน และ เอซี มิลาน ที่โลดแล่นอยู่ในโลกลูกหนังช่วงปี 1920-1947 และถือเป็นคนมิลานโดยกำเนิด
แต่เขาจะถูกจดจำในฐานะตำนานของฝั่งงูใหญ่เสียมากกว่า เพราะเกินกว่าครึ่งนึงของอาชีพเขาอยู่กับเนรัซซูรี่เสียส่วนใหญ่โดยลง
สนามไปทั้งหมด 408 นัด ยิง 283 ประตูให้กับทีม
หลังจากฝากความยิ่งใหญ่อันเป็นตำนานชื่อของเขาก็ถูกนำมาใช้เป็นชื่อสนามที่ทั้ง อินเตอร์ มิลาน และ เอซี มิลาน ใช้ร่วมกัน โดย
ฝั่งสาวกงูใหญ่จะเรียกสนามแห่งนี้ด้วยชื่อ จูเซปเป้ เมอัซซ่า ส่วนทางฝั่ง รอสโซเนลลี่ จะเรียกด้วยชื่อ ซานซิโร่ ซึ่งในปัจจุบันทั้งสอง
ทีมกำลังมีแผนที่จะเปลี่ยนไปใช้สนามแห่งใหม่และทุบสนามแห่งนี้ทิ้งแต่ก็ยังไม่มีกำหนดการอย่างเป็นทางการออกมา
โยฮัน ครัฟฟ์ -โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า(อาแจ๊กซ์)
นักเตะเทวดาแห่งโลกฟุตบอลที่มีชื่อเสียงทั้งในฐานะนักเตะจอมเทคนิค และในฐานะกุนซือผู้วางรากฐานของบาร์เซโลน่า เจ้าตัว
ผ่านเส้นทางสายนี้มาอย่างโชกโชน การันตีด้วยรางวัลบัลลงดอร์ 3สมัยพร้อมแชมป์อีกมากมายที่เจ้าตัวคว้ามาได้
ด้วยผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ ทำให้ในปี 2017ที่ผ่านมาอาแจ๊กซ์ สโมสรที่ถือเป็นทีมแจ้งเกิดของเขา ก็ได้ประกาศว่าจะเปลี่ยนชื่อ
สนามจากเดิมคือ อัมสเตอร์ดัม อารีน่า มาเป็น โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า ที่มีความจุมากถึง 54,000ที่นั่ง
ซานติอาโก้ เบร์นาเบว -ซานติอาโก้ เบร์นาเบว(เรอัล มาดริด)
นักเตะวันแมนคลับที่อยู่กับ เรอัล มาดริดมาตั้งแต่เป็นนักเตะเยาวชน จนถึงการมาเป็นกุนซือของทีม แถมยังเคยก้าวขึ้นไปถึง
ตำแหน่งประธานสโมสร ช่วงปี 1943-1978 และนับว่าเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนนึงในวงการฟุตบอลสเปน
ด้วยความยิ่งใหญ่ของเขาทำให้สโมสรยักษ์ใหญ่ของโลกจัดการเอาชื่อของเขาไปใช้เป็นชื่อสนาม เพื่อตอบแทนความภักดีและการ
ทำงานอย่างหนักเพื่อสโมสรในทุกบทบาทอาชีพ โดยใช้ชื่อว่า ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ที่ยังคงใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน และเป็นสนาม
ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกด้วยความจุกว่า 81,044ที่นั่ง พร้อมกับเป็นสถานที่ที่บันทึกเรื่องราวความยิ่งใหญ่หลาย 10ปี ของทัพราชันชุดขาว